ขอทวงความยุติธรรมให้กับนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีคนชังมากกว่าคนรัก
บทความ: รักดี โชติจินดา
ใครยังจำนาฬิกา Jaeger-LeCoultre Reverso Squadra จากปี ค.ศ. 2006 ได้ ขอให้ยกมือขึ้น นาฬิกาคอลเลคชั่นนั้นมีอยู่สองรุ่นหลักด้วยกัน ได้แก่ รุ่น Chronograph GMT และรุ่น Hometime ช่วงนั้นผมเกือบจะได้เป็นเจ้าของ Reverso Squadra Hometime แล้วแต่โชคไม่เข้าข้างอย่างไม่มีเหตุผล เพราะเรือนแรกที่เป็นเรือนโชว์ในร้านนั้นมีริ้วรอยเล็กน้อยแต่มองเห็นได้ ทางร้านก็ใจดี สั่งเรือนใหม่มาให้จากสวิตเซอร์แลนด์ แต่ก็ไม่วายมีปัญหาอีก เพราะแกนเม็ดมะยมดูคลอนๆ แปลกๆ จนต้องส่งกลับไป เมื่อเจอปัญหาสองเรือนซ้อนเช่นนี้ผมจึงถอดใจ ไปซื้อรุ่นอื่นแทน และก่อนที่จะกลับมาซื้อรุ่นนี้อีกที Jaeger-LeCoultre ก็เลิกผลิต Reverso Squadra ทั้งที่ไลน์นี้เพิ่งจะมีอายุได้เพียงห้าปีในเวลานั้น สรุปว่าผมอด ไม่ได้เป็นเจ้าของนาฬิการุ่นดังกล่าวเหมือนคนอื่นเขา
จากวันนั้น ความอยากได้นาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสก็ยังคงวนเวียนอยู่ในใจ ผมดูนาฬิกาทรงนี้หลายรุ่นมาก ไม่ว่าจะเป็น Nomos Glashütte Tetra ซึ่งดูดีและราคาคบหาได้ แต่ไม่ว่าออกรุ่นใดมาก็เล็กเกินกว่าความชอบของผมไปทั้งหมด ผมมาเฉียดจะได้เป็นเจ้าของนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเรือนแรกจริงๆ อีกครั้งก็เมื่อปี ค.ศ. 2016 เมื่อครั้งที่ Cartier ออก Santos 100 Carbon รุ่นใหม่ออกมา ผมจำได้เลยว่าตอนที่ไปทำงาน SIHH ปีนั้นผมคิดถึงแต่นาฬิการุ่นนี้อยู่รุ่นเดียว และรู้สึกอินถึงขนาดที่เอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปนาฬิกาเรือนนั้นจากหน้าจอของกล้องเพื่อเอาไปโพสท์ขึ้น Facebook ส่วนตัวตอนนั่งพักรอเวลาสัมภาษณ์
ผมมีกฎหลวมๆ ว่าจะซื้อนาฬิกาเพียงปีละหนึ่งเรือนเท่านั้น ในปีนั้นผมจึงต้องเลือกระหว่าง Santos รุ่นดังกล่าวกับนาฬิกาทรงกลมอีกแบรนด์หนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องการขัดแต่ง พอความนี้รู้ถึงเพื่อนร่วมงานชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง เขาก็ช่วยเลือกให้เลยว่าไปซื้ออีกรุ่นนั้นก่อนดีกว่า เพราะดูเป็นผมมากกว่า สุดท้ายผมก็เห็นดีด้วยตามนั้น และยังคงไม่มีนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสต่อไป ซ้ำร้าย Cartier ยังเลิกผลิต Santos รุ่นสีดำที่ว่านี้อีกด้วย เจ็บซ้ำเจ็บซ้อนจริงๆ เรื่องเลิกผลิตนี่
ตัดภาพมาที่เวลาปัจจุบัน ผมได้ซื้อนาฬิกาสี่เหลี่ยมจัตุรัสเรือนแรกในชีวิตแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นการซื้อแบบไม่ได้ตั้งตัว ไปทำงานที่ต่างประเทศแล้วเจอพอดี ประกอบกับเงินบาทแข็งเป็นหินด้วยจึงต้องซื้อ เรือนนั้นผมได้มาในราคาที่บวกภาษีขาเข้าบ้านเราแล้วก็ยังคุ้มอยู่ และบทจะมาก็มาต่อๆ กัน เพราะมีรุ่นพี่ท่านหนึ่งกระซิบบอกดีลดีกับอีกแบรนด์ สุดท้าย อดใจไม่ไหว ต้องสอยสี่เหลี่ยมจัตุรัสเรือนที่สองในชีวิตตามหลังเรือนแรกเพียงแค่สองสัปดาห์ แต่สอยแล้วก็มีความสุข รู้สึกว่าคิดไม่ผิด
คนจำนวนมากมักพูดกันว่านาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสนั้นใส่ยาก ผมว่าเรื่องนี้บางทีก็คิดไปเองอยู่เหมือนกัน เพราะนาฬิกาก็คือนาฬิกา เอามาคาดข้อมือด้วยสายหนังหรือสายยางหรือสายโลหะเหมือนกัน ไม่ว่าตัวเรือนจะเป็นทรงอะไร นาฬิกาสี่เหลี่ยมจัตุรัสนั้นก็มีทั้งที่ใหญ่ไปและเล็กไปสำหรับข้อมือของแต่ละคนเหมือนกับนาฬิกาทรงกลม ในเรื่องดีไซน์และการออกแบบนั้นก็มีทั้งที่เข้าและไม่เข้ากับกับบุคลิกของแต่ละคน เหมือนกับนาฬิกาทรงกลมอีกเช่นกัน
