น้ำหอมกลิ่นซิกเนเจอร์ โดย นิโคลัส บอนวีล นักออกแบบกลิ่นชาวฝรั่งเศสกับแคมเปญ Made of Makers ล่าสุดของ Jaeger-LeCoultre
บทความ: ลภีพันธ์ โชติจินดา
แคมเปญ Made of Makers ของ Jaeger-LeCoultre แบรนด์นาฬิกาหรูแห่งเลอซองทิเยร์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นโปรแกรมที่เป็นดั่งเวทีที่รวมเอาเหล่าศิลปิน นักออกแบบ และช่างฝีมือนานาชาติในแวดวงอื่นๆ ที่นอกเหนือจากอุตสาหกรรมช่างประดิษฐ์นาฬิกามาทำงานร่วมกันกับแบรนด์ โดยศิลปินที่ถูกคัดเลือกเหล่านี้ไม่เพียงจะต้องมีความรู้ความสามารถที่เป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ ความเชี่ยวชาญและความละเอียดแม่ยำในการทำงานแล้ว แต่ยังต้องมีค่านิยมหลักสอดคล้องกับ Jaeger-LeCoultre อีกด้วย
ซึ่งเหล่าศิลปิน นักออกแบบ และช่างฝีมือแขนงต่างๆ ที่ร่วมอยู่ในแคมเปญ Made of Makers นี้ อาทิ Zimoun ศิลปินชาวสวิส ไมเคิล เมอร์ฟี่ (Michael Murphy) ศิลปินชาวอเมริกัน กิโยม มาร์มิน (Guillaume Marmin) ศิลปินชาวฝรั่งเศส อเล็กซ์ โทรชุท (Alex Trochut) ศิลปินด้านการออกแบบตัวอักษรเชื้อสายสเปน นีน่า เมทิเย (Nina Métayer) เชฟขนมหวานชื่อดังชาวฝรั่งเศส มัทธิอัส จิรูด์ (Matthias Giroud) มิกซ์โซโลจิสต์ชาวฝรั่งเศส คัง ยียุน (Yiyun Kang) ศิลปินสื่อดิจิตอลชาวเกาหลีใต้ โทคิโอ เมเยอร์ (TØKIO M¥ERS) นักดนตรีชาวอังกฤษ เบรนดิ เวดดิงเยอร์ (Brendi Wedinger) ศิลปินมัลติมีเดียชาวอเมริกัน และศิลปินผู้มากความสามารถอีกมากมาย โดยศิลปินคนล่าสุดที่ได้มาร่วมในแคมเปญนี้ก็คือ นิโคลัส บอนวีล (Nicolas Bonneville) นักออกแบบกลิ่นชาวฝรั่งเศส
นิโคลัส บอนวีล เกิดและเติบโตที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อตอนอายุ 12 ปีเขามีโอกาสได้ไปพักผ่อนที่เมืองกราซที่อยู่ทางตอนใต้ของแคว้นโพรวองซ์อันเป็นแหล่งกำเนิดน้ำหอมของฝรั่งเศสซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาสนใจและหลงใหลในโลกของน้ำหอม และด้วยพรสวรรค์ทางด้านประสาทสัมผัสการรับรู้กลิ่นและพรแสวงในการเรียนรู้ของเขาโดยการเริ่มปรุงกลิ่นน้ำหอมต่างๆ เองที่บ้าน จนกระทั่งมีโอกาสได้เริ่มต้นในสายอาชีพนี้โดยมี ฌาคส์ มอเรล และ ฟรานซิส เคิร์กเจียน สองนักปรุงน้ำหอมระดับโลกเป็นผู้ชี้แนะให้กับเขา ทำให้นิโคลัสได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักออกแบบกลิ่นน้ำหอมรุ่นใหม่ที่มีความสามารถที่สุดในขณะนี้ ซึ่งเขามักจะค้นหาสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์โดยผสมผสานเทคนิคแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ในการสกัดกลิ่นจากวัตถุดิบธรรมชาติที่เก่าแก่และหายาก
