Boucheron Captures Nature’s Elegance in Carte Blanche 2025 Impermanence
Carte Blanche 2025 Impermanence คอลเลกชันเครื่องประดับชั้นสูงล่าสุดจาก Boucheron ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองและเชิดชูความงดงามของธรรมชาติ ต่อเนื่องมาจากผลงานคอลเลกชัน Histoire de Style ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา


Carte Blanche 2025 Impermanence เป็นผลงานที่ แคลร์ ชวสเน่ (Claire Choisne) ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ของเมซงตั้งใจสานต่อจินตนาการของเธอจากชิ้นงาน “Eternal Flowers” เมื่อปี ค. ศ. 2018 โดยแปรเปลี่ยนความงามชั่วคราวของดอกไม้ให้เป็นนิรันดร์ พร้อมนำเสนอแก่นแท้ของธรรมชาติที่เชื้อเชิญให้เราหยุดเพื่อสำรวจและทำความเข้าใจธรรมชาติให้ลึกซึ้งขึ้น เพื่อให้มองเห็นและรักษาความงดงามนี้ไว้ได้ตราบนานเท่านาน


แคลร์ ชวสเน่ ออกแบบคอมโพสิชันของพฤกษานานาพันธุ์ไว้ทั้งสิ้น 6 รูปแบบที่ถ่ายทอดความงดงามชั่วขณะของธรรมชาติก่อนจะเลือนหายไป จาก “แสง” สู่ “เงา” แม้จะเป็นความงามเพียงชั่วพริบตา แต่ก็ล้ำค่าตราตรึงเป็นนิรันดร์ โดยได้แรงบันดาลใจจากศิลปะการจัดดอกไม้อิเคบานะ และหลักปรัชญาวาบิซาบิของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแนวคิดในการยอมรับและชื่นชมความงามของความไม่สมบูรณ์แบบ ความเรียบง่าย และการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา


คอมโพสิชันทั้ง 6 รูปแบบมีตั้งแต่ “Composition n°6” ที่โปร่งแสง ไปจนถึง “Composition n°1” อันลุ่มลึก โดยร้อยเรียงจากเครื่องประดับชั้นสูงกว่า 28 ชิ้น ผลงานแต่ละชิ้นเปรียบเสมือนตัวแทนของธรรมชาติที่ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเลือนหายจาก “แสง” สู่ “เงา” ไปตามกงล้อแห่งกาลเวลา โดยมี “แสง” เป็นสายใยเชื่อมโยงแต่ละผลงานในคอลเลกชัน Impermanence เข้าไว้ด้วยกัน
Composition n°6 นำเสนอความสง่างามของดอกทิวลิป กิ่งยูคาลิปตัส รังสรรค์จากแก้วบอโรซิลิเกตขึ้นรูปด้วยมือ บนชิ้นงานมีแมลงปอ ลำตัวทำจากทองคำขาวประดับเพชร ส่วนปีกรังสรรค์จากแก้วแซฟไฟร์และมาเธอร์ออฟเพิร์ล




Composition n°5 นำเสนอความงามของดอกทิสเซิลที่รังสรรค์จากเรซิ่นจากพืชธรรมชาติ ประดับเพชร ใบทำจากทองคำขาวประดับเพชร เคลือบเซรามิกสีขาว เช่นเดียวกับส่วนของด้วงแรดที่มาช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้ชิ้นงาน


Composition n°4 มาพร้อมดีไซน์ดอกไซคลาเมน รวงข้าวโอ๊ต หนอนผีเสื้อ และผีเสื้อ ประดับเพชรและสปิเนลสีดำ ผสานด้วยคริสตัลธรรมชาติและแลคเกอร์สีดำบนตัวเรือนไทเทเนียมและทองคำขาว แจกันทองคำขาวประดับเพชรทั้งใบวางบนฐานวัสดุคอมโพสิตสีดำ




Composition N°3 ผลงานดอกไอริส ดอกวิสทีเรีย และด้วงกวาง ที่รังสรรค์ขึ้นจากการประดับเพชร ผสมผสานกับเซรามิกสีขาว อลูมิเนียม ไทเทเนียม และทองคำขาว แจกันอลูมิเนียมและไทเทเนียมประดับสปิเนลสีดำทั่วทั้งชิ้นตั้งอยู่บนฐานวัสดุคอมโพสิตสีดำ



Composition N°2 นำเสนอความงดงามของกิ่งแมกโนเลียและตั๊กแตนกิ่งไม้ที่รังสรรค์ด้วยวัสดุอลูมิเนียม และเซรามิกเคลือบสีดำและทองคำขาว ประดับเพชรทั้งชิ้น แจกันและฐานทำจากวัสดุคอมโพสิตสีดำ สะท้อนความละเอียดและงดงามในทุกมิติ


Composition N°1 ประกอบด้วยดอกป๊อปปี้ กิ่งดอกสวีตพี และผีเสื้อ ที่รังสรรค์ขึ้นจากอเวนจูรีนและแก้วสีดำ ประดับด้วยเพชร สปิเนลสีดำ รวมถึงออนิกซ์ลงสีที่ดูดซับแสงถึง 99.4% อย่าง Vantablack® และไทเทเนียม ส่วนแจกันทรายดำตั้งอยู่บนฐานวัสดุคอมโพสิตสีดำ สื่อถือความงดงามท่ามกลางความมืดมิด



ทั้งหมดถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องประดับสไตล์มัลติแวร์ สามารถสวมใส่ได้หลากหลายรูปแบบ อาทิ เข็มกลัด แหวน กำไลข้อมือ เครื่องประดับผม ใช้เวลารังสรรค์ร่วมทั้งสิ้นกว่า 18,000 ชั่วโมง และถือเป็นความท้าทายกรอบความคิดเดิมของโลกเครื่องประดับทั้งในเชิงรูปทรง การเลือกใช้วัสดุ นวัตกรรม และเทคนิคสุดล้ำสมัย
บทความ: Luxuo Thailand ภาพ: Boucheron
บทความที่เกี่ยวข้อง:
Cartier Siam Paragon บูติกแฟลกชิปสองชั้น นำเสนอสรวงสวรรค์กลางกรุงเทพฯ