ไม่ต้องดูที่ใดไกล แค่ในบทความนี้คุณก็จะเห็นนาฬิกาสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีดีไซน์ต่างกันมากๆ แล้ว อย่าง Nomos Glashütte Tetra นั้นมาในรูปแบบมินิมอลอย่างชัดเจน Cartier Santos ดูผู้ดีแบบคลาสสิกและดั้งเดิม ส่วน Hermès Carré H ก็ดูร่วมสมัยด้วยเส้นสายที่คมคายและรายละเอียดที่เป็นเรขาคณิต
แต่นาฬิกาสี่เหลี่ยมจัตุรัสบางรุ่นก็มีบุคลิกที่ต่างออกไปแบบสุดขั้วเลย เช่น Bell & Ross ที่มีนาฬิกาสปอร์ตตระกูล BR 01 ซึ่งดูดุดันเนื่องจากถอดแบบมาจากแผงอุปกรณ์บนเครื่องบิน โดยมีเป้าประสงค์สำคัญในการเพิ่มความชัดเจนให้กับการอ่านค่าเวลาและเพื่อความทนทาน จากเดิมที่เริ่มต้นผลิตในปี ค.ศ. 2005 นั้น Bell & Ross ก็มีการนำคอลเลคชั่นดังกล่าวไปขยายต่อจนมีคอมพลิเคชั่นที่หลากหลาย และมีรูปแบบการบอกเวลาที่แปลกตาหลายรุ่น และจากเดิมที่มีเพียงตัวเรือนขนาด 46 มม. ก็มีการออกคอลเลคชั่น BR 03 ให้เล็กลงเป็น 42 มม. และมี BR S ขนาด 39 มม. ด้วย
นาฬิกาตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ดูจะได้รับความนิยมแพร่หลายอย่างมากที่สุดนั้นน่าจะเป็น TAG Heuer Monaco ที่เพิ่งจะฉลองครบรอบ 50 ปีไปเมื่อปีที่แล้วนี้ Monaco เป็นนาฬิกาที่หลายคนเทใจให้ได้โดยง่ายเพราะว่ามีดีไซน์และรูปลักษณ์แบบกลางๆ ไม่สุดโต่งไปในทางใดทางหนึ่ง กล่าวคือ ไม่ได้ดูเดรสเหมือน Santos และไม่ได้ดูลุยขนาด BR รุ่นต่างๆ สำหรับคนทั่วไปแล้ว Monaco เป็นนาฬิกาที่ใส่ได้เรื่อยๆ มากกว่า และถ้าใครชอบนาฬิกาวินเทจเป็นทุนเดิมก็จะถูกใจที่แซฟไฟร์คริสตอลของนาฬิการุ่นนี้เป็นทรงสูง ถือเป็นรายละเอียดที่ทำให้ดูย้อนยุคได้เลยสำหรับคนที่ดูรู้
นาฬิกาสี่เหลี่ยมจัตุรัสนั้นไม่ได้มีมากมายหลายรุ่นนัก ถือเป็นแนวที่แคบมากๆ แม้เมื่อเทียบกับนาฬิกาทรงไม่กลมอื่นๆ ด้วยกันเอง ถ้าจะมีน้อยกว่าสี่เหลี่ยมจัตุรัสเลยก็คงจะมีแต่นาฬิกาทรงสามเหลี่ยมแบบ Hamilton Ventura และจากที่เขียนมาทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้ต้องการให้ใครเริ่มสะสมนาฬิกาตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบบหลายๆ เรือน เพราะไม่ว่าอย่างไรนาฬิกาทรงกลมก็จะยังคงเป็นบรรทัดฐานของสังคมต่อไปอย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ที่จะบอกคือว่าคุณมีนาฬิกาสี่เหลี่ยมจัตุรัสติดบ้านไว้สักเรือนก็คงไม่เสียหายอะไร หรือจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือจะเป็นทรงตอนโนก็สุดแล้วแต่ แต่อยากให้คุณมีอะไรที่ไม่กลมไว้สักเรือนก็เท่านั้น เพราะเมื่อคุณลองแล้วก็อาจจะค้นพบแนวความชอบใหม่ที่ไม่เคยรู้ตัวมากก่อนก็เป็นได้
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะชอบนาฬิกาสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือไม่ และไม่ต้องการจ่ายเงินจำนวนมากๆ ขอแนะนำให้เริ่มต้นกับ Sevenfriday เพราะนาฬิกาแบรนด์นี้มีรุ่นที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบบมุมมนอยู่หลายรุ่น หลายสี หลายดีไซน์ ที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวคือ M-Series เพราะเป็นไลน์ที่บอกเวลาด้วยจานหมุนแทนที่จะใช้เข็มเหมือนนาฬิกาทั่วไป อย่างในภาพที่นำมาประกอบบทความนี้คือรุ่น M1B/01 Urban Explorer ตัวเรือนพีวีดีสีน้ำเงิน สวมใส่ด้วยสายยีนส์เดนิม ให้อารมณ์ที่แตกต่างจากนาฬิการุ่นอื่นๆ ได้เป็นอย่างมาก
บทความที่เกี่ยวข้อง: What’s Exciting About the Hublot Big Bang e?
