บรรณาธิการ WOW สองประเทศถกประเด็นนาฬิกาหน้าปัดเขียวซึ่งเป็นที่จับตาของคนทั้งวงการในเวลานี้
บทความ: อาชก โซมาน และ รักดี โชติจินดา
หน้าปัดสีเขียวเป็นประเด็นร้อนที่คนนิยมพูดถึงกันในวงการนาฬิกาขณะนี้ หากคุณไปบอกให้นักข่าวสายนาฬิกาหรือนักเขียนแนวไลฟ์สไตล์คนใดเขียนเกี่ยวกับเทรนด์นาฬิกาในปี ค.ศ. 2021 ก็จะต้องมีเรื่องของนาฬิกาหน้าปัดสีเขียวติดโผเรื่องที่ต้องพูดถึงด้วยอย่างแน่นอน แม้แต่ในเวทีเสวนาภายในงาน Watches and Wonders ก็ยังมีการพูดถึงประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน บรรณาธิการของ WOW จากสิงคโปร์และไทยจึงเห็นพ้องต้องกันว่านี่แหละคือประเด็นที่เราควรจะถกกันบ้าง เผื่อจะมีข้อคิดใดที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณผู้อ่านบ้าง
รักดี: เป็นยังไงบ้างครับคุณอาชก หลังจาก Watches and Wonders Geneva 2021 จบนี่ได้พักบ้างไหม
อาชก: นักข่าวต๊อกต๋อยอย่างเรามีได้พักด้วยเหรอ แล้วที่หนักกว่านั้น คือ ได้เห็นนาฬิกาสวยๆ จำนวนมาก แต่ไม่ได้จับสักเรือนนี่สิ แล้วก็ยังมีอีกประเด็นที่ทำให้ผมว้าวุ่นใจ นั่นก็คือเรื่องที่ใครต่อใครมาประกาศว่านาฬิกาหน้าปัดสีเขียวเป็นเทรนด์นี่แหละ
รักดี: เมืองไทยนี่ ถ้าไม่ใช่เพราะ Rolex คนก็คงจะไม่ยอมรับนาฬิกาหน้าปัดสีเขียวกันนะครับ และกว่าที่คนจะเริ่มให้ความสนใจกับนาฬิกาหน้าปัดสีเขียวที่มาจากแบรนด์อื่นก็น่าจะเมื่อปีที่แล้วนี้เองมั้งครับ ไม่รู้ว่าที่สิงคโปร์เป็นแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า
อาชก: สีเขียวไม่ใช่สีดั้งเดิมของวงการนาฬิกาจริงๆ ครับ แต่ผมก็คิดด้วยว่าการที่สีเขียวถูกผูกไว้กับ Rolex อย่างแยกไม่ออกก็ทำให้แบรนด์อื่นไม่กล้าทำนาฬิกาสีเขียวด้วยเหมือนกัน ในทางกลับกัน พูดแล้วก็เหมือนกับแย้งกับตัวเองอ่ะนะ คือ สีเขียวเป็นสีที่สำคัญในตลาดตะวันออกกลาง และก็น่าจะสำคัญในมาเลเซียและอินโดนีเซียด้วย ผมมีประสบการณ์การทำงานในทั้งสองประเทศนั้นจึงสามารถยืนยันได้อย่างมั่นใจ
รักดี: แล้วเราจะบอกว่าจู่ๆ เวลานี้ตลาดมีนาฬิกาหน้าปัดสีเขียวเพิ่มขึ้นอย่างมากมายเพราะอะไรครับ ก่อนหน้านี้สักสองปีเรายังเพิ่งจะเห็นนาฬิกาหน้าปัดสีเขียวอยู่แค่ไม่กี่รุ่นอยู่เลย นาฬิกาหน้าน้ำเงินมีเยอะไปแล้วหรือยังไง หรือจะบอกว่าวงการนาฬิกาต้องการสร้างตัวเลือกใหม่ๆ ให้คนรู้สึกสดชื่นหรือได้เปลี่ยนบรรยากาศจากสถานการณ์โควิดที่ยังไม่จบสิ้นนี้ดี
อาชก: ผมว่านะ เราไม่สามารถหาเหตุผลที่ชัดเจนได้หรอกว่าทำไมแบรนด์นาฬิกาจึงทำนาฬิกาสีใดสีหนึ่ง หรือทำไมอะไรกลายเป็นเทรนด์ คุณจะทำนาฬิกาสีรุ้งหรือหน้าสีแซลม่อนก็ได้ เพราะทุกวันนี้ก็มีทั้งสองแนวนั้นอยู่หลายรุ่น นี่ผมก็นึกถึงเทรนด์นาฬิกาหน้าสีน้ำตาลเมื่อราว 15 ปีก่อนด้วย ตอนนั้นเขาไม่ได้เรียกกันว่าเป็นเทรนด์หรอกที่จริงแล้ว แต่เราเห็นการใช้หน้าปัดสีน้ำตาลกันอย่างแพร่หลายเพราะว่ามีนาฬิกาตัวเรือนโรสโกลด์ออกมาเป็นจำนวนมาก ประเด็นของเทรนด์จริงๆ จึงอยู่ที่ตัวเรือนโรสโกลด์มากกว่า
