ศักยภาพของนาฬิกา Royal Oak Concept ในการทำให้แบรนด์ Audemars Piguet เป็นที่รู้จักของผู้คนในวงกว้างยิ่งขึ้น
บทความ: รักดี โชติจินดา ภาพ: Audemars Piguet
Audemars Piguet เปิดตัวนาฬิกา Royal Oak Concept เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2002 เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของคอลเลคชั่น Royal Oak ด้วยการนำเสนอรูปทรงตัวเรือนที่โฉบเฉี่ยวและล้ำสมัยยิ่งกว่าเดิม แต่ยังคงไว้ซึ่งขอบตัวเรือนแบบแปดเหลี่ยมของ Royal Oak แต่เดิมเพื่อคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่ทุกคนจดจำ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คอลเลคชั่น Royal Oak Concept ถูกใช้เพื่อนำเสนอแนวคิด กลไกและวัสดุที่แปลกใหม่อันเกิดจากความอุตสาหะของช่างนาฬิกาและวิศวกรแห่ง Audemars Piguet และยังเป็นพื้นที่สำหรับการร่วมออกแบบนาฬิกากับคนนอกบริษัทด้วย อย่างเช่น Royal Oak Concept Laptimer Michael Schumacher (221 เรือน) ที่ทางแบรนด์ใช้เวลาพัฒนานานถึง 5 ปี จากปี ค.ศ. 2010-2015 เพื่อให้มีฟังก์ชั่นการจับเวลาแลปไทม์ต่อเนื่องหลายรอบได้ในการแข่งรถ
สำหรับท่านที่เพิ่งเริ่มสนใจนาฬิกาเมื่อไม่กี่ปีนี้ก็น่าจะคุ้นเคยกับ Royal Oak Concept Black Panther Flying Tourbillon (250 เรือน) จากปี ค.ศ. 2021 และ Royal Oak Concept Tourbillon Spider-Man (250 เรือน) จากปี ค.ศ. 2022 มากกว่า นาฬิกาทั้งสองรุ่นนี้ได้รับเสียงตอบรับทั้งในแง่ที่ชอบและไม่ชอบจากคนที่เป็นนักสะสมนาฬิกาแต่เดิม อย่างไรก็ดี เราก็ต้องมองด้วยว่าสิ่งที่มันสามารถทำได้ดีกว่าเรือนเวลา Audemars Piguet รุ่นอื่นใดก็คือการทำให้แฟนคลับของ Marvel ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจกับแบรนด์นาฬิกาที่จากเมืองเล็กๆ ชื่อลาบราซูส์ซึ่งผลิตงานฝีมือชั้นสูงมายาวนานหลายชั่วอายุคน และหากเป็นแฟนคลับที่เป็นคนรุ่นใหม่เลยจริงๆ ก็อาจจะได้รู้จักว่าโลกนี้มีนาฬิกาจักรกลที่ทำงานด้วยกลไกแบบไม่มีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ เลยผ่านนาฬิกา Royal Oak Concept 2 รุ่นนี้ก็ได้
และ Audemars Piguet ก็ยังมีความพยายามในการเข้าถึงลูกค้าที่เป็นสุภาพสตรีด้วยเช่นกัน อย่างเช่นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้ซึ่งมีการเปิดตัวนาฬิการุ่น Royal Oak Concept Flying Tourbillon Tamara Ralph จำนวน 102 เรือน
ทามารา ราล์ฟเป็นช่างออกแบบเสื้อผ้ารุ่นที่ 4 ในตระกูล ดังนั้นชีวิตของเธอจึงเทียบได้กับชีวิตของช่างนาฬิกาในยุคสมัยก่อน จะแตกต่างก็ตรงที่เธออยู่ในโลกของแฟชั่นเท่านั้น ทามาราสร้างแบรนด์ของเธอขึ้นมาบนรากฐานแห่งความประณีต คุณภาพและความเชี่ยวชาญในงานฝีมือ และในเวลานี้ความคิดสร้างสรรค์ของเธอก็ได้รับการถ่ายทอดลงบนตัวเรือนพิงค์โกลด์ทรง Royal Oak Concept ขนาด 38.5 มม. เรือนนี้แล้ว หน้าปัดของนาฬิการุ่นพิเศษนี้มีการเล่นระดับชั้นแบบไล่เฉดสีทอง บรอนซ์และน้ำตาล ทั้งหมดนำสายตาไปสู่เข็มบอกเวลาพิงค์โกลด์และฟลายอิ้งตูร์บิยองประดับเพชรที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาซึ่งทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยเครื่องไขลานรุ่นคาลิเบอร์ 2964 ซึ่งมีกำลังลานสำรองขั้นต่ำ 72 ชั่วโมง
ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้ Audemars Piguet ก็ยังเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้งด้วยนาฬิกา Royal Oak Concept Tourbillon Companion ที่ออกแบบร่วมกับศิลปินชาวอเมริกันไบรอัน ดอนเนลลีซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในชื่อ KAWS ที่เขาใช้ในวงการ นาฬิกาตัวเรือนไทเทเนียมพ่นทรายขนาด 43 มม. รุ่นนี้เป็นลิมิเต็ดเอดิชั่นจำนวน 250 เรือนที่มีตัวการ์ตูนชื่อ Companion ของ KAWS อยู่ตรงกลาง ความพิเศษในเชิงกลไกของเครื่องแบบไขลานรุ่นคาลิเบอร์ 2979 ซึ่งมีกำลังลานสำรอง 72 ชั่วโมงรุ่นนี้นอกจากการมีตูร์บิยองเพื่อความเที่ยงตรงเป็นพิเศษแล้วก็คือเข็มบอกเวลาแบบเพอริเฟรอลที่เดินอยู่บนวงรอบนอกซึ่ง Audemars Piguet พัฒนาขึ้นเพื่อนาฬิการุ่นนี้โดยเฉพาะเพื่อที่จะได้ไม่บดบังตัวการ์ตูนสายดาร์ครูปหัวกะโหลกกระดูกไขว้ที่โลดแล่นอยู่ในวงการศิลปะมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 และหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าสกรูว์ทั้ง 8 ตัวบนขอบตัวเรือนนั้นก็ตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ตัว X ของ KAWS เหมือนดวงตาของ Companion ด้วย
นาฬิกา Royal Oak Concept รุ่นที่ออกแบบร่วมกับคนนอกเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงผลิตภัณฑ์เพื่อการตลาด เพราะแต่ละเรือนนั้นต่างก็เป็นตัวแทนแห่งช่วงเวลาและความสนใจของสังคมโลกในเวลานั้นๆ ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้คนที่ไม่ได้ติดตามเรื่องนาฬิกาอยู่แต่เดิมได้เข้ามาทำความรู้จักกับความละเอียดอ่อนของงานประดิษฐ์นาฬิกาจักรกล ตลอดจนจิตวิญญาณแห่งความเปิดกว้างของ Audemars Piguet ที่จะมีอายุครบ 150 ปีในปีหน้านี้แล้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง: Materials and Shapes Define Audemars Piguet 2024 First Semester Novelties
