นาฬิกา Carrera ในฐานะตัวแทนจากอดีตสู่ปัจจุบันและอนาคตของ TAG Heuer
บทความ: โจนาธาน โฮ
ตำนานของ Carrera ก็เปรียบได้ดั่งตำนานของ TAG Heuer เอง แม้ว่า Heuer จะมีนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นอื่นก่อนที่จะเปิดตัว Carrera ในปี 1963 ก็ตาม แต่ที่มาที่ไปของการที่นาฬิกา Carrera เข้ามามีส่วนกับการจับเวลาและบรรยากาศแห่งการแข่งรถโดยรวมนั้นก็สืบเนื่องจากการเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกามายังสวิตเซอร์แลนด์ของแจ็ค ฮอยเออร์
แจ็ค ฮอยเออร์ได้ยินชื่อ Carrera เป็นครั้งแรกในเดือนมกราคม 1962 ที่การแข่งขัน 12 Hours Race เมืองเซบริง รัฐฟลอริด้า ขณะนั้นเขาอยู่ในพิทของ Ferrari และได้รู้จักกับครอบครัวโรดริเกซ คุณพ่อและคุณแม่ของนักแข่งเปโดรและริคาร์โดบอกกับแจ็คว่าพวกเขาดีใจที่ลูกทั้งสองเพิ่งจะอายุ 21 และ 19 ปีในเวลานั้น เพราะถ้าเกิดก่อนนั้นก็จะต้องไปแข่งในรายการครอสคันทรี่สุดอันตรายชื่อ Carrera Panamericana Mexico เป็นแน่ ในขณะที่สนามเซบริงนั้นเป็นฐานเก่าของฝูงบินแห่งกองทัพอากาศสหรัฐซึ่งปลอดภัยกว่ามาก ชื่อ Carrera ที่เป็นภาษาสเปนนั้นจับใจคุณแจ็คในวัยหนุ่มเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ไปจดทะเบียนชื่อ Heuer Carrera ทันทีที่กลับถึงมาตุภูมิ
นาฬิกา Carrera ออกแบบบนพื้นฐานเรื่องการแข่งรถของนาฬิกา Autavia จนสามารถขึ้นแท่นนาฬิกาโครโนกราฟระดับคลาสสิกอย่างเต็มภาคภูมิได้ สิ่งที่ทำให้ Carrera แตกต่างจากนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นอื่นๆ ที่มาก่อนหน้าก็คือหน้าปัดซึ่งปราศจากรายละเอียดที่ไม่จำเป็นใดๆ เมื่อมีพื้นที่มากขึ้นก็ดูค่าชัดยิ่งขึ้น แล้วยังเกิดยุคแห่งการออกแบบนาฬิกาแนวมินิมอลที่ทำให้สไตล์การออกแบบของ Carrera เป็นที่จับตามองด้วย
เจเนอเรชั่นที่สองของนาฬิกา Carrera คือรุ่นที่ผลิตช่วงตั้งแต่ปี 1969 ถึง 1978 และเป็นช่วงปีทองของ Carrera เพราะเมื่อทศวรรษที่ 70 สิ้นสุดลง การผลิตเครื่องนาฬิกาแบบจักรกลของ Heuer ก็ยุติลงด้วยอันเป็นผลมาจากวิกฤติควอตซ์ในครั้งนั้น ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ชื่อ Carrera ถูกทิ้งไปโดยสิ้นเชิงหลังจากที่แจ็ค ฮอยเออร์เดินออกมาจากบริษัท Heuer เมื่อปี 1982 ในช่วงที่กลุ่มทุนซึ่งประกอบด้วย Piaget และ Nouvelle Lemania ซื้อแบรนด์ Heuer ไป แล้ว Techniques d’Avant Garde หรือ TAG จึงมาซื้อต่อไปอีกทอดหนึ่ง
