รีวิว Bulgari Octo Finissimo Chronograh GMT ในฐานะเจ้าของจริงที่จ่ายจริงและใส่เดินทางจริง
บทความ: รักดี โชติจินดา
รถ Hyundai Staria สีเทาค่อยๆ ชะลอเข้าเทียบฟุตบาทหน้าร้านอาหารที่ผมไปกินกับเพื่อนสมัยเรียนปริญญาตรี คนที่ขับรถคันนั้นก็คือสามีของเพื่อนผมที่มารับเขานั่นเอง และประโยคแรกที่เราได้ยินเมื่อคุณเขาลดกระจกลงมากลับไม่ใช่ “สวัสดีครับ” แต่เป็น “นาฬิกาสวยนะครับ” … นี่คือหนึ่งในตัวอย่างเหตุการณ์ที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงเวลา 18 เดือนตั้งแต่ที่ผมได้เป็นเจ้าของ Bulgari Octo Finissimo Chronograph GMT เรือนนี้
ในช่วงแรกเริ่มที่ผมสนใจนาฬิกา ผมก็ซื้อรุ่นนั้นรุ่นนี้ตามความชอบแบบไม่ได้มีแพทเทิร์นหรือธีมอะไร แต่ในเวลาไม่ช้าผมก็ค้นพบว่าผมชอบนาฬิกามูนเฟสและนั่นก็คือธีมในการสะสมธีมแรกของผม จนเมื่อไม่เหลือนาฬิกามูนเฟสที่ชอบและอยู่ในระดับราคาที่ซื้อไหวแล้วผมจึงเริ่มเบี่ยงแนวออกไปซื้อนาฬิกาจีเอ็มทีเป็นอีกธีมหนึ่ง แล้วหลังจากที่ทำงานเขียนเรื่องนาฬิกาเป็นอาชีพจริงจังได้ 5 ปีก็เกิดแนวคิดล่าสุดในช่วงปลายปี ค.ศ. 2019 นั่นก็คือธีมการสะสมนาฬิกาที่มีตัวเรือนรูปทรงเป็นเอกลักษณ์แบรนด์ละรุ่นแบบจริงจัง
เมื่อคิดได้แบบนั้นแล้วผมก็ซื้อนาฬิกาที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวและเราชอบอยู่แล้วรุ่นนั้นรุ่นนี้ไปรวม 4 เรือนในเวลา 2 ปี จนมาถึงจุดหนึ่งก็บอกกับตัวเองว่าเราควรจะกัดฟันซื้อ Bulgari Octo Finissimo Chronograph GMT ด้วยเลยเพราะว่าชอบมาตั้งแต่ที่ได้เห็นเป็นครั้งแรกที่งาน Baselworld ปี ค.ศ. 2019 แถมยังตอบโจทย์ทั้งธีมการสะสมนาฬิกาที่มีตัวเรือนรูปทรงเฉพาะและธีมนาฬิกาจีเอ็มทีที่เราสนใจอยู่แต่เดิมอีก เรื่องความบางที่เลื่องลือกันนั้นก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ผมให้ความสนใจแต่ก็ไม่ได้มีส่วนทำให้ตัดสินใจซื้อมากนัก สาเหตุที่ซื้อก็เพราะความลงตัวของการนำฟังก์ชั่นโครโนกราฟมารวมไว้กับฟังก์ชั่นจีเอ็มทีมากกว่า
Octo Finissimo Chronograph GMT เป็นนาฬิกาที่คุณจะดูจากรูปหน้าตรงพื้นหลังขาวไม่ได้ คุณจะต้องดูจากรูปบนข้อมือจริงหรือจะให้ดีต้องลองบนข้อมือตัวเองเลยจึงจะรู้ว่าใส่แล้วเป็นอย่างไร นาฬิกาเรือนนี้อาจจะบางเพียงแค่ 6.90 มม. เท่านั้น แต่นั่นคือเรื่องของความบาง ไม่ใช่ความกว้าง เวลาใส่จริงแล้วคุณจะไม่รู้สึกว่าเล็ก บางคนบอกว่าใหญ่เกินกว่าที่เขาจะใส่ได้ด้วยซ้ำ เพราะตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 42 มม. แล้วสายก็ยังกว้างกว่านาฬิกาส่วนมากด้วย เพราะถ้าจะวัดจริงๆ แล้วสายของนาฬิการุ่นนี้กว้างถึง 30 มม. ทีเดียวตรงจุดที่บรรจบกับขาตัวเรือน และกว้าง 20 มม. บริเวณบานพับ ตัวบานพับเป็นแบบซ่อนจึงไม่มีช่องให้เลื่อนเข้าออก แต่ด้วยความที่ข้อสายแต่ละข้อค่อนข้างสั้น เราจึงสามารถตัดสายให้มีขนาดพอดีกับข้อมือได้ไม่ยาก
