Audemars Piguet ประสบความสำเร็จในการพัฒนาฟอร์จคาร์บอนรูปแบบใหม่ที่เรืองแสงได้ในที่มืด
บทความ: รักดี โชติจินดา
Audemars Piguet เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเลือกใช้หรือคิดค้นวัสดุชนิดต่างๆ เรื่อยมา ดังจะเห็นได้จากการนำแทนทาลัมเข้าสู่วงการนาฬิกาในปี ค.ศ. 1988 และอาลาไครท์ในปี ค.ศ. 2002 ก่อนที่จะเป็นแบรนด์นาฬิกาแบรนด์แรกในโลกที่ผลิตตัวเรือนด้วยวัสดุฟอร์จคาร์บอนในปี ค.ศ. 2007 และในวันนี้ Audemars Piguet ก็เริ่มหน้าบทใหม่ของตำนานแห่งวัสดุศาสตร์ด้วยการเปิดตัววัสดุคัลเลอร์ฟอร์จคาร์บอนที่ทนทานและมีลูกเล่นที่สร้างสรรค์ยิ่งกว่าเดิม
คัลเลอร์ฟอร์จคาร์บอนเป็นผลงานจากการวิจัยและพัฒนานาน 5 ปีและผลิตด้วยเทคโนโลยีซีเอฟที (Chroma Forged Technology) ซึ่ง Audemars Piguet จดสิทธิบัตรคุ้มครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลักษณะของวัสดุยังคงมีสีดำเป็นหลักเหมือนกับฟอร์จคาร์บอนแบบดั้งเดิม แต่ว่าเพิ่มเติมสีสันในลวดลายของเนื้อวัสดุ คัลเลอร์ฟอร์จคาร์บอนนั้นแตกต่างจากคาร์บอนในสมัยก่อนๆ ตรงที่เทคโนโลยีซีเอฟทีนี้ทำให้ AP สามารถย้อมสีคาร์บอนไฟเบอร์ได้โดยตรงและย้อมเป็นสีต่างๆ ได้มากมาย ไม่เหมือนแต่ก่อนที่จะต้องย้อมเนื้อเรซินที่ผสมลงไปวัสดุเท่านั้น ทั้งนี้ AP ยังสามารถทำให้คาร์บอนไฟเบอร์ส่วนที่มีสีนี้เรืองแสงในที่มืดได้อีกด้วย เพื่อตอกย้ำความมีลูกเล่นของเรือนเวลาที่ใช้วัสดุคัลเลอร์ฟอร์จคาร์บอนนี้ และยิ่งไปกว่านั้นคือการที่เทคโนโลยี CFT นี้ทำให้วัสดุคัลเลอร์ฟอร์จคาร์บอนที่เกิดขึ้นมีรูพรุนในเนื้อวัสดุน้อยลงจนมีความทนทานต่อความร้อน ความชื้น แรงสั่นสะเทือนและการขีดข่วนยิ่งกว่าเดิม
Royal Oak Concept Split-Seconds Chronograph GMT Large Date คือนาฬิการุ่นแรกที่ได้ใช้วัสดุซีเอฟทีคาร์บอนนี้ในการผลิตตัวเรือนชั้นกลางที่มีขนาด 43 มม. หน้าปัดแบบโอเพ่นเวิร์คของเรือนเวลารุ่นนี้มีรายละเอียดสีน้ำเงินอิเล็กทริกบลูที่สะท้อนสีน้ำเงินของลวดลายบนตัวเรือนและตัดกับตัวเครื่องนาฬิกาที่มีชิ้นส่วนสีเทาและสีดำได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นวงแหวนของหน้าปัดย่อยทั้งสามหรือขอบตัวเรือนชั้นในก็ดี ทั้งยังช่วยให้สามารถอ่านค่าต่างๆ ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วย ยิ่งเมื่อประกอบกับขอบตัวเรือน ปุ่มกดและเม็ดมะยมที่ผลิตจากเซรามิกสีดำก็ยิ่งทำให้นาฬิการุ่นนี้ดูคมคายและล้ำสมัยเป็นที่สุดไม่ว่าจะสวมใส่ด้วยสายยางสีน้ำเงินและดำ หรือสายยางสีดำและน้ำเงินที่มาพร้อมกันในชุดและสับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ
ในเรื่องของฟังก์ชั่นนั้นชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Royal Oak Concept Split-Seconds Chronograph GMT Large Date จะต้องมีหน้าต่างวันที่ขนาดใหญ่อยู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา การบอกเวลาในประเทศที่สองด้วยระบบจีเอ็มทีจะใช้หน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาซึ่งมีเข็มชั่วโมงที่เดินครบหนึ่งรอบในเวลา 12 ชั่วโมงประกอบกับจานแสดงค่ากลางวัน/กลางคืนที่หมุนครบหนึ่งรอบในเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อกดปุ่มที่ฝังอยู่ในเม็ดมะยมแล้วเข็มชั่วโมงของระบบจีเอ็มทีจะเคลื่อนไปข้างหน้าเป็นจังหวะครั้งละ 1 ชั่วโมง และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคือฟังก์ชั่นโครโนกราฟแบบฟลายแบ็คที่มีกลไกสปลิทเซ็กเกินด์ติดตั้งอยู่ในบอลแบริ่งของโรเตอร์ขึ้นลานที่ผลิตจากแพลทตินัมซึ่งถือเป็นความสำเร็จในเชิงกลไกที่มองเห็นได้ผ่านทางฝาหลังแซฟไฟร์คริสตอลของนาฬิการุ่นนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง: Materials and Shapes Define Audemars Piguet 2024 First Semester Novelties