ทว่าความนิยมชมชอบใน Carrera ยังคงเปี่ยมล้นอยู่ในใจคน จนกระทั่งต้องกลับมาอีกครั้งในรูปแบบร่วมสมัย ในโอกาสครบรอบ 160 ปีของแบรนด์ TAG Heuer ในปีนี้ นักสะสมนาฬิกาที่มีประสบการณ์มายาวนานและพอจะจำนาฬิกา Heuer Carrera แบบวินเทจได้บ้างก็จะบอกได้ทันทีว่ารุ่นใหม่ที่ออกมานี้มีความคล้ายคลึงกัน อย่างน้อยก็เมื่อมองแบบผ่านๆ และเป็นรุ่นทายาทที่สืบทอดมาจากรุ่นดั้งเดิมแต่ผลิตเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ซื้อได้ใส่กันเป็นหลัก
เราสามารถพูดได้ว่า TAG Heuer Carrera Chronograph ใหม่รุ่นปี 2020 เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับยุคสมัยนี้ กล่าวคือ ดูทันสมัย มีรายละเอียดที่ร่วมสมัย และให้เกียรติประวัติที่มีมาแต่เดิมของคอลเลคชั่นในระดับที่ไม่มีใครมาค่อนแคะได้ว่า “ก็แค่นาฬิกาเก่าเอามาทำใหม่อีกแล้ว”
หน้าปัดมีสีต่างๆ ได้แก่ สีดำแบบโอปอลีน และสีน้ำเงินหรือสีแอนธราไซท์หรือสีซิลเวอร์แบบปัดลายซันเรย์ หน้าปัดของ Carrera รุ่นนี้มีวงหน้าปัดเล็กที่ตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา และมีเข็มวินาทีเล็กที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเหนือหน้าต่างวันที่ขนาดพอเหมาะ ดังนั้นจึงเป็นเหมือนการกลับไปยังดีไซน์ดั้งเดิมที่ออกแบบไว้โดยคุณแจ็ค ฮอยเออร์เอง อีกรายละเอียดหนึ่งที่กลับมาก็คือการทำพื้นของวงหน้าปัดเล็กให้ยุบลงไปในแผ่นหน้าปัดซึ่งตามภาษาของแคตตาล็อกยุค 60 เขาใช้วลีว่า “การอ่านค่าบนหน้าปัดแบบสามมิติที่เป็นการปฏิวัติวงการ” เลยทีเดียว
ความมีชั้นเชิงที่สง่างาม และขอบตัวเรือนสเตนเลสสตีลที่เกลี้ยงเกลา ปราศจากสเกลแทคคิมิเตอร์ ทำให้ TAG Heuer Carrera รูปโฉมใหม่นี้เป็นทายาทสายพันธุ์แท้ที่สืบทอดจาก Heuer Carrera รุ่นหน้าปัดสีเงินรุ่นแรกในปี 1963 นั้น รุ่นที่มาพร้อมกับหน้าปัดสีดำและสีน้ำเงินจะมีสายสเตนเลสสตีลแบบข้อสายรูปตัว H ซึ่งมีการแต่งมุมขอบด้านนอกและด้านในของข้อสายให้มนเพื่อให้ดูไหลลื่น และตัวสายก็บางลงกว่าเดิมด้วยเพื่อให้ใส่สบายยิ่งขึ้น
รุ่นหน้าปัดสองสีที่ประกอบด้วยเข็มชุบโรสโกลด์บนหน้าปัดสีเงิน และรุ่นหน้าปัดสีแอนธราไซท์ มาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีน้ำตาลดูหล่อดี ฝาหลังแบบแซฟไฟร์คริสตอลขันเกลียว ทำให้มองเห็นเครื่องนาฬิการุ่นใหม่ที่ใช้อยู่ด้านใน แล้วยังพิเศษอีกขั้นด้วยการใช้โรเตอร์ขึ้นลานสีโรสโกลด์ด้วย
เราน่าจะเรียก Carrera ว่าเป็นนาฬิกายอดนิยมได้ ว่าเป็นนาฬิกาโครโนกราฟซึ่งเป็นบทสรุปของแบรนด์ Heuer และเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบันและอนาคตของ TAG Heuer ครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง: GPHG 2020 Results Announced Via Live Stream
The Carrera is perhaps the most famous reference ever made in watch history.