รักดี: ถ้าเป็นตอนนี้ เราก็เห็นนาฬิกาตัวเรือนบรอนซ์หน้าปัดเขียวเยอะอยู่นะครับ แต่ก็แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องมีตัวเรือนบรอนซ์จึงจะมีหน้าปัดเขียวได้
อาชก: รักดีและคนอื่นๆ พูดถูกแล้วครับที่ว่าทุกวันนี้มีแบรนด์ที่ทำนาฬิกาสีเขียวจำนวนเยอะขึ้นมาก ทั้งที่เป็นตัวเรือนบรอนซ์และตัวเรือนวัสดุอื่นๆ นี่บางคนเขาก็บอกนะครับหน้าปัดสีเขียวดูไม่เข้ากับความเงางามของสตีล ส่วนมากก็จะเป็นคนที่ไม่ชอบ Patek Philippe 5711A ใหม่นั่นแหละ
รักดี: เอ่… อันนี้ผมยังไม่เคยได้ยินด้วยตัวเองนะครับ ผมคิดว่าน่าจะขึ้นอยู่กับว่าเป็นเขียวเฉดไหนและฟินิชชิ่งของหน้าปัดเป็นแบบไหนมากกว่าไหมครับ ผมไม่อยากปิดกั้นตรงจุดนี้ ถึงแม้ว่าตัวผมเองจะไม่มีแผนซื้อนาฬิกาหน้าปัดสีเขียวก็ตาม
อาชก: ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมแบรนด์ต่างๆ จึงมาขยันทำนาฬิกาหน้าปัดเขียวพร้อมกันในเวลานี้ ผมไม่มีข้อมูลโดยตรงจากผู้บริหารแบรนด์ใดทั้งนั้น อาจจะเป็นเพราะรีเทลเลอร์บอกแบรนด์ว่าหน้าปัดเขียวขายได้หรือเปล่าครับ แบรนด์ส่วนมากเขาก็ฟังเสียงของตลาดอยู่แล้ว แต่ผมก็เข้าใจว่าบางแบรนด์เขาทำนาฬิกาสีเขียวเพราะเขามีเหตุผลของเขาเอง
รักดี: คุณอาชกมีนาฬิกาหน้าปัดสีเขียวสักเรือนไหมครับ ผมไม่มี ที่จริงก็เคยดูนะแต่ไม่เคยซื้อ เท่าที่นึกออก คือ Luminox และ Glashütte Original ซึ่งเป็นสองสไตล์ที่ต่างกันมาก ผมคิดว่าน่าจะเป็น Luminox นี่แหละที่ทำให้ผมเริ่มมองนาฬิกาหน้าปัดสีเขียวตั้งแต่แรก เป็นเขียวทหารน่ะครับ โอลีฟกรีน
อาชก: ไม่มีครับ นาฬิกาหน้าน้ำเงินยังไม่มีเลย รักดีเรียกผมว่าเป็นกลุ่มหัวโบราณเลยก็ได้มั้ง
รักดี: คุณอาชกไม่มีนาฬิกาหน้าน้ำเงิน!??#$##! ขอตกใจแป๊บนึง อ่ะ … เชิญต่อครับ
อาชก: ถ้าถามผมนะ ผมคิดว่าคนเราควรจะมีคอลเลคชั่นที่ครอบคลุมถึงระดับหนึ่งก่อนจึงจะเริ่มซื้อนาฬิกาหน้าสีพิเศษต่างๆ ซึ่งสีเขียวก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ผมจะไม่พูดถึง Swatch หรือนาฬิกาเรือนเล็กเรือนน้อยต่างๆ นะครับ ถ้าเป็นนาฬิกาจริงจัง ผมคิดว่าหน้าปัดควรจะเป็นสีโทนขรึม นี่เป็นอีกหนึ่งแง่มุมที่ทำให้สีเขียวต่างจากสีน้ำเงินและมีความแปลกแยกเหมือนกับสีแซลม่อน สีน้ำเงินสามารถดูขรึมได้ง่ายๆ แต่สีเขียวไม่ง่ายขนาดนั้น ถ้าใครบอกว่าผมหัวโบราณน่าเบื่อ ผมจะบอกเขาเลยว่าผมมีนาฬิกาหน้าส้มกับเขาเหมือนกันนะ สายหนังสีส้มซะด้วย ให้มันรู้กันไป!
