Mikimoto Pearls: From Pure Nature to Immortal Beauty, the Story behind the creator of cultured pearls
Words: Lalida Sanpinitsunthorn
English Translation: Hiroki Satō | Photos: Courtesy of Mikimoto
Considered the king of natural jewellery, pearls are a symbol of grace, purity, gentleness and elegance. Appreciated since ancient times, it is believed that pearls bring happiness to the wearer. Mikimoto, one of the world’s most trusted brands when it comes to pearls has been making pearl jewellery for over a century. The company was started in the early 19th century, and has since created a unique identity or “Mikimoto Style” that comes from matching traditional Japanese gold-smithing techniques with European jewellery designs.
Mikimoto selects only the most beautiful, smooth round pearls by choosing only the top 1% of the pearls, or 1 in 100 pearls for their exclusive jewellery. The brand’s ‘Praise to Nature’ collection, is a masterpiece inspired by the natural world. This collection was originally launched in 2017 at the grand re-opening of Mikimoto’s boutique at Ginza 4-Chome. Yoko Tankao, one of the collection’s designers wanted to express appreciation for the natural world to signal the next era of Mikimoto, as well as highlight Mikimoto as the first person to have created cultured pearls, having started 126 years ago.
In the Prasie to Nature collection, the necklace is inspired by magnificient Paraiba Tourmaline. The designer wanted to capture the energy of butterflies as they float together in spring and onward to the sky. Golden pearls are reminiscent of sunlight on the water surface while white pearls symbolise the moon over an inky-black ocean. In all, the natural flow of gemstones and pearls are meant to shift subtly as if one were riding on ocean waves. The collection also includes an 18K white gold necklace with South Sea cultured pearl, Akoya cultured pearl, sapphire, garnet, alexandrite and diamonds priced at ¥70,000,000 (THB 20 million). The 18K white gold earrings are made of white South Sea cultured pearl, sapphire, garnet, alexandrite and diamond and are priced at ¥10,000,000 (THB 3 million).
Another collection, “Jeux de Rubans”, is inspired by the timeless look of ribbons, which are known throughout the world to boost confidence, joy and happiness. The necklace is made of 18K white gold with white South Sea cultured pearl, Akoya cultured pearl, sapphire and diamond as well as earrings, ring and a bracelet that reflect the unrivalled craftsmanship of Mikimoto.
Praise to Nature, along with other masterpieces can be viewed at Mikimoto Boutique, M Level of Siam Paragon or Tel. 02-129-4444-5.
Mikimoto จากธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์สู่ความงามที่เป็นอมตะ
Words: Lalida Sanpinitsunthorn
Photos: Courtesy of Mikimoto
