ลุคที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่หรูหรามีสไตล์ตามแบบฉบับของ Ermenegildo Zegna
บทความ: โจนาธาน โฮ
เมื่อพูดถึงการแต่งกายแบบหรูหราเป็นทางการ Ermenegildo Zegna นับเป็นหนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้าเพียงหยิบมือที่พอเอ่ยชื่อขึ้นมาแล้ว ใครๆ ก็นึกถึงการแต่งกายสไตล์นี้ทันที Ermenegildo Zegna ได้ดำเนินกิจการออกแบบและผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นสุดหรูในอิตาลีมาตั้งแต่ปี 1910 จากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน Ermenegildo Zegna พบว่าแบรนด์ของตนมีเป้าหมายสำคัญในการดำรงอยู่เพื่อผลิตเครื่องแต่งกายที่ช่วยให้ผู้ชายดูดี และส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ผู้ชายแต่ละคนมีสไตล์เป็นของตัวเอง ในช่วงแรก ทางแบรนด์เริ่มต้นด้วยการรับออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้า ใส่ใจทุกรายละเอียดบนเสื้อผ้านับตั้งแต่รังดุมไปจนถึงคอปก โดยมีเป้าหมายในการออกแบบเครื่องแต่งกายให้ตรงตามความปรารถนาของผู้สวมใส่ รวมทั้งเหมาะกับรูปร่างและไลฟ์สไตล์ของเขาด้วย
ในยุคต่อมา Ermenegildo Zegna ก็เริ่มผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปออกมาขายด้วย นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มคอลเลกชั่นเสื้อผ้าให้มีมากกว่าเพียงแค่ชุดสูทผู้ชายและบริการรับตัดชุดสูท ภายในเวลาไม่นาน Ermenegildo Zegna ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทเสื้อผ้าแบรนด์หรูที่ยังคงเป็นกิจการของครอบครัว ก็ได้กลายเป็นแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก
ด้วยมรดกตกทอดที่เขาได้รับมาจากพ่อเป็นกี่ทอผ้าและทรัพย์สินอื่นๆ แอร์เมเนจิลโดได้บริหารกิจการจนบริษัทเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีการจ้างคนงานมากถึง 1,400 คนในปี 1955 ลูกชายของแอร์เมเนจิลโดชื่อ อัลโด และแองเจโล ได้เข้ามาเริ่มงานในบริษัทนี้เมื่อปี 1942 ทั้งสองได้กลายเป็นผู้ดูแลกิจการทั้งหมดในปี 1966 เมื่อพ่อของพวกเขาเสียชีวิต การดำเนินธุรกิจของอัลโดและแองเจโลได้แสดงให้เห็นว่าสายเลือดของนักธุรกิจที่เก่งกาจนั้นยังคงตกทอดมาจนถึงทายาทของแอร์เมเนจิลโด ในปี 1968 บริษัทได้เริ่มวางรากฐานซึ่งกลายมาเป็นโครงสร้างของ Ermenegildo Zegna ในปัจจุบัน โดยเริ่มเปิดตัวชุดสูทผู้ชายแบบสำเร็จรูปที่ผลิตในโรงงานของ Zegna ในเมืองโนวารา ต่อมาก็มีการเปิดตัวเสื้อถักทอ ชุดลำลอง และเครื่องประดับต่างๆ โดยในทศวรรษ 1980 Zegna มีร้านแฟล็กชิปสโตร์ใน 18 ประเทศทั่วโลก
การสร้างแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายให้เป็นอันดับหนึ่งในโลกนั้น ครึ่งหนึ่งต้องอาศัยไหวพริบในการตัดสินใจทางธุรกิจ ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งต้องอาศัยปัจจัยซึ่งค่อนข้างจะจับต้องไม่ได้ นั่นก็คือวิสัยทัศน์และความคิดสร้างสรรค์ ทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งที่นักออกแบบอย่างอเลสซานโดร ซาร์โตริ มีมากกว่าใคร ในปี 2003 เขาได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ “Z Zegna” ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ภายใต้ปีกของ Ermenegildo Zegna หลังจากนั้น 13 ปี เขาก็ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของกลุ่มบริษัท ดังนั้นหากจะกล่าวว่าซาร์โตริเป็นบุคคลสำคัญที่ผลักดันแบรนด์ Zegna ให้เติบโตและครอบคลุมทุกแง่มุมของการแต่งกายและไลฟ์สไตล์ของผู้ชายนั้นก็ไม่ใช่การคุยโม้ แต่เป็นการพูดเรื่องจริง