ในเรื่องของฟังก์ชั่นนั้นก็มีทั้งโครโนกราฟและจีเอ็มทีอย่างที่บอกข้างต้นทั้งที่หน้าปัดดูเป็นสไตล์มินิมอล หากไม่รู้มาก่อนและมองเผินๆ จะไม่คิดว่ามีจีเอ็มทีด้วย แต่วงตรง 3 นาฬิกานั้นเป็นเข็ม 24 ชั่วโมงที่ตั้งด้วยเม็ดมะยม หากใส่นาฬิการุ่นนี้เดินทางไปยังประเทศใด เมื่อไปถึงแล้วก็เพียงกดปุ่มที่ด้านซ้ายของตัวเรือนจนเข็มชั่วโมงกลางหน้าปัดขยับมาตรงกับเวลาในท้องถิ่น ส่วนปุ่มทั้งสองทางด้านขวาของตัวเรือนนั้นใช้ควบคุมการทำงานของกลไกโครโนกราฟและดูราวกับว่าทำหน้าที่เป็นบ่าป้องเม็ดมะยมไปในตัวด้วย เพียงแค่มองดูว่ารูปทรงของปุ่มทั้งสามนี้สะท้อนเหลี่ยมมุมต่างๆ ของตัวเรือนอย่างไรก็จะสัมผัสได้ทันทีถึงความใส่ใจในรายละเอียดของ Bulgari ในการออกแบบนาฬิกาคอลเลคชั่นนี้
นาฬิการุ่นนี้มีตัวเรือนและสายไทเทเนียมพ่นทรายแถมหน้าปัดก็ยังเป็นไทเทเนียมด้วยอีกจึงไม่มีความบลิงแม้แต่น้อย แต่นี่กลับเป็นนาฬิกาเรือนที่ผมใส่แล้วเจอคนทักบ่อยที่สุด และไม่ใช่เฉพาะแค่คนในวงการนาฬิกาเท่านั้น ยืนเช็คอินอยู่ในโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์ก็เจอคนของโรงแรมทัก นั่งรอเครื่องออกอยู่หน้าเกทก็เจอลูกเรือ Singapore Airlines ทัก แม้แต่ใส่ไปออฟฟิศก็ยังเจอน้องๆ ทักทั้งที่ปกติแล้วไม่เคยมีใครทักนาฬิกาเรือนใดของผมเลยตลอดระยะเวลาที่ทำงานที่นี่มาเกือบ 10 ปี ใครที่ชื่นชมเฉยๆ ก็ทักแล้วจบไป ใครที่คิดซื้อก็จะถามว่าใส่แล้วเป็นอย่างไร ตอนจะซื้อได้เปรียบเทียบกับนาฬิการุ่นใดบ้าง ฯลฯ แต่ผมก็เชื่อว่าระดับความสนใจนี้จะลดลงในเวลาไม่กี่ปีเมื่อมีนาฬิกา Octo ออกสู่ตลาดมากกว่านี้
Octo Finissimo Chronograph GMT เป็นนาฬิกาที่ใส่กับเสื้อผ้าต่างๆ ได้ง่ายมาก จะใส่สูทไปงานของลูกค้าก็ได้ จะใส่กับกางเกงยีนส์สบายๆ ก็ได้ จะใส่กับชุดกีฬาก็ย่อมได้ แต่ว่าผมซื้อ Bulgari เรือนนี้มาใส่ทำงานมากกว่าเพราะต้องการลุคเรียบหรูของมัน และตั้งแต่ที่ซื้อเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2022 ผมก็ใส่นาฬิกาเรือนนี้ไปทำงานต่างประเทศหลายต่อหลายทริป ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ ฯลฯ มีครั้งหนึ่งเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2023 ผมใส่ Octo เรือนนี้ไปทำงานสองทริปต่อเนื่อง ทริปแรกไปถึงปารีสก็กดปุ่มเพื่อตั้งเข็มชั่วโมงให้ตรงกับเวลาฝรั่งเศส เมื่อกลับถึงกรุงเทพเพื่อเข้าบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าในกระเป๋าสำหรับทริปที่สองก็กดปุ่มเพื่อตั้งนาฬิกาให้ตรงกับเวลาไทย แล้วพอไปถึงโตเกียวก็กดปุ่มอีกเพื่อตั้งนาฬิกาให้ตรงกับเวลาญี่ปุ่น ทั้งหมดนี้ทำได้โดยไม่ต้องดึงเม็ดมะยมออกมาและไม่ต้องถอดนาฬิกาออกจากข้อมือด้วยซ้ำ