รักดี: 5555 ได้ครับ ได้ ผมเองก็มีนาฬิกาหน้าแดงสองเรือน แต่เป็นนาฬิกาที่ไม่ได้มีราคาสูงนะครับ ผมเห็นด้วยกับคุณอาชกว่าสีของหน้าปัดนาฬิกาที่เราเลือกใส่เป็นการบ่งบอกตัวตนและความชอบของเรา แต่ในเรื่องที่คุณอาชกพูดถึงความขรึมนั้น คุณอาชกจะไม่ยอมเรียกสีเขียวเข้มแบบ Reverso Tribute Small Seconds ใหม่ของปีนี้ว่าขรึมเหรอครับ มันดูไม่ใช่เขียวสว่างเท่า Reverso รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นของลอนดอนและคูเวตแน่ๆ ล่ะ
อาชก: อย่างสีเรซซิ่งกรีนเดิมๆ แบบที่ใช้ใน Breitling for Bentley Chronomat ปีนี้ก็ค่อนข้างคลาสสิกครับ ตัว Reverso ที่พูดถึงนั้นก็น่าจะเรียกว่าเป็นเขียวที่ดูคลาสสิกได้ด้วย คือ จะบอกว่า สีเขียวเป็นสีที่ดูมีระดับได้ แต่ไม่ค่อยคลาสสิกเท่าไหร่ งงไหมครับ แต่แบบคุณสเติร์นก็ต้องเห็นด้วยแหละว่าสีเขียวเป็นสีที่ดูดี ไม่อย่างนั้นจะเอาไปใช้ในทั้ง Nautilus และ Aquanaut ได้ยังไง
รักดี: แล้วเรื่องการใช้สีเขียวในนาฬิกาสไตล์ต่างๆ ล่ะครับ ผมคนนึงแล้วล่ะที่ไม่สามารถเอาสีเขียวไปผูกไว้กับท้องฟ้าได้ ผมจึงมองว่าสีเขียวเป็นสีที่น่าสนใจสำหรับ TAG Heuer Monaco รุ่น Grand Prix de Monaco Historique หรือ Seiko Alpinist แต่พอเป็น IWC Pilot’s Watch Chronograph 41 แล้วผมกลับรู้สึกตะขิดตะขวงใจนิดนึง ทั้งที่มันเป็นนาฬิกาที่ดูหล่อและคมคายมาก
อาชก: คงไม่มีใครคิดถึงท้องฟ้าสีเขียวจริงๆ แหละ แต่ผมเดาว่า IWC เลือกใช้สีเขียวเพราะเป็นสีโทนทหารหรือเปล่า ที่รักดีพูดเรื่องสไตล์นั้นก็ถูกแล้ว และผมคิดว่านาฬิกาหน้าปัดสีเขียวรุ่นต่างๆ ของ Montblanc ก็คงจะเข้าธีมทหารได้ดีด้วยเช่นกัน ประเด็นต่อไปคือเรื่องของสายนาฬิกาครับ เพราะนาฬิกาหน้าน้ำเงินมักจะดูดีมากๆ เมื่อใส่กับสายสีน้ำเงิน แต่ถ้าเป็นนาฬิกาหน้าเขียวและสายสีเขียวก็อาจจะดูเยอะเกินไป หลายแบรนด์จึงเลือกนำสีเขียวมาใช้แค่บนด้ายที่ใช้เย็บสาย เหมือนที่เคยทำกันมามากแล้วกับสีแดงหรือสีเหลือง
รักดี: คุณอาชกพูดเรื่องสายและการจับคู่ขึ้นมาก็ดีแล้ว เพราะผมอยากพูดเรื่องเสื้อผ้าอยู่พอดีเลย ผมคิดว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมเลือกไม่ซื้อ Glashütte Original Sixties หรือ Seventies หน้าเขียวก็เพราะว่าผมไม่แน่ใจว่าจะเอามาใส่ยังไงหรือใส่เมื่อไหร่ เสื้อผ้าที่มีก็ดูเหมาะกับนาฬิกาหน้าน้ำเงิน หน้าแดง หรือเต็มที่หน้าน้ำตาล แต่คงจะไม่รับกับนาฬิกาหน้าเขียวหรือหน้าเหลือง ผมว่านาฬิกาหน้าเขียวนี่เอาไปใส่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะง่ายกว่าไหมครับ เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นหน้าสีเขียวเข้มหรือขรึมจริงๆ