นับตั้งแต่เครื่องประดับไปจนถึงเสื้อผ้าที่เป็นทางการภายใต้แบรนด์ Z Zegna Formalwear จะเห็นว่าErmenegildo Zegna ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทุกๆ แง่มุมในชีวิตของสุภาพบุรุษทั้งในและนอกเวลาทำงาน แม้แต่เสื้อผ้าลำลองของ Zegna ลูกค้าก็สามารถสั่งตัดให้พอดีตัวได้ นี่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาซึ่งเป็นแก่นแท้ของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มวางรากฐานกันมา ไม่น่าสงสัยเลยว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่าแบรนด์สินค้าสักแบรนด์จะมีรากหยั่งลึกลงไปในมรดกทางวัฒนธรรมและคุณค่าที่เป็นแก่นแท้ซึ่งถ่ายทอดกันมาในธุรกิจนั้นได้จริงๆ อย่างไรก็ดีการทำความเข้าใจนี้จะง่ายขึ้นเมื่อเราเริ่มพิจารณาหัวใจสำคัญของ Zegna
ในการหาคำตอบว่าหัวใจของแบรนด์นี้คืออะไร สิ่งที่ต้องทำมีเพียงแค่พิจารณาดูแบรนด์ PelleTessuta ซึ่งผลิตเครื่องหนังที่ตัดเย็บด้วยผ้าชนิดพิเศษซึ่งทอจากหนัง ผ้าชนิดนี้สร้างสรรค์และพัฒนาขึ้นโดย Ermenegildo Zegna โดยมีแรงบันดาลใจมาจากความรู้เรื่องสิ่งทอที่ถ่ายทอดกันมาภายในครอบครัว เส้นด้ายที่ผลิตจากหนังแนปป้าซึ่งบางมากได้ถูกนำมาถักทออย่างมืออาชีพโดยใช้กี่ทอผ้าที่ทำขึ้นเพื่อเลียนแบบวิธีทอผ้าแบบโบราณ ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงกลายเป็นผ้าเกรดพรีเมียมที่ผลิตจากหนัง ซึ่งมีความนุ่ม เบา และมีผิวสัมผัสใกล้เคียงกับผ้าแคชเมียร์ น่าสงสัยว่าจะมีใครอีกไหมบนโลกใบนี้ที่มีวิสัยทัศน์มากพอที่จะคิดว่ากี่ทอผ้าธรรมดาๆ จะนำมาใช้ประโยชน์ในวงการเครื่องหนังได้
แม้แต่เสื้อผ้าแนวสตรีทแวร์ ซึ่งเป็นคอนเซ็ปท์แฟชั่นที่มักจะถูกกีดกันออกไปให้ห่างจากแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำสำหรับสุภาพบุรุษมากที่สุด ก็ยังถูกนำเสนอออกมาอย่างเต็มความสามารถภายใต้กรอบของแนวคิดและสไตล์การแต่งกายที่เหมาะเจาะลงตัวตามแบบฉบับของแบรนด์ นอกจากนั้น Zegna ยังมีแบรนด์รองเท้าผ้าใบ Claudio ซึ่งได้นำแรงบันดาลใจจากการแต่งกายแนวสตรีทแวร์มาผนวกกับงานฝีมือที่หรูหรา เมื่อได้เห็นลวดลายของเชือกที่ปักร้อยด้วยมือ เราก็อดไม่ได้ที่จะหวนนึกถึงกี่ทอผ้าซึ่งเป็นเสมือนจิตวิญญาณของ Zegna
แทนที่จะว่าจ้างบริษัทผู้ผลิตเครื่องหนัง แล้วเพียงแค่นำสินค้ามาประทับตราของตนเองลงไป Zegna กลับเลือกที่จะค้นคว้าหาเทคนิคการทอผ้าแบบโบราณที่สืบทอดต่อกันมา แล้วนำเทคนิคนั้นมาประยุกต์ใช้เพื่อบุกเบิกและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ นั่นเป็นหนึ่งในอีกหลายๆ เหตุผลที่ผลักดันให้ Zegna ก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายที่มีรายได้มากที่สุดในโลก
ใครๆ ก็ดูมีสง่าราศีราวกับนักธุรกิจพันล้านขึ้นมาทันทีเมื่อได้สวมใส่เสื้อผ้าของ Zegna ไม่ว่าจะเป็นโอกาสใดก็ตาม นั่นเพราะ Ermenegildo Zegna ซึ่งบริหารงานโดยซาร์โตริได้ลงทุนไปหลายล้านดอลลาร์กับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อที่จะทำให้ลุคของ Zegna ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ว่าคุณจะเป็นใครและมีไลฟ์สไตล์แบบไหน เมื่อได้สวมใส่เสื้อผ้าของ Zegna รับรองว่าคุณจะยังเป็นตัวคุณเองเพียงแต่เป็นคุณในแบบที่ดูดีที่สุดเท่านั้นเอง
Zegna’s collections make one effortlessly dressed up regardless of dress code.
