3 เรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ Chaumet เมซงเครื่องประดับชั้นสูงจากฝรั่งเศสกับการถ่ายทอดเรื่องราวความรักและธรรมชาติมากว่า 240 ปี
บทความ: เนตรนภา ปะวะคัง ภาพ: Chaumet
ผ่านไปแล้วกับงานเฉลิมฉลองการเปิดบูติกแห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ Chaumet แบรนด์ไฮจิวเวลรีและเรือนเวลาชั้นสูงจากฝรั่งเศส โดยในงานนี้มีมิสเตอร์ชาร์ลส์ เหลียง ซีอีโอของแบรนด์ พร้อมด้วยโกลบอลแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างซงฮเยคโยและชาอึนอู รวมถึงกลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ และเหล่าเซเลบริตี้แถวหน้าของเมืองไทยให้เกียรติมาร่วมงานอย่างคับคั่ง Lux To Know ของเราในครั้งนี้จึงอยากถือโอกาสแนะนำ 3 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ Chaumet ที่จะช่วยให้คุณได้รู้จักประวัติศาสตร์อันยาวนานและความงดงามของศิลปะการออกแบบเครื่องประดับฉบับฝรั่งเศสให้มากขึ้น
1. มรดกแห่งราชสำนักฝรั่งเศส
Chaumet ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1780 โดยมารี-เอเตียน นิโตต์ขณะเขาเป็นช่างอัญมณีประจำเมซงของออนจ์-โจเซ็ฟ อูแบรต์ ช่างอัญมณีคู่ใจของพระนางมารี อ็องตัวแน็ต ต่อมามารี-เอเตียน นิโตต์ได้ดำรงตำแหน่งช่างอัญมณีประจำราชสำนักนโปเลียน โบนาปาร์ต และรังสรรค์ผลงานมากมาย เช่น ดาบบรมราชาภิเษก เครื่องราชอิสริยาภรณ์ มงกุฎสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 รวมถึงผลงานอันโด่งดังอย่างมงกุฎของจักรพรรดินีโจเซฟีน ซึ่งยังคงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในดีไซน์ของ Chaumet จวบจนปัจจุบัน อีกทั้งเรื่องราวความรักระหว่างนโปเลียนกับโจเซฟีนก็ทำให้เกิดคอลเลกชันซิกเนเจอร์ของเมซงทั้ง Liens Collection, Joséphine Collection และ Bee My Love collection
2. เจ้าแห่งการรังสรรค์ “มงกุฎ”
หนึ่งในผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของ Chaumet คือ เทียร่า หรือมงกุฎ ที่ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับ แต่ยังเป็นงานศิลปะที่เล่าเรื่องราวของความรัก ความจงรักภักดี และพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์มา Chaumet ก็ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้รังสรรค์มงกุฎให้แก่ครอบครัวชนชั้นสูงและราชวงศ์ต่างๆ มาแล้วกว่า 2,000 ชิ้น สะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและความประณีตในงานช่างระดับสูงสุดของเมซงได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีโมเดลมงกุฎที่ทำจากเงินนิกเกิลด้วยเทคนิคเฉพาะถูกเก็บไว้ในพิพิภัณฑ์ของ Chaumet กว่า 700 แบบ และในบูติกต่างๆ รวมถึงที่ไทยก็จะมีโมเดลมงกุฎเงินนิกเกิลจัดแสดงให้ลูกค้าลองสวมได้ด้วย
3. สายสัมพันธ์ระหว่างศิลปะกับธรรมชาติ
แรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานของ Chaumet มาจากธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ ใบไม้ สายน้ำ ที่มักปรากฏในเครื่องประดับของแบรนด์เสมอ นักออกแบบของ Chaumet สามารถถ่ายทอดความอ่อนช้อย ความหมาย เส้นสาย และความละเอียดอ่อนของธรรมชาติลงบนเครื่องประดับได้ราวกับมีชีวิต เช่น คอลเลกชัน Hortensia ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความอ่อนไหวของดอกไฮเดรนเยีย คอลเลกชัน Bee My Love ที่ใช้ลายหกเหลี่ยมของรวงผึ้งเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองและความสามัคคี Déferlante de Chaumet แคปซูลคอลเลกชันล่าสุดที่ถ่ายทอดเส้นสายของคลื่นกระทบฝั่งออกมาได้งดงามและอลังการอย่างยิ่ง
บทความที่เกี่ยวข้อง: Pharrell Williams Redefines New Designs for Tiffany Titan Collection