10 ปีแห่งการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของ Tudor ที่น่าสนใจขึ้นแบบผิดหูผิดตา
บทความ: รักดี โชติจินดา
ภาพแรกที่ผมได้รู้จักกับ Tudor คือนาฬิกาที่อยู่ในตู้เล็กๆ หัวมุมข้างในร้านตัวแทน Rolex สมัยผมยังเรียนปริญญาตรีอยู่ ตอนนั้นเห็นอยู่หลายรุ่นเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก มัวแต่สนใจสิ่งที่ไปดูจริงๆ มากกว่า (GMT-Master II ขอบโค้ก) และใจก็ยังคิดถึงรุ่นอื่นที่อื่นด้วย (สมัยนั้นยังหยอดกระปุกซื้อ Speedmaster กับ Reverso อยู่)
เวลาผ่านไป 10 ปี Tudor ก็ออกตัว Heritage Chrono มาแบบโดนใจผมสุดๆ จนรู้สึกว่าต้องหันมาดู Tudor จริงจังบ้างแล้ว ประกอบกับช่วงนั้นเป็นเวลาที่ Tudor กำลังปรับโฉมแบรนด์และภาพลักษณ์องค์กรใหม่อยู่ด้วย พัฒนาการต่างๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเริ่มจากนาฬิกาดำน้ำ Black Bay ในปี ค.ศ. 2012 นาฬิกาเซรามิกสีดำ Fastrider Black Shield ในปี ค.ศ. 2013 และอีกรุ่น (ที่สุดท้ายไม่ได้ดังนัก) คือ North Flag ในปี ค.ศ. 2015
จุดสนใจก็คือคอลเลคชั่น Black Bay ซึ่งเหมือนเป็นพื้นที่ให้ Tudor ได้แสดงออกซึ่งความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ราวกับว่าไม่มีกฎเกณฑ์อะไรจะมาจำกัดเขาได้ เราเองก็พอจะพูดได้ว่า WOW Thailand เติบโตมาคู่กันกับ Black Bay นี้เพราะว่าเราเริ่มตีพิมพ์ในช่วงปลายปี ค.ศ. 2014 จากนั้นมาเราก็ได้เห็น Black Bay Bronze ในปี ค.ศ. 2016 ซึ่งเป็นนาฬิกาที่มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นนาฬิกาที่มีขนาดใหญ่แบบกำลังหล่อและมีรูปลักษณ์ที่แตกต่าง ใส่แล้วให้อารมณ์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
แต่ Tudor ยังไม่หมดแรงเพียงแค่นั้นเพราะยังตามต่อทันทีด้วย Black Bay Chrono ในปี ค.ศ. 2017 และ Black Bay GMT ในปี ค.ศ. 2018 เรียกได้ว่ามีทุกแนวทุกแบบเพื่อผู้ซื้อทุกคนหรือทุกตลาดกันเลย ในเรื่องราคาเมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่นๆ แล้วก็อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลในขณะที่หลายแบรนด์นั้นราคาเฟ้อไปไกลแล้วในช่วงหลายปีก่อนหน้า นี่เรายังไม่ได้พูดถึงพัฒนาการทางด้านเทคนิคของ Tudor ด้วยซ้ำ แต่ในเรื่องนี้ก็ขอสารภาพว่าผมมาถึงจุดที่ไม่ได้สนใจเรื่องเครื่องเท่าไรแล้ว (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าฝาหลังทึบ) เดี๋ยวนี้ซื้อนาฬิกาก็ดูหน้าตาโดยรวมเป็นหลักมากกว่าจริงๆ
กลับมาที่ Tudor กันต่อ นาฬิการุ่นสปอร์ตของ Tudor เหล่านี้มีรายละเอียดหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือสายผ้าครับ ดูเผินๆ เหมือนจะเป็นสายผ้าทั่วไปไม่มีอะไร แต่สายผ้าของ Tudor นี้ถ้าจะให้เขียนเป็นบทความก็เขียนได้ยาวเลยเหมือนกัน อันที่จริงผมเองเคยเขียนไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี ค.ศ. 2017 หลังจากที่ได้ไปชมโรงงานทอผ้าที่ Tudor ใช้ในเมืองแซ็ง-เอเตียน ใกล้กับเมืองลียงของประเทศฝรั่งเศส สายนาฬิกาของ Tudor ไม่เพียงแต่ทนทาน แต่ยังนุ่มพอให้ใส่บนข้อมือนานๆ ได้แบบไม่รู้สึกว่าเสียดสีแต่อย่างใด สีของสายแต่ละเส้นก็ผ่านการคิดมาอย่างดีแล้วว่าช่วยส่งเสริมรูปลักษณ์ของนาฬิการุ่นนั้นๆ ได้อย่างดีด้วย
เมื่อมีผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งแล้วก็ย่อมต้องมีการสื่อสารที่ครบถ้วน ในเรื่องการตลาดนี้ Tudor เลือกโปรโมทนาฬิกาของตนให้สังคมในวงกว้างได้รู้จักผ่านทางแอมบาสเดอร์ระดับโลกจำนวนไม่มากนัก เขาเหล่านี้เป็นบุคคลที่สะท้อนถึงคำขวัญ #BornToDare ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี และเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในสายของตนอย่างแท้จริงอย่างเช่นเดวิด เบคแฮม เลดี้กาก้าและทีมออลแบล็คส์
จากปี ค.ศ. 2010 จนถึงวันนี้ก็เกือบ 10 ปีเต็มแล้ว Tudor ได้เดินทางมาไกลมากๆ ในแง่ของความรู้จักและการยอมรับ Tudor อาจเกิดมาเพื่อเป็นแบรนด์น้องรองจากพี่ด้วยราคาที่ต่ำกว่า แต่ในวันนี้ Tudor โตเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วจริงๆ แล้วมาดูกันครับว่าเมื่อถึงปี ค.ศ. 2030 เขาจะไปได้ไกลอีกเท่าใด