Words: Jonathan Ho
When it comes to formal elegance, Ermenegildo Zegna is one of those handful of brands, whose names are absolutely synonymous with the dress code. Since 1910, Ermenegildo Zegna has been an Italian luxury fashion house that has found its raison d’etre in dressing men and shaping personal styles; at first through made to measure offerings where from button hole to collar, an entire look is built around your desires, your body and your lifestyle.
Eventually, they embraced ready-to-wear, expanded their collections beyond men’s suits and tailoring, quickly earning one of the world’s last remaining family owned luxury clothing companies into the biggest menswear brand in the world by revenue.
Inheriting his father’s looms and assets, Ermenegildo grew the company rapidly, employing 1400 workers by 1955. His sons, Aldo and Angelo, joined the business in 1942, eventually taking over the reigns of the company in 1966 upon the passing of their father and its telling that the familial gene for business acumen was just as strong in Ermenegildo’s scions. By 1968, Zegna had formed the foundation of what looks like Ermenegildo Zegna today, they launched a line of ready-to-wear men’s suits produced in Zegna’s factory in Novara. Following this, they launched a knitwear line, a casual wear line, and then an accessories line. By the 80s, Zegna had flagships in 18 countries.
The makings of the largest menswear brand in the world is one half business acumen, the other half, is somewhat more intangible – vision and creativity. Something which Italian designer Alessandro Sartori has in spades. In 2003, he became creative director of the newly created “Z Zegna” at Ermenegildo Zegna, 13 years later, he assumed became the group’s Artistic Director, thus to say that he was instrumental in growing Zegna brand to encompass almost every facet of men’s style and lifestyle is not hyperbole but fact.
From accessories to Z Zegna Formalwear, Ermenegildo Zegna embraces every touchpoint in a gentleman’s life in and out of the office. Yes, even casualwear can be made-to-measure at Zegna, a tailoring philosophy that has been the brand’s core since its founding. Without doubt, it’s hard to imagine how rooted a brand can be in its heritage and core values but it gets easier when you start to discern the heart of Zegna.
To do that, all one needs to do, is to look at Pelletessuta – a line featuring innovative, unique leather fabric created and developed exclusively by Ermenegildo Zegna inspired by the brand’s foundational textile heritage. Extremely thin nappa leather yarns are masterfully woven on a loom replicating the traditional method of cloth weaving. The result is a premium leather fabric recalling the soft, lightweight feel of cashmere, could anyone else envision the humble loom being used in the world of leather?
Even Streetwear, a fashion concept as far removed from a gentlemen’s haberdasher as can be has been addressed competently so within the confines of Zegna’s aesthetic codes and values. The Claudio, inspired by the worlds of streetwear and luxury craftsmanship together: the hand-threaded lace evokes the looms that define Zegna’s DNA.
Rather than use a third party leather-goods maker and simply emblazon a logo, the House of Zegna would rather look into its traditional weaving techniques and find applications for it a new frontier, this is but one of many reasons why Zegna is the largest menswear brand in the world.
You look like a million bucks in Zegna, regardless of dress code, because the House, as envisioned by Sartori, has spent millions of dollars in research and development, perfecting the Zegna look regardless of who you are and whatever your lifestyle. You’re still you, simply the best of you.