อาชก: นาฬิกาเรือนนึงมันก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นนะครับ ต่อให้เป็น Richard Mille หรือ Franck Muller ก็ตาม ดังนั้นผมคิดว่าไม่ต้องไปกังวลขนาดนั้นหรอก ถ้าเป็นสายนาฬิกานี่สิ เห็นแน่ และอาจจะดูขัดกับแขนเสื้อเชิ้ตหรือตีกับเสื้อแจ็คเกตที่เราใส่ได้
รักดี: คุณอาชกคิดว่าข้อดีหรือประโยชน์ที่เกิดจากเทรนด์นาฬิกาสีเขียวนี้คืออะไรครับ ผมชอบตรงที่เทรนด์นี้ทำให้คนมีมุมมองที่เปิดกว้างมากขึ้น พูดถึงทั้งคนทำงานแบรนด์และคนซื้อนาฬิกาเลยนะครับ และเทรนด์นี้ก็น่าจะเปิดทางให้นาฬิกาหน้าปัดสีอื่นๆ ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ได้ง่ายกว่าเดิมด้วย
อาชก: โดยส่วนตัวแล้วผมรอดูอยู่ครับว่าตลาดจะตอบสนองต่อนาฬิกาสีเขียวยังไง คงต้องดูกันอีกหลายปีเลย เพราะเทรนด์ในวงการนาฬิกามักจะอยู่นาน ไม่เหมือนในวงการแฟชั่น ไม่มีใครอยากจ่ายเงินจำนวนมากๆ เพื่อซื้อนาฬิกาที่จะดูเอาท์ในปีหน้าแล้ว นิดนึงครับเรื่องราคา ผมคิดว่าถ้าเราเห็นนาฬิกากระแสหลักทำหน้าปัดสีเขียวมากขึ้น หมายถึงนาฬิการาคาปกติทั่วไปนะครับ เมื่อนั้นแหละครับที่เราจะรู้ได้ว่าสีเขียวเป็นที่ยอมรับของตลาดแล้ว เราจะได้เห็นการทดลองใช้สีเขียวเฉดต่างๆ อย่างที่รักดีบอก แล้วในที่สุดผู้คนก็จะเห็นว่าเขียวใดเป็นเขียวที่รอด และเขียวใดเป็นเขียวที่ไม่รอด จากแบรนด์นี้หรือจากแบรนด์นั้น
รักดี: นี่แอบคิดอยู่ครับว่าเทรนด์นาฬิกาสีเขียวนี้จะช่วยส่งให้หน้าปัดมาลาไคท์เป็นที่ยอมรับมากขึ้นด้วยหรือไม่ ผมรู้สึกหลงใหลในมาลาไคท์มาตั้งแต่ที่ได้ไปรู้จักอย่างจริงจังภายในนิทรรศการของ Van Cleef & Arpels ที่สิงคโปร์เมื่อปี ค.ศ. 2016 และจำได้ด้วยว่านาฬิกาที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจที่สุดจากการไปเยือนโรงงาน Omega ครั้งสุดท้ายก่อนโควิดเป็น Seamaster 300 หน้ามาลาไคท์ เกิดมาไม่เคยคิดภาพนาฬิกาดำน้ำหน้ามาลาไคท์มาก่อนเลยจริงๆ แต่ Omega ทำได้สวยและลงตัวมาก ทั้งในตัวเรือนเยลโลว์โกลด์และตัวเรือนแพลทตินัม
อาชก: ผมบอกได้ว่าที่สิงคโปร์นี่ตอนแรกเสียงแตกมากครับเรื่อง Seamaster เรือนที่รักดีพูดถึง ตอนแรกเขาบอกกันว่าจะไม่เอาเข้าเลยด้วยซ้ำ แต่นักข่าวทุกคนชอบนะครับ และในภายหลัง Omega ก็เปลี่ยนใจเอาเข้ามา ผมไม่รู้หรอกว่าที่จริงแล้วเปลี่ยนใจเพราะอะไร แต่ผมคิดว่าตอนแรกคงไม่มีใครอยากเสี่ยงกับของแปลกขนาดนั้น แต่ปรากฏว่าลูกค้าชาวสิงคโปร์ใจพร้อมพอ ไม่ได้จะแห่มาซื้อกัน แต่มีคนพร้อมซื้อ จัดว่าเป็นนาฬิกาที่นิชมากๆ เลยครับรุ่นนี้
รักดี: แล้ว Tudor Black Bay Fifty-Eight 18K ล่ะครับ ทางนั้นว่ายังไงกันบ้าง ทั้งนักข่าวและลูกค้าเลย
