โฉมใหม่แห่งความอลังการของแบรนด์จิวเวลรี่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 240 ปี
บทความ: จูเลีย โรแซน
แบรนด์จิวเวลรี่และนาฬิกาหรู Chaumet เปิดบูติคระดับแฟล็กชิปเพื่อต้อนรับลูกค้าคนสำคัญอีกครั้งที่เลขที่ 12 ปลาซวองโดม ปารีส ภายในพลิกโฉมใหม่หมดไม่ว่าจะเป็นการจัดแบ่งพื้นที่ การตกแต่ง พื้นที่ขาย ห้องรับรองและห้องทำงานของช่าง
โจทย์ของงานปรับโฉมครั้งใหญ่นี้คือการผสานขนบธรรมเนียมเข้ากับความทันสมัย พร้อมคงไว้ซึ่งหัวใจสำคัญอันเป็นตัวตนของ Chaumet ตามที่ผู้ก่อตั้งแบรนด์เคยตั้งใจไว้ตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1780
เมื่อเดินเข้าไปภายในบูติคก็จะพบกับคอลเลคชั่น Joséphine, Liens และ Jardins อยู่ที่ชั้นล่าง จากนั้นบรรยากาศของแมนชั่นแห่งนี้ก็จะพาผู้มาเยือนไปพบกับผลงานชิ้นสำคัญจากช่วงเวลาต่างๆ ในประวัติศาสตร์ของ Chaumet ทั้งหมดถูกห้อมล้อมด้วยการตกแต่งสุดวิจิตร ไม่ว่าจะเป็นงานปัก งานบุบนกำแพง งานแกะสลักบนแผงไม้วอลนัท งานปิดทองบนเนื้อหินและบันไดสุดอลังการ
การเปิดบูติคในครั้งนี้ตรงกับวาระครบรอบ 240 ปีของแบรนด์พอดี และมีเหล่าคนดังมาร่วมงานไม่ว่าจะเป็นโคโค โรชา, ซินดี้ บรูนา, คามิเลีย โคเอลโบและลีโอนี ฮานน์ โดยนอกจากจะเป็นพื้นที่แห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแล้ว บูติคแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของเวิร์คช็อปงานไฮจิวเวลรี่ซึ่งบรรดาช่างอัญมณี ช่างขัดแต่งและช่างฝึกหัดร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานภายใต้การนำของเบนัวต์ แวร์ฮุล
บูติคแห่งนี้มีห้องซาลอนหรูจำนวนทั้งหมด 6 ห้องด้วยกัน ได้แก่ Salon des Joyaux, Salon Malmaison, Salon des Dessins, Salon des Diadèmes, Salon des Perles และที่โดดเด่นที่สุดก็คือห้องที่มีชื่อว่า Salon Chopin
บารอน โบดาด์ เดอ ซ็องต์-เจมส์ เป็นผู้ดำริให้มีการออกแบบห้อง Salon Chopin นี้เมื่อปี ค.ศ. 1779 โดยสถาปนิก ฟร็องซัวส์-โจเซฟ เบลองแชร์ และคณะช่างศิลป์ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี-อ็องตัวแนต Salon Chopin แห่งนี้เป็นดั่งสมบัติในทางศิลปะอันเหลือเชื่อ บนกำแพงแต่ละด้านมีงานศิลป์อย่างเช่นภาพวาดของลาเกรอเนผู้น้องและงานปูนปั้นเป็นรูปสมอ เปลือกหอยและหอกสามแฉกโดยพี่น้องตระกูลรุสโซ และเพื่อเป็นเกียรติแก่ศิลปินซึ่งครั้งหนึ่งเคยพำนักอยู่ที่นี่จึงมีการตกแต่งด้วยเปียโนของ Pleyel จากยุคทศวรรษที่ 1920
หน้ากากของอาคารแห่งนี้ครอบคลุมตลอดทั้งหน้ากว้างของห้องเลขที่ 12 ปลาซวองโดมและสูงตั้งแต่ชั้นบูติค ผ่านชั้นแกรนด์ซาลอนไปจนถึงชั้นเวิร์คช็อป ดีไซน์ของหน้ากากดังกล่าวชวนให้นึกถึงสวนสวยที่มีผึ้งโบยบินท่ามกลางรวงข้าวสีทอง ใบไม้เขียวขจี บานกระจกเงาและระแนงสีน้ำเงินตามแบบฉบับของ Chaumet ยิ่งเมื่อเปิดไฟในยามค่ำคืนแล้วก็บ่งบอกถึงการผสานกันเป็นหนึ่งระหว่างแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งการประดิษฐ์เครื่องประดับได้เป็นอย่างดี
บทความที่เกี่ยวข้อง: Cindy Chao Celebrates the 15th Anniversary with The Annual Butterfly Collection
The address showcases the maison’s iconic milestones and history in an array of new layouts.
Words: Julia Roxan
Reopening its newly refurbished flagship at the 12 Place Vendôme in Paris, the high-end jewelry and watchmaker Chaumet showcases an array of new layouts, décor, boutiques, grand salons and workshops.
The auberge’s restoration which balances longstanding traditions with modernity, highlights metaphorical cornerstones of the maison as its founder intended them. It represents the core values and heritage of the Chaumet brand since its inception in 1780.
With the Joséphine, Liens and Jardins collections showcased on the ground floor, the Chaumet hôtel particulier takes guests on a journey through the brand’s iconic milestones and history, incorporating delicate décor in form of embroidery, upholstered walls, engraved walnut paneling, finely gilded stone, and a grand staircase.
Joining in celebration of its 240th anniversary, a slew of esteemed guests such as Coco Rocha, Cindy Bruna, Camila Coelbo and Leonie Hanne, gathered in honor of the maison and its established building which now features a variety of historic and cultural spaces, plus the high jewellery workshop where Chaumet creations are born under the direction of Benoît Verhulle and his team of jewelers, setters, polishers and apprentices.
Offering an air of sophisticated comfort, the Chaumet hôtel particulier houses a total of six intimate salons such as, the Salon des Joyaux, Salon Malmaison, Salon des Dessins, Salon des Diadèmes, Salon des Perles, and most notably, the Salon Chopin.
Designed at the request of Baron Baudard de Sainte-James by lead architect François-Joseph Bélanger and a team of artisans prized by King Louis XVI and Queen Marie-Antoinette in 1779, the Salon Chopin is regarded as an exceptional artistic treasure, with invaluable paintings of Lagrenée le Jeune, and the sculpted paneling of anchors, shells and tridents by the Rousseau brothers, lining each wall. As an ode to a former resident’s final mazurka and the salon’s musical identity, the space now also includes a Pleyel piano from the 1920s.
With bees and golden ears of wheat, lush foliage, graphic mirrors and Chaumet blue trellis, the maison reels in the new chapter with a symbolic garden. The enchanting installation stretches across the 12 Vendôme’s façade, rising from the boutique to the workshop, and encircling the grand salons along the way. Lit up after nightfall, the garden represents the maison’s most cherished union of naturalistic inspiration and jewellery culture.
See also: Cindy Chao Celebrates the 15th Anniversary with The Annual Butterfly Collection
