Taycan ยนตรกรรมสปอร์ตขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าคันแรกจาก Porsche
บทความ: จตุวัฒน์ ศรีจันทร์
อีกหนึ่งความน่าสนใจในโลกของยนตรกรรมประหยัดพลังงานที่ทั้งหรู แรง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ต้องจับตามองในปี 2019 คือการมาถึงของ Taycan ยนตรกรรมสปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ “คันแรก” จาก Porsche ที่ผ่านกระบวนการขับทดสอบขั้นตอนสุดท้ายในประเทศแถบสแกนดิเนเวียไปแล้ว ก่อนจะถูกส่งต่อสายการผลิตเป็นลำดับต่อไป โดยพื้นที่ที่ใช้ในการทดสอบอยู่ห่างเพียงไม่กี่กิโลเมตรจากบริเวณขั้วโลกเหนือ เพื่อพิสูจน์ศักยภาพของตัวรถในแง่ของสมรรถนะขับขี่โหมดสปอร์ตบนสภาพพื้นถนนที่ปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง
ในขณะเดียวกัน ทีมวิศวกรของ Porsche อีกกลุ่มกำลังใช้โอกาสช่วงฤดูร้อนในอีกฟากของซีกโลกใต้ในทวีปแอฟริกา ทำการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่างๆ ในตัวรถอย่างต่อเนื่อง เพื่อการปรับแต่งให้สมบูรณ์แบบก่อนส่งไปสู่การผลิตขั้นตอนสุดท้าย
กว่าจะมาถึงโค้งสุดท้ายนี้ Taycan ได้ผ่านการทดสอบวิ่งต่อเนื่องเป็นระยะทางยาว เพื่อพิสูจน์ความทรหดของระบบแบตเตอรี่ภายใต้สภาพอากาศร้อนจัดของประเทศดูไบและอีกกว่า 30 ประเทศในทุกภูมิภาคทั่วโลกที่ได้รับเลือกให้เป็นเวทีประเมินผลตัวรถ ซึ่งมีอุณหภูมิแตกต่างกันสุดขั้วตั้งแต่ -35 จนถึง 50 องศาเซลเซียส ในระดับความสูงของพื้นที่ตั้งแต่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 85 เมตร จนถึงสูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 เมตร โดยใช้ทีมงานผู้พัฒนา นักขับทดสอบ รวมทั้งทีมช่างเทคนิคและวิศวกรทั้งสิ้นกว่า 1,000 ชีวิต
“ภายหลังจากผ่านการทดสอบเสมือนจริงด้วยแบบจำลองสถานการณ์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์และห้องทดลอง ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะก้าวเข้าสู่กระบวนการทดสอบขั้นตอนสุดท้าย ก่อนที่ Porsche Taycan จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เราได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อทดสอบรถคันนี้ รวมระยะทางประมาณกว่า 6 ล้านกิโลเมตรทั่วโลก และถึงขณะนี้เราทุกคนรู้สึกพอใจอย่างยิ่งกับสภาพความพร้อมในปัจจุบันของตัวรถ Taycan ซึ่งกำลังจะกลายเป็นยนตรกรรมมาตรฐาน Porsche ที่แท้จริงในไม่ช้านี้” นี่คือคำพูดที่ถูกเน้นย้ำโดย สเตฟาน เวคบาช รองประธานกรรมการ ผู้รับผิดชอบดูแลด้านการผลิต
แน่นอนว่าภายใต้การพัฒนาของ Porsche รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะต้องผ่านโปรแกรมการทดสอบสุดทรหดเช่นเดียวกันกับรถสปอร์ตเครื่องยนต์สันดาปภายในทุกรุ่นก่อนหน้านี้ การแบ่งแยกหรืออ่อนข้อให้กับการทดสอบรถคนละประเภทเครื่องยนต์นั้นไม่อยู่ในทางเลือก เพราะคำตอบของการทดสอบที่แบรนด์นี้คาดหวังมาตลอดหลายสิบปี คือรถทุกคันจะต้องพร้อมด้วยสมรรถนะชั้นเลิศ สามารถสนองตอบต่อการใช้งานประจำวันอย่างไร้ข้อจำกัดในทุกสภาพอากาศ รองรับความต้องการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ อย่างเช่น ความสะดวกสบายในการชาร์จพลังงานแบตเตอรี่ รวมไปถึงระบบควบคุมอุณหภูมิของชุดส่งกำลัง และระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารเพื่อให้พร้อมรับมือกับสภาพอากาศภายนอก ทั้งหมดนี้จะต้องถูกบรรจุอยู่ในรถสปอร์ตของ Porsche ทุกคัน
สิ่งที่พัฒนาเพิ่มเติมขึ้นมาสำหรับรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ได้แก่ ประสิทธิภาพการทำงานของวงจรไฟฟ้า อัตราเร่งที่ฉับไวและราบรื่น รวมไปถึงพิสัยการเดินทางเมื่อเปรียบเทียบต่อระยะเวลาในการชาร์จพลังงานที่เหมาะสม คือเป้าหมายที่ Porsche จะต้องทุ่มเทพัฒนาให้สำเร็จในโค้งสุดท้ายนี้
Porsche Taycan ให้อัตราเร่งสุดเร้าใจ จากศูนย์ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 3.5 วินาที พร้อมพิสัยการเดินทางสูงสุดมากกว่า 500 กิโลเมตร (ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC) ด้วยความล้ำหน้าของสถาปัตยกรรมแรงเคลื่อนไฟฟ้า 800 โวลต์ รับประกันได้ว่าจะสามารถชาร์จพลังงานคืนกลับมายังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน จนกระทั่งวิ่งได้ระยะทาง 100 กิโลเมตร ด้วยระยะเวลาเพียง 4 นาทีเท่านั้น (ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC)