Square watches are underappreciated most of the time. I offer my support to the genre.
Words: Ruckdee Chotjinda
Raise your hand if you remember the Jaeger-LeCoultre Reverso Squadra from 2006. The Chronograph GMT and the Hometime? I was very close to owning the latter but then a few hiccups got in the way. First, the stock piece at the authorised dealer had a cosmetic damage; then, the replacement ordered had a wobbly crown stem and had to be returned. I became discouraged and went for another watch instead. Before I acted again on the Reverso Squadra, Jaeger-LeCoultre dropped the collection five years into its age. It was gone … just like that, depriving me of the joy of ownership.
The urge to buy a square watch has since remained in the back of my mind. The Tetra watches from Nomos Glashütte seemed nice and accessible, but all versions are too small for my preference. I came very close to buying my first square watch again in 2016 when Cartier came out with the (then) new version of the Santos 100 Carbon. I remember how the watch lingered on my mind during my days at SIHH that year, and how I was eager to share a wristshot on my personal Facebook account by using the phone to take a snap from the camera’s playback screen.
Sticking to my limit of one watch per year, a showdown emerged between the Santos and another round watch with impeccable movement finishing. It just so happened that I discussed this dilemma with a Singaporean colleague and he pushed me over the proverbial cliff where another watch awaited at the bottom. It was a good buy all right, but my square watch count remained at zero. Cartier also discontinued that particular model of Santos – the story of my life.
Anyway, I eventually became the proud owner of a square watch last November. The impromptu decision while on a business trip was induced by the particularly strong Thai baht at the time. The final amount paid was very good, even when adding the necessary Thai tax upon my return to Thailand. Just two weeks later, I coincidentally landed myself an incredible deal, thanks to the tip of a collector friend, and bought my second square watch unexpectedly. I am a happy man.
Contrary to popular belief, square watches are not difficult to wear. That prejudice is formed on the ground of unfamiliarity. You put it on your wrist with the strap or the bracelet like any round watch, and off you go about your day. Size-wise, square watches can be too large or too small for your wrist, the same as round watches. Lastly, again like round watches, squarish ones come with different designs that give them distinguishing personalities.
You do not need to look further than this article for examples. The Nomos Glashütte Tetra offers brutal minimalism. The Cartier Santos presents classical elegance. The Hermès Carré H, meanwhile, exudes an air of contemporary charm through sleek lines and refined geometry.
Other square watches can be the direct opposite of the above. Bell & Ross marks the perfect specimen for discussion. Their BR 01 watches are definitively sportive and instrument-like. That is because they were designed after cockpit instruments in order to enable utmost legibility and reliability. From humble beginnings in 2005, the collection has expanded to provide different indications, functions and complications. Originally 46 mm in size, smaller versions followed naturally with the BR 03 in a 42 mm size and the BR S in a 39 mm size.
Enjoying unmatched popularity (for a square watch, that is), the TAG Heuer Monaco celebrated its 50th anniversary last year. The watch is easy to like because it is moderate in design and presentation, neither as dressy as the Santos nor as weekendish as the BR varieties. Therefore, the Monaco appears more versatile for most people. A boxed sapphire crystal and contrasting subdials add to the vintage charm of the watch.
Having elaborated this far, it must also be noted that there are not so many square watches out there. The genre is very small, even when compared against other shaped watches, with a notable exception being the triangular Hamilton Ventura. I am not proposing that everyone should build a collection of square watches. Round watches are considered the norm and this will never change. I am merely saying that it cannot hurt to have one square watch in the mix, or a rectangular watch, or a tonneau watch for that matter – anything non-round that suits you. Give one of these shaped watches a try and you may discover a new joy in your collecting pursuit.
Not sure where to start? Prefer not to spend a significant amount of money? Well, one cannot go wrong with a Sevenfriday. Their square watches with rounded corners come in many styles, colours and levels of industrial interpretation. I particularly like their M-Series for the handless time display where the hour and the minute are indicated by way of two rotating discs. Shown here, the M1B/01 Urban Explorer is worn on a denim strap that matches the dark blue PVD treatment of the case – an additional reason to diversify!
See also: What’s Exciting About the Hublot Big Bang e?