อาชก: คนที่นี่ชอบกันมากครับ แต่ผมว่านะ ถ้า Tudor ทำ Black Bay Fifty-Eight สีชมพูด้วยตัวเรือนพัลลาเดียมและสายวีแกนขนมิงค์ปลอมก็คงดูดีเหมือนกันและคงจะขายดีด้วย แต่สำหรับเรือนทองนี้ก็ต้องเป็นคนรักแบรนด์จริงๆ ล่ะครับ เช่นเดียวกันกับ Seamaster หน้ามาลาไคท์นั้น
รักดี: Tudor รุ่นนี้ เรื่องหน้าตาก็โดนใจผมอยู่ แต่ผมยังไม่พร้อมจ่ายค่าตัว Tudor เรือนทองครับ อันที่จริง ผมไม่พร้อมจ่ายค่าตัวนาฬิกาทองของแบรนด์อะไรทั้งนั้นแหละ เพราะว่าเงินผมมีจำกัด ถ้าจะซื้อทอง ผมไปซื้อสตีลสองเรือนดีกว่า ทั้งเนื้อทั้งตัวผมมีนาฬิกาทองแค่เรือนเดียวเพราะว่ารุ่นนั้นเขาไม่ยอมผลิตเป็นสเตนเลสสตีล เลยต้องจำใจซื้อทอง ว่าแต่ กลับมาที่เรื่องนาฬิกาหน้าเขียวของเราต่อดีกว่าครับ
อาชก: สรุปเลยแล้วกันครับ ที่ผมไม่ชอบเรื่องเทรนด์ก็เพราะว่าเราอาจจะส่งสัญญาณผิดๆ ให้กับคนที่เพิ่งจะเริ่มสนใจสะสมนาฬิกาได้ เราอาจบอกว่าสีเขียวหรือสีอะไรเป็นเทรนด์อยู่ในวันนี้ แต่เดี๋ยวอีกไม่กี่ปีก็อาจจะดูเชยก็ได้ อยากให้รักดีนึกถึงหน้าปัดสีน้ำตาลที่ผมพูดถึงตอนแรก หรือนาฬิกาหน้าปัดสีเจ็บๆ จากยุค 70 และก็นาฬิกาตัวเรือนรูปทรงแปลกๆ จากช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ครับ
รักดี: เยี่ยมเลยครับ ผมชอบอารมณ์ของความรับผิดชอบแบบนี้นะ ผมเองก็ไม่เคยเขียนอะไรที่เป็นการเชียร์ให้คนลงทุนในนาฬิกาเลย ผมมีแต่บอกว่าช่วยซื้ออย่างที่ตัวเองชอบเถอะ อย่าซื้ออย่างที่เพื่อนชอบหรือที่คนอื่นเขาเห่อกันเลย ตัวเองก็ทำแบบที่พร่ำสอนด้วย นาฬิกาแต่ละเรือนของผมจึงขายต่อได้ราคาแค่ครึ่งเดียวของราคาป้าย พูดแล้วก็อยากใช้อีโมติค่อนหน้ายิ้มน้ำตาคลอแบบในแชท คงจะได้อารมณ์อยู่ไม่ใช่น้อย
อาชก: เดี๋ยวบอกฝ่ายกราฟฟิกออกกแบบเลยครับ จะอีโมจิ/อีโมติค่อน จัดไป สำหรับบทความนี้ แต่เขาคงกดอีโมติค่อนแบบทำหน้าเอือมๆ ใส่เรานะ ว่าแต่ ที่คุยกันมาทั้งหมดนี้ คือคุยเฉยๆ ในเชิงวิชาการใช่ไหมครับ เพราะไม่ว่าสีเขียวจะเป็นเทรนด์หรือไม่เป็นเทรนด์ สิ่งสำคัญก็คือว่าตอนนี้ผู้ซื้อนาฬิกาสามารถเลือกซื้อนาฬิกาสวยๆ ที่มีหน้าปัดสีทางเลือกและก็อาจจะมีสีอื่นๆ ตามออกมาอีกด้วย
รักดี: เรียกว่าเป็นบทความกึ่งวิชาการกึ่งขายของแล้วกันครับ นี่ถ้าเราไปตั้งกระทู้คุยเรื่องนี้กันบนแพลทฟอร์มออนไลน์อะไรซักอย่างก็คงจะมีคนจำนวนมากจากทั่วโลกมาแสดงความคิดเห็น แต่ถึงแม้ว่านี่เป็นมุมมองของคนแค่สองคนจากภูมิภาคเดียวกัน ผมก็เชื่อว่าประเด็นต่างๆ ที่เราพูดถึงข้างบนนี้ก็คงจะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านที่กำลังเลือกซื้อนาฬิกาอยู่ในเวลานี้นะครับ
คำถามสุดท้ายครับ … คุณอาชกคิดว่าอีก 10 ปีข้างหน้า เมื่อเราย้อนกลับมาดูบทความนี้ เราจะขำความคิดเห็นของเราในวันนี้ไหมครับ