Taycan มีกำหนดเปิดตัวออกสู่สายตาสาธารณชนอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนกันยายนนี้ และพร้อมจำหน่ายทั่วโลกก่อนสิ้นปี 2019 โดยขณะนี้มีลูกค้าที่วางเงินดาวน์จองรถผ่านโปรแกรมซื้อขายล่วงหน้าของ Porsche เป็นที่เรียบร้อยแล้วกว่าสองหมื่นราย
The future is near for Taycan as Porsche’s answer to the call for electric cars.
Words: Jatuwat Srichan
Another new vehicle is capturing the interest of the automotive the world in 2019. The Porsche Taycan electric car is setting new benchmarks for luxury, energy-saving, eco-friendly motoring. It has completed final testing in Scandinavia, not very far from the north pole to prove its potential when driving is some of the toughest winter conditions of snow and ice. At the same time, another team of Porsche engineers was testing the car in hottest, summer conditions on the continent of Africa to make final adjustments before entering production.
The Taycan has passed long distance testing, particularly to prove the durability of its battery under different climate conditions traveling through more than 30 countries with temperatures ranging from -35o to 50o C as well as from below 85 meters to 3,000 meters above sea level under the scrutiny of a development team made of up test drivers, technicians and engineers team numbering over 1,000 persons.
“After testing simulation models on a computer and in a lab, we have reached the stage of our final tests under actual conditions before we officially unveil the Porsche Taycan. We have invested all our energy and efforts into testing this car over more than six million kilometres around the world and, now, everyone of us is satisfied with the results of this preparation to start final production in the near future,” said Stefan Weckbach, Vice Chairman for Production.
The production of the Porsche Taycan electric car must pass the same kind of stringent tests that any of Porsche’s combustion powered car models must. Compromise was not an option. Porsche requires that every car must be capable of offering the finest performance that will satisfy every demand for daily use with no limitations because of climate. Every function must be optimal, for example, easy battery charging and thermostatic temperature control for its transmission power package and interior air conditioning as well as capability to perform in any climate. This is a requirement for every Porsche automobile.
In addition to battery efficiency for this electric powered sport car, the efficiency of the electric circuitry must ensure fast and smooth acceleration together with an effective range of travel when compared to the time it takes to charge the battery. This is the aim of Porsche to attain success as they take the final curve in development.
The Porsche Taycan offers exciting power and speed, reaching 100 kl/hr in less than 3.5 seconds together with a range of over 500 km (according to NEDC test standards). With its advanced aerodynamic motoring design, its 800 V electric power and rechargeable lithium-ion battery, it takes just four minutes to recharge enough to cover a distance of 100 kilometres (according to NEDC test standards).
The Porsche Taycan will be unveiled to the public this September and be sold around the world by the end of 2019. Already, 20,000 customers have made their down payments to reserve their order. You can be the next to join this special group.