ราชาของอัญมณีธรรมชาติน่ามหัศจรรย์ ‘ไข่มุก’ เป็นเสมือนตัวแทนสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ที่อ่อนโยน นุ่มนวลและสง่างาม เชื่อกันว่าไข่มุกจะนำมาซึ่งความสุขและความสำเร็จให้กับผู้สวมใส่ เครื่องประดับมุกจึงเป็นเครื่องประดับของหญิงสาวมาเนิ่นนานทุกช่วงเวลา ‘มิกิโมโต้ (Mikimoto) แบรนด์เครื่องประดับไข่มุกที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งและได้รับความไว้วางใจจากผู้หญิงทั่วโลกมากว่าศตวรรษ ผลงานอันประณีตได้รับการรังสรรค์ขึ้นในศตวาษที่ 19 สะท้อนเอกลักษณ์โดดเด่นและมีสไตล์ของแบรนด์ นำรวมเทคนิคงานช่างทองตามประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่น ผสานกับการดีไซน์เครื่องประดับแบบยุโรปได้อย่างลงตัว
มิกิโมโต้เลือกสรรไข่มุกเม็ดงามที่กลมเกลี้ยงและเงางามที่สุดโดยคัดเลือกไข่มุก 1% แรกที่ดีที่สุดหรือไข่มุก 1 ใน 100 ของไข่มุกทั้งหมดเพื่อประกอบเป็นเครื่องประดับที่สวยงามที่สุดและกลายมาเป็นคอลเล็กชั่นล่าสุดสุดเอ็กคลูซีฟ ‘Praise to Nature’ เป็นผลงานชิ้นเอกอย่างวิจิตรบรรจงผ่านแรงบันดาลใจจากความงามธรรมชาติ สำหรับคอลเล็กชั่น Praise to Nature เคยเผยโฉมไปแล้วเมื่อปี 2017 ในการเปิดร้านอีกครั้งของร้านกินซ่า 4 โซเมะ โดยต้องการให้ผู้คนอยู่รวมกับธรรมชาติอย่างกลมเกลียว หนึ่งในดีไซเนอร์ผู้ออกแบบคอลเล็กชั่นนี้ โยโกะ ทากาโนะถ่ายทอดผลงานที่แสดงออกถึงความกตัญญูและความชื่นชมต่อธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ เป็นการเริ่มต้นของการเดินทางก้าวต่อไปของมิกิโมโต้ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกมุกเพาะเลี้ยงมากว่า 126 ปี คอลเล็กชั่นนี้จึงสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันนี้
ใน Praise of Nature มีการออกแบบสร้อยคอที่ได้แรงบันดาลใจจากสีสันสวยงามของพาเรบา ทูร์มาลีน (Paraiba Tourmaline) ที่มีความระยิบระยับกว่าอัญมณีชนิดอื่นๆ โดยดีไซเนอร์ต้องการนำเสนอเครื่องประดับที่ซึมซับพลังงานของผีเสื้อที่ชุมนุมกันในฤดูใบไม้ผลิแสนสวยงามและบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอันสดใส ซึ่งไข่มุกสีทองเปรียบเสมือนประกายของแสงแดดเจิดจ้าบนผิวน้ำทะเล ส่วนไข่มุกสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของแสงจันทร์สะท้อนบนผิวมหาสมุทรสีดำสนิท ในคอลเล็กชั่นนี้ประกอบด้วยสร้อยคอที่งดงามซึ่งร้อยเรียงจากไข่มุกเซาธ์ซีส์สีขาวและไข่มุกอะโกย่าประดับอัญมณีมีมูลต่าอย่างแซฟไฟร์ การ์เนต อเล็กซานไดรท์และเพชร ตัวเรือนทองคำขาว 18K รวมราคา 70,000,000 เยนหรือประมาณ 20 ล้านบาท สำหรับต่างหูเป็นไข่มุกเซาธ์ซีส์สีขาวประดับแซฟไฟร์ การ์เนต อเล็กซานไดรท์และเพชร ตัวเรือนทำจากทองคำขาว 18K รวมราคา 10,000,000 เยนหรือประมาณ 3 ล้านบาท
นอกจากนั้น ยังมี คอลเล็กชั่น Jeux de Rubens ที่มีแรงบันดาลใจจากริบบิ้น สัญลักษณ์เหนือกาลเวลา ช่วยจุดประกายในหัวใจและเพิ่มความงดงาม ความสุข ความสวยงามและความเชื่อมั่นของหญิงสาว ในคอลเล็กชั่นประกอบด้วยสร้อยคอมุกเซาธ์ซีส์สีขาวและไข่มุกอะโกย่าประดับแซฟไฟร์และเพชร ตัวเรือนทองคำขาว 18K และยังมีต่างหู แหวนและกำไลข้อมือ อีกทั้งยังมีผลงานมาสเตอร์พีซอีกมากมาย ที่สรรค์สร้างจากไข่มุกผสานกับอัญมณีอื่นๆ ไปสัมผัสความงดงามล้ำค่าจากไข่มุก ราชาแห่งท้องทะเลได้ที่มิกิโมโต้ บูติค ชั้น M สยามพารากอน หรือสอบถามข้อมูลได้ที่โทร. 0-2129-4444-5