จากประสบการณ์ของผมพบว่านาฬิการุ่นนี้ทำงานได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร โรเตอร์แบบเพอริเฟอรอลที่ผลิตจากแพลทตินัมสามารถขึ้นลานเพื่อสร้างกำลังลานสำรองได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในเรื่องการปรับตั้งความเที่ยงตรงนั้นยังไม่ดีเท่าที่ผมคาดหวัง เพราะช่วงหลายเดือนแรกนั้นนาฬิกา Octo ของผมเดินช้าวันละ 6 วินาทีหากวันนั้นผมหยิบออกไปใส่และกำลังลานสำรองยังสูงอยู่ แต่ในวันที่ไม่ใส่และกำลังลานสำรองต่ำนี่อาจจะช้าวันละ 13 วินาทีได้เลยซึ่งถือว่าช้าเกินกว่าที่ผมจะรับได้ ความตั้งใจในเวลานั้นคือจะส่งนาฬิกาไปปรับตั้งก่อนที่ประกันจะหมด แต่เมื่อใส่ไปได้ราวหนึ่งปีนาฬิกาก็เดินตรงขึ้นมาเองโดยที่ผมยังไม่ได้ทำอะไร ทุกวันนี้นาฬิกาเรือนนี้เดินเร็ววันละ 3 วินาทีถ้าใส่และเดินช้าวันละประมาณ 3 วินาทีเวลาไม่ใส่ ดังนั้นถ้าความเที่ยงตรงจะคงอยู่ในระดับนี้ได้อีกสัก 3-4 ปีก็เยี่ยมเลย
สรุปว่า Octo Finissimo Chronograph GMT เป็นนาฬิกาที่ลงตัวมากสำหรับความต้องการของผม นี่คือเรือนเวลาที่มีบุคลิกชัดเจน ดูสง่างาม แต่ก็ใส่ได้ในหลากหลายโอกาส รายละเอียดบนหน้าปัดคมคาย ชัดเจนและได้สมมาตรจนถึงระดับที่ไม่น่าจะทำให้ดีกว่านี้ได้แล้ว ถ้า Bulgari จะปรับโฉมนาฬิการุ่นนี้ครั้งต่อไปก็อาจจะพิจารณาเปลี่ยนปุ่มตั้งเข็มชั่วโมงทางด้านซ้ายของตัวเรือนจากปุ่มเดียวเป็นสองปุ่มเพื่อให้ผู้ใช้ตั้งเข็มชั่วโมงเดินหน้าหรือถอยหลังก็ได้ เพราะว่าตอนนี้ถ้าเราต้องการถอยเวลา 4 ชั่วโมง เราจะต้องกดปุ่มให้เข็มชั่วโมงเดินหน้า 8 ชั่วโมงแทน เป็นต้น และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะดีก็คือการเปลี่ยนเข็มวินาทีต่อเนื่องของระบบบอกเวลาที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกาให้เป็นเข็มทดเวลา 12 ชั่วโมงสำหรับระบบจับเวลาแทน เพราะในเวลานี้นาฬิกาสามารถจับเวลาได้นานเพียง 30 นาทีเท่านั้น
หวังว่าคุณผู้อ่านจะได้รับประโยชน์จากการเรียบเรียงความคิดอย่างยาวเหยียดในครั้งนี้ของผม ตอนแรกก็กะว่าจะเขียนเป็นรีวิวตอนครบหนึ่งปี แต่ด้วยหน้าที่การงานและภาระอื่นๆ จาก 12 เดือนก็ล่วงเลยเป็น 18 เดือนเหมือนเมื่อครั้งที่แล้วตอนที่เขียนเรื่อง Bell & Ross BR 03-93 GMT แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งต่อไปครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง: 18-Month Review of the Bell & Ross BR 03-93 GMT
After years of buying multiple varieties of the same watches, I took the plunge and splurged on one that brought a refreshingly unique experience.
Words: Ruckdee Chotjinda
A gray Hyundai Staria swooped to the sidewalk where I was standing with a college friend. As the driver rolled down the window, and before he glanced at my friend who is in fact his wife, he turned to me and said, “nice watch”. Such is a typical occurrence in the 18 months that I have been wearing the Bulgari Octo Finissimo Chronograph GMT. A lot of people take notice of this watch, and they are not shy to make their admiration known.