อาชก: เป็นไปได้! เราอาจจะรู้สึกว่าไม่น่าพูดเรื่องหน้าปัดสีเขียวซะยาวเหยียดขนาดนี้ก็ได้ แต่หลายประเด็นที่เราพูดถึงก็ยังคงเป็นจริงในวันนี้เหมือนในวันวาน ซึ่งก็น่าจะเป็นจริงต่อไปจนถึงอนาคตแบบไม่กี่ปีข้างหน้านี้ด้วย
รักดี: พิมพ์คุยกันเพลินมาก นี่เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง 55 นาทีแล้วครับ ขอบคุณคุณอาชกที่สละเวลามาเขียนบทความนี้ด้วยกัน ดูแลสุขภาพนะครับ และหวังว่าจะได้เจอกันอีกที่สิงคโปร์ในเร็ววันนี้ คิดถึงพาลัคพาเนียร์มากๆ แล้ว อยากไปกินอีก
อาชก: เช่นกันครับรักดี มาเลยมา เดี๋ยวสั่งแกงเขียวหวานด้วยเลย!
บทความที่เกี่ยวข้อง: Omega Times the Olympic Games Once More
The editors of WOW Singapore and WOW Thailand share their views on the trending issue of green dial watches.
Words: Ashok Soman and Ruckdee Chotjinda
The conversation around green dials makes it seem like this is some sort of phenomenon sweeping Swiss watchmaking. Ask a specialist or lifestyle writer for 2021 watch trends and green dials are bound to come up, as they did in a public discussion panel during Watches and Wonders recently. The editors of both editions come together to compare notes on this topic. As usual, they find that they have a lot to say …
RC: Did you get some well-deserved rest after Watches and Wonders Geneva 2021?
AS: No rest for the wicked! More like no rest for the poor watch writer, confronted by so many wonderful watches, yet unable to touch any of them. My real frustration has another source this year. I have to say, I take issue with all the proclamations about trending green dials.
RC: You know, in my market, watch buyers did not accept green as a valid colour until it was used rather conspicuously by Rolex. And even so, it was not until a year ago that green was embraced here if a watch was made by another brand. What do you say? Is it the same in Singapore?
AS: It is true that green is not traditional in watchmaking, although I would argue that the strong association of this colour with Rolex discourages most other brands. On the other hand, to rubbish my own point there, green is an important colour for markets in the Middle East, and quite likely Malaysia and Indonesia. From my experience in both countries, I can confirm that actually.
