Lamborghini delivers a supercar that is more suited to everyday life.
Words: Jatuwat Srichan | English Translation: Luxuo Thailand
Photos: Courtesy of Lamborghini Thailand
Manufacturers have long kept us on our seats with the technological innovations and competitiveness of the supercar industry. Along with engine, speed and luxury, a new element is fast becoming a much sought after requirement for buyers. It’s always been understood that supercars are beautiful, expensive and luxurious vehicles that are more for show than driving. They would usually be put on display and driven a handful of times. Today however, the word “supercar” is edging towards a high-performance vehicle that can be driven every day. This means that competition between manufacturers and brands have brought on more innovation to technology, making supercars more fun, easy and (most importantly) safer to drive daily.
The Lamborghini Huracán EVO is a tangible response to the need for this type of vehicle.
THIS IS EVOLUTION
Lamborghini Huracán EVO uses the V10 engine attached to the Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata (LDVI), which is a highly intelligent system that processes the driver’s needs while behind the wheel. This controls the performance of the engine, steering, suspension and brakes systems of the car including the 4-wheel drive system and rear wheel turn for quicker response. In turn, driving is easier to control, and more fun. The President of Automobili Lamborghini in Asia Pacific sums it up with, “The Huracán EVO is the true definition of the word evolution.”
While the global supercar market is constantly growing, Lamborghini Huracán EVO is considered a super sports car packed with technology and with good looks to match. The idea of the car responds to today’s lifestyle, and Lamborghini is convinced that this is a car you can drive to work, and continue on to taking your significant other on a dinner-date without having to switch to another vehicle.
The Lamborghini Huracán EVO comes with a 5.2-liter V10 Naturally-aspirated engine for 640 horsepower at 8,000 rev/min, Maximum torque of 600 Nm at 6,500 rev/min, 1,422 kg with a weight ratio of 2.22 kg per horsepower. This allows for acceleration from 0-100 kilometers per hour in just 2.9 seconds and from 0-200 km/h within 9 seconds with a top speed of more than 325 kilometers per hour.
Although those numbers seem a bit extreme for everyday life (unless your day is extremely hectic), this model does come with a Torque Vectoring System that allows users to control vehicle speed in all conditions. In addition the Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata (LDVI) is an extremely intelligent system that can process the needs of the driver in advance, offering great control of various system functions to enhance the driving experience in a safe manner.
In addition, there is a Lamborghini Piattaforma Inerziale (LPI) a system to evaluate speed and stabilise the balance of the car. This has been improved to version 2.0 to allowing the dynamic control of the car to be more accurate. The new Lamborghini Dynamic Steering (LDS) system, allowing better control of the vehicle’s balance, especially when cornering. This along with the rear-wheel steering system allows for unrivaled car control.
The last important aspects for any supercar to fit into everyday life is inevitably the aspect of technological entertainment. The Lamborghini Huracán EVO has an infotainment system with a 8.4-inch touch screen monitor in the centre console. Everything can be controlled at the touch of your fingertips, including adjustments of car seats, air conditioning and the LDVI system. The car can also connect to Apple CarPlay, Web Radio and includes a Video Player. Finally there are voice command functions via Siri, dual cameras on the touch screen, Telemetry Recording and Analysis and a large capacity hard disk.
Prices start at THB 24,590,000.
Lamborghini Huracán EVO เร็ว แรง ใช้งานได้จริง นี่แหละความสมบูรณ์แบบ
Words: Jatuwat Srichan
Photos: Courtesy of Lamborghini Thailand