ความแม่นยำและความใส่ใจในรายละเอียดถือเป็นหัวใจสำคัญของทั้งสองศาสตร์ ศาสตร์แห่งช่างประดิษฐ์นาฬิกา กลไก สปริง และส่วนประกอบทุกชิ้นต้องอาศัยความแม่นยำเพื่อให้องค์ประกอบของนาฬิกาอยู่ในตำแหน่งที่พอดีถึงจะทำงานได้ ในศาสตร์แห่งน้ำหอมก็อาศัยหลักการเดียวกันกับทุกส่วนผสมคือต้องกำหนดปริมาณและปรับสมดุลส่วนผสมแต่ละอย่างด้วยความพิถีพิถัน เพราะความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลต่อส่วนประกอบทั้งหมดได้ นิโคลัส อธิบายว่า “ในการปรุงแต่น้ำหอมก็ไม่ต่างอะไรกับงานจิตรกรรมที่การรักษาระดับความบริสุทธิ์ของส่วนผสมคือสิ่งสำคัญ ในทำนองเดียวกัน เวลาทำน้ำหอม การกำหนดปริมาณวัตถุดิบอย่างระมัดระวังเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพื่อรักษาเอกลักษณ์เฉพาะของกลิ่นโดยไม่ให้เจือจางมากจนเกินไป หลักการ ‘น้อยแต่มาก’ ช่วยให้มั่นใจได้ว่ากลิ่นน้ำหอมของคุณยังคงความเด่นชัดและล้ำลึก คุณจะได้กลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและโดดเด่นอย่างแท้จริง”
น้ำหอมกลิ่นซิกเนเจอร์สำหรับ Jaeger-LeCoultre ที่ นิโคลัส ปรุงแต่งขึ้นนั้นมีสามกลิ่นพิเศษที่ปรุงแต่งด้วยเทคนิคการปรุงกลิ่นน้ำหอมชั้นสูงซึ่งจะทำให้ได้กลิ่นหอมเย้ายวนโดดเด่นกว่าน้ำหอมกลิ่อื่นๆ ซึ่งได้แก่ The Timeless Stories เป็นน้ำหอมกลิ่นที่ให้ความสดชื่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือนเวลารุ่นไอคอนนิกอย่าง Reverso ซึ่งนาฬิกาข้อมือที่สร้างขึ้นเพื่อท้าทายการแข่งขันโปโปโลที่ดุดันหวนให้นึกถึงคอกม้าและอานม้า ส่วนกลิ่น The Celestial Odyssey เป็นน้ำหอมโทนอบอุ่นกลิ่นแอมเบอร์วู้ดและเครื่องเทศที่มีกลิ่นวนิลาเป็นพื้นฐานเพื่อความหอมหวนและเย้ายวน สื่อถึงดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และดวงดาว ซึ่งเป็นสามวัตถุจากฟากฟ้าที่มักจะตราตรึงช่างประดิษฐ์นาฬิกามาโดยตลอด
และกลิ่นสุดท้าย The Precision Pioneer ซึ่งเป็นกลิ่นอายของไม้และเครื่องเทศที่ได้แรงบันดาลใจมากจากต้นกำเนิดของนาฬิกาซึ่งก็คือโรงงานนั่นเอง โต๊ะไม้และม้านั่งของช่างทำนาฬิกาและความร้อนแรงของไฟของช่างตีเหล็ก กลิ่นไม้หลากชนิด อาทิ ไม้ซีดาร์ กัวอิอัค และไม้กฤษณาที่ผสมผสานกันจนเป็นกลิ่นที่มีพิเศษน่าค้นหา ซึ่งน้ำหอมทั้งสามกลิ่นนี้ไม่ได้มีจำหน่ายทั่วไปหรือที่บูติกแต่อย่างใดเพราะทางแบรนด์จะนำเสนอน้ำหอมซิกเนเจอร์เหล่านี้เป็นของขวัญพิเศษให้กับลูกค้าคนสำคัญและกับโครงการอื่นๆ ในอนาคตเท่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง: The Sühring Chefs on German Fine Dining and Swiss Haute Horlogerie