RC: So how do we explain the sudden increase in offerings now? It was just an uptick two years ago. Is the market saturated with blue watches? Or is it that the watch industry just wants to create fresher variations for people to look forward to or talk about during this otherwise gloomy time of pandemic?
AS: To me, I feel like there is no meaningful way to assess basic colours as offered by watchmaking brands – in terms of what is trending. You could do something on the real worth of rainbow watches and probably salmon dials, both of which are ongoing. I’m reminded of the brown dial trend 15 years ago or so. That was not the real trend. Instead, those dials accompanied an influx of rose gold models so rose gold was the real story.
RC: Well, we did see bronze watches with a green dial recently, right? But, of course, the phenomenon is hardly restricted to bronze.
AS: I will say that you and other observers are right to say that there are now many more brands including something in green in their assortments. And yes, going beyond bronze of course! There is some talk about green not working well with the shine of steel, mostly from those who do not like the new Patek Philippe 5711A.
RC: Hmmm … I haven’t heard anything along that line yet. But I think it should come down to which hue of green and the finishing of the dial itself. I am not going to limit possibilities despite the fact that I am not in the market for a green dial watch myself.
AS: As for why brands have embarked on this green journey together, seemingly, I have nothing on the record from any executives. Feedback from retailers I suppose? I mean most brands do pay some heed to what the market wants. Ok, I am sure that some brands are going green for their own reasons.
RC: Do you own a watch with a green dial? I don’t, but I did look seriously at a few of them in the past. Luminox and Glashütte Original come to mind now. Yes, they are very different, I know. In fact, I think it was Luminox that first got me looking at a green dial – it was kind of olive green, military green, you know.
AS: Actually, no, but then again I do not own a watch with a blue dial either so you can lump me in with the extreme traditionalists!
RC: YOU DO NOT OWN A WATCH WITH A BLUE DIAL? Sorry. Please continue.
AS: Seriously though, I feel one needs depth in one’s collection before moving into niche colours, which is what I think green is. Well, I am excluding Swatches and other little novelties for this, so I suppose I do think that a serious watch needs a sober colour – which is another way green is different to blue, and more like salmon. Blue can be perfectly sober, but not so much with green. If anyone dares to call me a stodgy cynic, I will just wave my orange dial watch at them. I do have an odd watch with an orange dial. It also has a matching orange leather strap you know!
RC: Ha ha. That’s a good one. And I can join you right away as I own two red dial watches although they are on the affordable side where prices are concerned. Yes, I agree with you that our choice of dial colour to wear represents a stylistic statement, a personal preference. But on the point you made about sobriety, wouldn’t you classify the darker shade of green like the 2021 Reverso Tribute Small Seconds as sober? It is certainly more sober than the limited editions for London and Kuwait in the past.
AS: Even the traditional racing green, used this year I think for the Breitling for Bentley Chronomat is relatively classical, which is the better word to describe that Reverso dial too. What I am trying to say is that green can be classy, but not quite classic, if that makes sense. I mean, Mr Stern must agree with that or how could green show up in both the Nautilus and the Aquanaut!
RC: Ok. So, what about the use of a green dial in different styles of watches? I, for one, do not associate green with the sky so I would find it a more natural fit to the TAG Heuer Monaco for Grand Prix de Monaco Historique or the Seiko Alpinist than the IWC Pilot’s Watch Chronograph 41 which is a very sharp-looking watch if I don’t think about its sky-bound heritage.
AS: Green skies! No one thinks of that! But I suppose the reference there is to military colours, perhaps? I do think you are correct about different styles. And I suppose the various green dials from Montblanc also fit in with the military theme. And then there’s the matter of the straps, because blue dials really took off and showed their quality when paired with matching straps. If you do this with green, it might be a bit much, so perhaps it will be limited to stitching and such, as brands already do for other niche colours such as red or yellow.
RC: Your touching upon the straps and pairing reminds me to bring up another topic: clothing! I think one of the reasons I did not buy the Glashütte Original Sixties or Seventies with a green dial was because I wasn’t sure how and when to wear it. My wardrobe is more calibrated for watches with a blue or red or brown dial at the farthest extent but probably not green or yellow. I would think that green dials would be more suited to the weekends, unless it is a very sober or dark green?