We take a look at how some Royal Oak Concept watches have the potential to reach beyond traditional watchmaking audience.
Words: Ruckdee Chotjinda Photo: Audemars Piguet
The Royal Oak Concept collection was launched in 2002 to commemorate the 30th anniversary of the Royal Oak. True to the bold spirit of the original design it celebrated, the first Royal Oak Concept was daring and ultra-modern, featuring an even sharper angular geometry. The hallmark octagonal bezel, a defining characteristic of the Royal Oak, was retained, ensuring its instant recognizability.
Over time, the Royal Oak Concept has served as a creative platform for Audemars Piguet’s watchmakers and engineers to experiment with innovative technical concepts, exploring advancements in both mechanics and materials. The collection has also hosted notable collaborations between Audemars Piguet and third parties. Among these, the Royal Oak Concept Laptimer Michael Schumacher (221 pieces), developed between 2010 and 2015, stood out for its ability to measure multiple consecutive lap times during a race.
Newcomers to the watch scene may be more familiar with the Royal Oak Concept Black Panther Flying Tourbillon in 2021 (250 pieces) and the Royal Oak Concept Tourbillon Spider-Man in 2022 (also 250 pieces). Both watches received mixed reactions from traditional collectors, but they did a much more effective job than any conventional Audemars Piguet watch to remind Marvel fans out there that a certain family-owned company in the isolated Swiss town of Le Brassus is crafting timepieces of the highest calibers. Having said that, those watches might even have served provided a gateway into the world of mechanical watchmaking altogether for the younger audience.
And just when you may think that the Royal Oak Concept is anything but feminine, Audemars Piguet presented the Royal Oak Concept Flying Tourbillon Tamara Ralph limited edition of 102 pieces this January.
Ralph, a fourth-generation couturier, epitomizes the fashion counterpart to traditional watchmakers. Her brand is built on craftsmanship, quality and savoir-faire. This year, her ideals grace the 38.5 mm pink gold Royal Oak Concept watch, captivating with its alternation among hammered, polished and brushed surfaces. Its multi-layer dial in shades of gold, bronze and brown leads the eyes to the diamond-set flying tourbillon at the six o’clock position. Pink gold hour and minute hands mark the passage of time as they are driven by the hand-winding Calibre 2964 underneath, with a minimum reserve of 72 hours.
Earlier this week, the Royal Oak Concept has proven itself as a fertile ground for collaboration with the Royal Oak Concept Tourbillon Companion. This limited edition of 250 pieces in 43 mm sandblasted titanium case brings one from the realm of fashion to that of art.
Collaborating with Brooklyn-based Brian Donnelly who is better known by his stage name KAWS, the watch features at its heart a miniature of Companion – the darkish character created in 1999 by the American artist with a head of a skull and crossbones and the eyes of X marks. Regular hour and minute hands are eschewed in favor of peripheral ones developed by Audemars Piguet for this timepiece. They are driven by the hand-winding, tourbillon Caliber 2979 with a power reserve of 72 hours. Notice also how the eight screws on the bezel are subtly graced by KAWS’ signature X.
These collaborative Royal Oak Concept watches are not mere marketing exercises. They embody the pulse of global societies and developments, and allow a wider range of people to discover the intricacy of mechanical watchmaking, as well as the free-spirited mentality of the 149-year manufacture that is Audemars Piguet.
See also: Materials and Shapes Define Audemars Piguet 2024 First Semester Novelties