World of Watches/Luxuo proposes a look back at the big leaps made by Tudor over the past decade.
Words: Ruckdee Chotjinda
My earliest recollection of Tudor must have been those small showcases in a far corner of some Rolex retailers when I was a university student. I saw the watches but did not give them much thought, preferring instead to focus on what I went there for (the GMT-Master II with Coke bezel) and on other choices elsewhere (among them the Speedmaster and the Reverso).
Ten years later, the vintage homage Tudor Heritage Chrono was introduced and I found a reason to give the brand another look. At that time, Tudor was actively reinventing the brand and its corporate image. Things began to pick up rapidly with the introduction of timepieces like the Black Bay diver watch in 2012, the black ceramic Fastrider Black Shield watch in 2013 and the (not so popular) North Flag of 2015.
Tudor upped the ante even further in recent years. This was possible as Tudor has much more freedom to experiment; and the Black Bay collection serves as its most prolific playground. We could almost say that WOW Thailand grew up alongside this development ever since we started publishing in late 2014. The Black Bay Bronze of 2016 marked another milestone model. It was big, it was different and it was fun to wear.
The Black Bay Chrono followed promptly in 2017, and the manufacture subsequently shared the Black Bay GMT in 2018. Tudor seems unstoppable. There is a little something for individual buyers and for the different markets of the world. Comparatively, they are also sensibly priced at a time when prices for many watch brands had inflated significantly in the preceding years. We have not even started to talk about technical developments like the movements yet. But honestly, I have come full circle to the point where I care less about a movement (especially when it is not visible) and more about the overall look of a watch.
Anyway, these sportive watches share a common feature that contributes to the character of Tudor watches: the fabric strap. They may not look like much but I can write a full article about the strap alone. In fact, I have done exactly that, following my 2017 visit to the traditional fabric-weaving workshop that Tudor uses in Saint-Étienne near Lyon in France. These straps are durable but not abrasive to the skin. They help to enhance the identity of a Tudor watch as well with their colour or colour combinations.
The solid product development above is complemented by equally effective communications. In terms of marketing, members of the general public outside of the watch collecting circles were introduced to the Tudor brand by way of global personalities, which Tudor kept adding at a gradual pace. They are the people who reflect the brand’s #BornToDare manifesto, and include David Beckham, Lady Gaga and the All Blacks who are idolised for their achievements.
Almost a full decade has passed since that pivotal year of 2010, and Tudor has come very far in terms of public recognition and acceptance. The brand might have initially been created as a more accessible alternative to its big brother, but it is without a doubt a man of its own now. We shall see how tall Tudor will have risen by 2030.