AS: Well, a watch is quite small – even the behemoths from Richard Mille and Franck Muller – so I think it will not matter too much. But yes, the strap will make the difference as it will provide your watch with the opportunity to be disagreeable with your shirt cuff, or perhaps even your jacket.
RC: Khun Ashok, what do you like best about this ongoing trend or movement or whatever it is? I like the fact that it promotes open-mindedness on the part of both watch companies and customers, and that it paves way for other colours to flourish, like, commercially.
AS: Personally, I am looking forward to seeing how the market reacts – it will take a few years! You know, trends in watchmaking are quite long-lasting, unlike in fashion for example. Nobody wants to spend a small fortune on a watch that is going out of style next year. On the matter of price, briefly, I think if we see a lot of mainstream offerings in green, with mainstream prices, then we will know if green has been accepted. Similarly, I think we will see experiments in different shades of green, as you noted. So that means collectors can have fun to see what shade of green makes it into the full range, and what was perhaps a misstep from the relevant brand.
RC: Maybe, just maybe, malachite dials will benefit from this development also. I have been fascinated by malachite since that exhibition by Van Cleef & Arpels in Singapore back in 2016. And I remember from my last visit to Omega in the pre-Covid world how a particular Seamaster 300 watch was given a malachite dial. It was a very surprising combination, which was very well executed. I mean, I would not have thought of a dive watch with a malachite dial. That stone dial looks great with both yellow gold and platinum case options.
AS: I can report that over here, opinions were so divided over that Seamaster that we initially heard that not even one would make it to our shores. Everyone in the press corps loved it though, and Omega changed their minds eventually and brought it in. I cannot speak to what drove the change, but I think that initially no one wanted to take a chance on such a surprising piece. It turned out that collectors here were ready, but not in large numbers or anything. That watch is the very definition of a niche timepiece!
RC: What about the Tudor Black Bay Fifty-Eight 18K? What do your peers or readers think about it?
AS: People definitely love the look, but my feeling is that Tudor could do the Black Bay Fifty-Eight in pink with a palladium case and faux mink fur vegan strap and it would be just fine! It will probably sell well, but this one also feels like a true-blue novelty. Just like the malachite dial Seamaster.
RC: For that Tudor, I like the look but I am not eager to pay the price for a gold Tudor. Well, I am not eager to pay the price for a gold anything. With my limited means, I would rather have two stainless steel watches. I bought my one and only gold watch only because they did not and do not make it in stainless steel on a regular basis. Anyway, back on the subject of green dial watches.
AS: In a nutshell, that is my issue with trends. We are sending the wrong signals to people just getting into the spirit of collecting timepieces. By implying that green, or whatever colour, is du jour, as they say, then it might be quite out of favour in the years to come. I draw your attention back to those brown dials, for example, but also the vivid hues that marked watches in the 1970s, and the odd shapes that defined the wristwatch in the early 20th century.
RC: I like that sense of responsibility. Perhaps, this is also why I never wrote anything along the line of watch investment. I only encourage people to buy what they like, not what their friends like, and that is also why all of my watches can be resold for only half of the retail price. I wish we had a smiling face with tearful eyes emoticon in this print magazine. It will be perfect here.
AS: We can have the designers crack their heads for suitable emojis/emoticons for this story, to which we will receive facepalm emoticons, no doubt. On that point, do you think this discussion is merely academic? I mean, whether green is in or not, the main thing to note is that now one can get a nice watch with a green dial, and there will probably be more colours coming.
RC: This discussion is half academic, half commercial, I think. If this discussion had taken place on an online discussion platform, there would have been a range of comments from people around the world. But even if this is a discussion between two men in the same region of the world, I would say the back and forth above would have already benefited the readers somehow as they navigate the current marketing offerings while balancing their indulgence or purchases.
Parting question … Do you think that, 10 years from now, we will look back at this article and laugh at the opinions we hold today?
AS: Quite possibly! Well, maybe we will regret going to such lengths about green dials, but I think a number of related points that came up are as relevant today as they were in the past, and so will likely still be relevant in the near future.
RC: It was a great one hour and 55 minutes chat! Thank you for your time. Stay safe, stay healthy, and we go have that palak paneer again next time I am able to visit you and Singapore.
AS: Stay safe and healthy indeed! Let’s add some Thai green curry to that menu!
See also: Omega Times the Olympic Games Once More