Words: Jonathan Ho
Launched in 1963, the legacy of the Carrera is a story which mirrors the provenance of TAG Heuer itself. There were, of course, other Heuer chronographs before the Carrera. How the Carrera came to occupy the time-measurement and racing zeitgeist came as a direct result of the return of Jack Heuer to Switzerland from the US.
It was in January 1962 at the 12 Hours Race at Sebring, Florida where he would hear that fortuitous name – Carrera. Spending time in the Ferrari pits, Heuer had gotten to know the Rodriguez family. Parents of a pair of racing brothers had confided in Heuer that they were blessed their boys, Pedro and Ricardo, were only 21 and 19 because had they been born earlier, they would be in the Carrera Panamericana Mexico, the most dangerous cross-country race rather than at the safer Sebring which used a decommissioned US Army Air Forces base. The Spanish word had so enamoured the youthful Heuer that he rushed to register “Heuer Carrera” as soon as he returned to his homeland.
Built upon the racing heritage of the Autavia, the Carrera has become a classic chronograph in its own right. What set the Carrera apart from other chronographs before its arrival was a dial stripped off extraneous detail. As a result of more space, legibility not only improved, but it birthed an era of minimalist aesthetics that would bring Carrera’s unmistakable design language to the fore.
The second generation, an era which began in 1969 and ended in 1978, represents the Carrera at its zenith. As the 70s drew to a close, so too did production of Heuer’s mechanical movements – victims of the Quartz Crisis. Sadly, the Carrera name was phased out entirely after Jack Heuer departed Heuer SA in 1982 when a group of investors that included Piaget and Nouvelle Lemania, acquired the family owned brand and eventually, the brand itself came to be owned by investment house Techniques d’Avant Garde (TAG).
Fervour for the Carrera remained, so much so that it was re-introduced in a contemporary incarnation for TAG Heuer’s 160th birthday. For veteran collectors with a passing recollection of vintage Heuer Carreras, the aesthetics are similar enough to pass, at least from a glance, as hereditary descendants of the original but for newcomers.
Suffice it to say, the new 2020 TAG Heuer Carrera Chronograph is a product of its age – sufficiently modern, reflecting its contemporary aesthetics while remaining remarkably respectful of its heritage that it does not come across to cynics as “yet another re-issue”.
Available in opaline black or sunray brushed blue, anthracite and silver, the dial features azurage subdials at three and nine o’clock and a running small-second counter at six o’clock above a discreet date window, the new TAG Heuer Carrera Chronograph is a welcome return to the design language pioneered by Mr. Heuer himself. Also returning is the use of sunken registers, which vintage 60s catalogue describes as “revolutionary 3-dimensional dial reading”.
The elegant sophistication of this reinterpreted TAG Heuer Carrera, its sleek stainless steel bezel designed without a tachymeter scale is a true descendant of that unforgettable silver-dial Heuer Carrera originally launched in 1963. The models with black and blue dials are presented on a streamlined H-shaped stainless steel bracelet. The angles of the outer and inner links are rounded for a more fluid appearance and the bracelet is thinner for improved comfort.
The bi-coloured version with a silver-coloured dial and rose-gold-plated hands and the model with a deep anthracite dial are paired with a handsome brown alligator leather strap. The screw-down sapphire caseback provides a fascinating view of the innovative movement inside, made even more exclusive by its rose-gold-coloured oscillating mass.
The Carrera is perhaps the most famous reference ever made – a chronograph that sums up the Heuer brand and stands as the link connecting the past, present and future of TAG Heuer.
See also: GPHG 2020 Results Announced Via Live Stream