Let’s dial back a little for context. When I started out on this collecting journey, I spent few years “accumulating” very different watches. Then a pattern emerged and I have identified moon phase watches as my first real “collecting” theme. About a decade later, life events and romanticized ideals led me to develop a second theme of GMT watches. Then, in late 2019, after five years of writing about watches in a professional capacity, I consciously started a third theme of buying one iconic case design from each watch brand.
Four watches and two years into this third theme, I decided that I should bite the bullet and just buy the Bulgari Octo Finissimo Chronograph GMT I have always wanted since seeing it for the first time at Baselworld 2019. It is a logical purchase for me because it fits not only the iconic case design theme but also the GMT one. I did not quite care about its record-breaking slimness actually. To me, this watch deserved my hard-earned money because of the impeccable way the chronograph and GMT functions were joined on such an emblematic canvas.
As technical specifications are publicly available, I will head straight to my ownership experience: I like wearing this watch. It may be slim at 6.90 mm but it is not small with a diameter of 42 mm. Presence on the wrist is further substantiated by the bracelet, which is 30 mm wide where it meets the architectural beauty that is the case, and 20 mm wide at the clasp. And, with each link being small, it is possible to size the bracelet to a perfect snug fit, which is not the case for many bracelet watches with a concealed clasp.
The Octo Finissimo Chronograph GMT offers so much functionality despite its minimalistic guise. Upon first glance, one may rationally assume that it is a normal tricompax chronograph, but the subdial at three o’clock is in fact a 24-hour display that you can set by the crown. When landing in another country, all you need to do is press the flat button on the left side of the case as many times as needed to align the central hour hand with the local time. On the other side of the case, two more flat buttons controlling the chronograph operation flank the crown as if they are the crown guard itself. It gives me joy just to look at how these buttons are so integrated with the case while also echoing its various angles and facets.
It is not a flashy watch at all, not with its sandblasted titanium aesthetics. Still, this Octo Finissimo watch piques the interest of those in the know. I have received compliments on it from a handful of gentlemen from watch, hotel and airline industries, and a few of my international watch journalist friends have asked to try the watch on. It seems people are curious about your purchase and they are interested to hear about the rationale behind your decision. This may go away in a few years when there are more Octo watches on more wrists out there.
I am as comfortable wearing the Octo Finissimo Chronograph GMT with a full business suit as with jeans and other casual wear. The sartorial compatibility here is effortless. The watch will look good even with tennis wear but I have more rugged watches for outdoor activities. I bought this Bulgari to wear when I want to look sophisticated, cultured. Since I picked it up in July 2022, it has joined me on business trips to South Korea, Switzerland, Singapore and beyond. At one time in June 2023, I wore it on two back-to-back work trips to Paris and Tokyo, with a half-day pause in Bangkok to replace my clothes. Naturally, I took advantage of how I could set the hour hand with ease after each landing. If that sounds pompous, then I have achieved what I intended in English!
In terms of performance, the watch does everything as advertised in a legible and reliable way. Its platinum peripheral rotor has no problem building the power reserve at all. Rate is stable but my particular example should have been better adjusted. I monitored accuracy quite obsessively during the first half year. The watch was about six seconds slow per day when worn and the power reserve was high. However, when left in any stationary position while the power reserve was also low, it could be as slow as 13 seconds per day which was completely unacceptable to me. I planned to have it adjusted under warranty but somehow accuracy has shifted positively on its own after about one year of use. Now the watch is about three seconds fast when worn, and around three seconds slow when not. I hope things stay at this optimal level for some more years.
To conclude, the Octo Finissimo Chronograph GMT is a great buy for me. It is characteristic, versatile and elegant. The watch itself is almost perfect, with an impeccably legible and symmetrical dial and all. Little could have been done to improve its design or functionality further. Perhaps, for the next generation of this watch, Bulgari can consider having two pushers on the left side of the case to adjust the local time hour hand forward and backward. That will be great although the current setup of adjusting forward only is not inconvenient by any standard. Also, if the subdial at nine o’clock can feature a 12-hour totalizer instead of the continuous second hand, the watch will be even more useful in real life where the chronograph function is concerned.
I hope you find this long-term review of mine useful. It was supposed to be a one-year account of ownership, but, same as my previous review of the Bell & Ross BR 03-93 GMT, work and other things got in the way and 12 months became 18 months once again. Maybe this will become a thing. Until the next review!