The material makes its debut in the Royal Oak Concept Split-Seconds Chronograph GMT Large Date.
Words: Ruckdee Chotjinda
Audemars Piguet has a long-standing exploration of creative materials. After introducing tantalum and alacrite in 1988 and 2002, respectively, they were the first brand to have used forged carbon in the watch industry in 2007. Today, the new coloured forged carbon begins the next chapter in this material journey with its superior resistance and creative possibilities.
A product of 5-year research and development, coloured forged carbon is produced using the patented Chroma Forged Technology (CFT). It combines the deep black look of traditional forged carbon with subtle touches of colour. However, it differs from previous generations of carbon in that CFT makes it possible to colour the carbon fibres directly instead of the resin, and in a multitude of colour choices. These coloured carbon fibres can also glow in the dark to enhance the watch’s playful aesthetic. And thanks to this enhanced technology, the new coloured forged carbon is less porous and, therefore, even more resistant to heat, humidity, shocks and scratches.
The 43 mm Royal Oak Concept Split-Seconds Chronograph GMT Large Date is the first watch to use CFT carbon for its case middle. The case’s blue accents are firmly echoed by the aesthetic of the openworked dial whose electric blue counter rings and inner bezel offer not only a trendy look but also the contrast against the grey and black tone of the movement, as well as enhanced legibility. Black ceramic bezel, push-pieces and crown complete the sleek and futuristic look of this timepiece, which is mounted on a blue and black interchangeable rubber strap. The watch also comes with a second rubber strap in black and blue.
In terms of functions, this Royal Oak Concept Split-Seconds Chronograph GMT Large Date watch features a highly legible large date indication occupies the 12 o’clock position. Its GMT subdial at three o’clock indicates time in a second time zone with an hour hand that completes one revolution in 12 hours, and an accompanying day/night disc that does the same in 24 hours. A coaxial push-piece built into the crown advances the GMT indication by one hour when pressed. Last but not least, it is equipped with a flyback chronograph with a split-seconds mechanism that is housed within the ball bearing of the movement’s platinum oscillating weight – a technical and aesthetic feat that is visible through the sapphire caseback.
See also: Materials and Shapes Define Audemars Piguet 2024 First Semester Novelties