ความหวือหวาและน่าตื่นตาของการแข่งขันทางธุรกิจวงการรถซูเปอร์คาร์ในปัจจุบันนั้น ไม่ได้มีแต่เรื่องของเครื่องยนต์ ความเร็ว และความหรูหราอีกต่อไป เพราะโจทย์ใหม่ที่โลกใบนี้ได้มอบให้กับแบรนด์ผู้ผลิตจากสาเหตุที่พฤติกรรมมนุษย์เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นิยามใหม่ของรถรถซูเปอร์คาร์จากที่ครั้งหนึ่งเคยเข้าใจว่ามันคือรถที่สวยงาม หรูหรา แรง ราคาแพง และเป็นรถประเภทที่เจ้าของผู้ครอบครอง นานๆ จะเอาออกมาขับกินลมสักที แต่คำว่าซูเปอร์คาร์ในปัจจุบันนี้กลับกลายเป็นรถสมรรถนะสูงที่สามารถขับใช้งานได้ ‘ทุกวัน’ ซึ่งหมายถึงว่าการแข่งขันระหว่างแบรนด์ผู้ผลิตด้วยกันจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่จะเข้ามาช่วยทำให้การขับขี่รถซูเปอร์คาร์นั้นสนุกขึ้น ง่ายขึ้น ที่สำคัญคือปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ซึ่ง “Lamborghini Huracán EVO” (ลัมโบร์กินี ฮูราแคน อีโว) คือหนึ่งในรถซูเปอร์คาร์ที่ตอบโจทย์นี้ให้กับโลกใหม่ของเทคโนโลยียนตรกรรมเพื่อชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบคันหนึ่งของโลกเลยทีเดียว
THIS IS EVOLUTION
ฮูราแคน อีโว ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ดีไซน์สปอร์ตใหม่จากลัมโบร์กินี ใช้เครื่องยนต์ V10 ที่ติดมากับเทคโนโลยี Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata (LDVI) ซึ่งถือเป็นครั้งของค่ายกระทิงดุจากอิตาลีที่ใช้ระบบสมองกลอัจฉริยะที่ประมวลผลความต้องการล่วงหน้าของผู้ขับขี่จากการใช้งานตัวรถตามโหมดการขับขี่ จากนั้นจึงสั่งการควบคุมประสิทธิภาพการทำงานระบบต่างๆ ของตัวรถ เช่น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบเลี้ยวล้อหลัง เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็ว ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างสมบูรณ์ขึ้น สนุกขึ้น แถมยังปรับในส่วนดีไซน์ของประสิทธิภาพหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 5 เท่า ถึงขนาดที่ว่าประธานกรรมการบริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินีกล่าวออกมาด้วยตัวเองว่า “ฮูราแคน อีโว คือคำจำกัดความของคำว่า ‘วิวัฒนาการ’ อย่างแท้จริง”
ในขณะที่ตลาดรถยนต์ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ลัมโบร์กินี ฮูราแคน อีโว ก็นับได้ว่าเป็นซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่จะเพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่ของผู้ครอบครองมากยิ่งขึ้น ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ครบในทุกมิติมากขึ้น ลัมโบร์กินีมั่นใจว่าเจ้า ฮูราแคน อีโว นี่แหละคือซูเปอร์สปอร์คาร์ที่คุณสามารถขับไปทำงาน ไปออกกำลัง ต่อด้วยการพาคนที่คุณรักไปทานดินเนอร์มื้อค่ำ โดยไม่ต้องกลับบ้านไปสลับใช้รถคันอื่นให้เข้ากับสถานการณ์เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ลัมโบร์กินี ฮูราแคน อีโว ใหม่ติดตั้งเครื่องยนต์ V10 Naturally-aspirated ขนาด 5.2 ลิตร ให้กำลังสูงถึง 640 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที ด้วยน้ำหนักตัวรถเพียง 1,422 กิโลกรัม มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังที่ 2.22 กิโลกรัมต่อแรงม้า ช่วยให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 2.9 วินาทีและจาก 0-200 กม./ชม. ภายใน 9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ถึงแม้ข้อมูลตัวเลขทางความแรงจะดูไม่ค่อยเป็นมิตรกับชีวิตประจำวันสักเท่าไหร่ (นอกเสียจากว่าวันของคุณเร่งรีบมาก) แต่ในขณะเดียวกันในโมเดลนี้ก็ได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบ Torque Vectoring System ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมความเร็วรถได้ในทุกสภาพถนน รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ที่น่าภูมิใจของลัมโบร์กินีอย่าง Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata (LDVI) ระบบสมองกลอัจฉริยะที่ประมวลผลความต้องการล่วงหน้าของผู้ขับขี่จากการใช้งานตัวรถตามโหมดการขับขี่ ด้วยการสั่งการควบคุมประสิทธิภาพการทำงานระบบต่างๆ ของตัวรถ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การขับขี่บนความปลอดภัยที่เหนือชั้นเหนือระดับขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ก็ยังมีระบบ Lamborghini Piattaforma Inerziale (LPI) การประเมินความเร็วและรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถ โดยมีการพัฒนาประสิทธิภาพให้เหนือชั้นในเวอร์ชั่น 2.0 เพื่อทำหน้าที่ควบคุมไดนามิกของตัวรถให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการยึดเกาะถนนที่ดีแม้ตอนเข้าโค้งด้วยระบบ Lamborghini Dynamic Steering (LDS) ใหม่ ทำให้สามารถควบคุมสมดุลตัวรถได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับติดตั้งระบบเลี้ยวล้อหลัง Rear-Wheel Steering เพื่อสร้างการควบคุมที่มีประสิทธิภาพอย่างสูงสุดอีกด้วย
เรื่องสุดท้ายที่ขาดไม่ได้สำหรับหรับซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่จะเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันคงหนีไม่พ้นเรื่องของเทคโนโลยีเพื่อความบันเทิงที่ครบครัน ด้วยฟังก์ชั่นใหม่ของระบบ Infotainment ฮูราแคน อีโว จึงมากับจอทัชสกรีนขนาด 8.4 นิ้ว ที่บริเวณคอนโซลกลาง สามารถควบคุมการสั่งการได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว รวมไปถึงการปรับเบาะนั่งรถยนต์ ปรับแอร์ หรือควบคุมระบบ LDVI system แบบเรียลไทม์ โดยสามารถรองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay รวมไปถึง Web Radio, Video Player และการสั่งงานด้วยคำสั่งเสียงผ่าน Siri, กล้องคู่บนจอทัชสกรีน, Telemetry Recording and Analysis และยังมี Hard Disk ความจุขนาดใหญ่ยักษ์ติดตั้งมาให้อีกด้วย
ราคาเริ่มต้นที่ 24,590,000 บาทเท่านั้นเองครับ
