ทำความรู้จักนักแข่งรถแรลลี่สาว เคที่ มันนิ่งส์ และ Extreme E การแข่งขันออฟโร๊ดด้วยรถเอสยูวีไฟฟ้าที่ไม่มีเส้นแบ่งกันระหว่างหญิงชาย
บทความ: ลภีพันธ์ โชติจินดา ภาพ: Extreme E (ยกเว้นภาพที่ระบุเครดิต Zenith)
Extreme E คือการแข่งขันรถออฟโร๊ดระดับนานาชาติที่หฤโหดที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อเมื่อปลายปี ค.ศ. 2018 โดยผู้ก่อตั้งการแข่งขัน Formula E ชื่อ อาเลฮานโดร อากัก ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและสภาวะโลกร้อน ผ่านการแข่งขันรถออฟโร๊ดด้วยรถเอสยูวีไฟฟ้า Odyssey 21 ในสนามแข่งซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกล และเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาวะโลกร้อนที่เลือกมาโดยคณะกรรมการที่ประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ต่างๆ
พื้นที่ที่จัดการแข่งขัน Extreme E นั้นจะเป็นสนามแข่งแบบเส้นทางธรรมชาติ มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นขั้วโลกเหนือ ทะเลทราย ป่าอเมซอน และชายฝั่งทะเล ที่ผ่านมามีด้วยกัน 5 สนามแข่งได้แก่ อัลอูลา ประเทศซาอุดิอาระเบีย ดาการ์ ประเทศเซเนกัล คังเกอร์ลุสสวก ประเทศกรีนแลนด์ ซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี และดอร์เซต ประเทศอังกฤษ และผู้จัดการแข่งขัน Extreme E ยังมีกิจกรรมที่เรียกว่า Legacy Projects ในแต่ละพื้นที่ที่เข้าแข่งขันเพื่อไปช่วยเหลือหลากหลายหน่วยงานในเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนด้วย
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของการแข่งขัน Extreme E ก็คือข้อกำหนดที่ทีมที่เข้าแข่งขันจะต้องประกอบไปด้วยนักแข่งรถชายและหญิง ไม่มีการแบ่งประเภทการแข่งขันตามเพศ ทุกคนมีความเท่าเทียมกันในสนามแข่งขันรายการนี้ ซึ่งเป็นการแข่งขันรายการแรกที่เปิดเวทีให้กับผู้หญิงและสนับสนุนเรื่องความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ นับเป็นการปูทางและประตูบานสำคัญสำหรับผู้หญิงรุ่นใหม่ที่สนใจและต้องการเข้าสู่สนามการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่างแท้จริง ซึ่งหนึ่งในผู้สนับสนุนและพันธมิตรที่สำคัญก็คือแบรนด์นาฬิกา Zenith ที่มีแนวความคิดและความชัดเจนทั้งในเรื่องความยั่งยืนและความเสมอภาคระหว่างเพศ และ Zenith ยังเป็นผู้จับเวลาในการแข่งขัน Extreme E อย่างเป็นทางการอีกด้วย
โดยเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา Zenith ได้ถือฤกษ์เดือนตุลาคมซึ่งเป็นเดือนสำคัญแห่งการรณรงค์ต่อต้านมะเร็งเต้านมจัดงาน Meet The Dreamhers ที่ประเทศสิงคโปร์เพื่อให้สื่อมวลชนพบปะกับเหล่าสมาชิกในแคมเปญ Dreamhers ซึ่งเป็นแคมเปญที่เน้นสร้างพลังบวกให้แก่ผู้หญิง โดยเป็นการเปิดเวทีให้ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในสาขาวิชาชีพต่างๆ ได้มีโอกาสแบ่งปันประสบการณ์การก้าวข้ามอุปสรรคของความไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศ รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ฟังทุกคนได้มีพลังสำหรับการก้าวไปสู่ความสำเร็จของตน และหนึ่งในสมาชิกใหม่ที่ Luxuo/World of Watches Thailand มีโอกาสได้รู้จักในงานนี้ก็คือ เคที่ มันนิ่งส์ นักแข่งรถ Extreme E สาวชาวอังกฤษวัย 24 ปีนั่นเอง
เคที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นผู้ฝึกสอนขับรถแรลลี่และคลุกคลีกับกีฬามอเตอร์สปอร์ตมาตั้งแต่เล็ก ดังนั้นความเร็วและเส้นทางวิบากจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเธอ ด้วยความรักในกีฬามอเตอร์สปอร์ตบวกกับพรสวรรค์ที่มีทำให้เธอได้ชัยชนะในการแข่งขัน FIA Ladies European Rally Championship ในปี ค.ศ. 2016 ด้วยวัยเพียง 18 ปี และนั่นยังเป็นครั้งแรกที่มีนักแข่งรถแรลลี่หญิงชาวอังกฤษชนะในรายการแข่งขัน European Rally ในรอบ 49 ปีอีกด้วย
เธอเล่าให้เราฟังว่าเธอมีโอกาสได้เข้าร่วมแข่งขัน Extreme E โดยการชักชวนจากผู้จัด ซึ่งตัวเธอนั้นก็มีใจรักในกีฬามอเตอร์สปอร์ตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเมื่อเห็นว่า Extreme E จะมีส่วนในการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน และตัวเธอนั้นจะได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม Legacy Projects เธอจึงตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันนี้โดยตัวเธอนั้นอยู่ภายใต้สังกัดทีม Andretti United และมี ทิมมี่ แฮนเซ่น นักแข่งรถชาวสวีเดนเป็นเพื่อนร่วมทีม
ความกล้าหาญและความมั่นใจคือสิ่งสำคัญสำหรับเคที่เมื่ออยู่ในการแข่งขัน เพราะว่าคู่แข่งของเธอหลายคนเป็นนักแข่งในระดับตำนานอย่างเช่นเซบาสเตียน โลบ และอีกหลายๆ คนที่เหมือนเป็นฮีโร่ของเธอ แต่เมื่อต้องมาแข่งกันก็แน่นอนว่าเธอจะต้องสู้เต็มที่ไม่ว่าคู่แข่งจะเป็นชายหรือหญิงหรือว่าประสบความสำเร็จมามากน้อยเพียงใด ดังนั้นการมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการแข่งขันและความเชื่อมั่นในตัวเองจึงปัจจัยที่เธอขาดไม่ได้ในทุกสนามแข่ง
แม้กระนั้นความกลัวก็อาจจะเข้ามาทักทายเธอเป็นครั้งคราว เพราะสนามแข่ง Extreme E มีสภาพภูมิประเทศที่เป็นธรรมชาติ อาจจะมีหลุมบ่อหรืออะไรที่ไม่คาดคิดอยู่บ้าง และตัวเธอก็เคยประสบอุบัติเหตุมาแล้วด้วย แต่เคที่เอาชนะความกลัวได้ด้วยการพูดคุยและวิเคราะห์ถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับทีม เพื่อให้มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและเพื่อความพร้อมในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ เธอจึงคิดว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเธอ นอกจากนี้การมีเพื่อนร่วมทีมที่ดีที่เธอสามารถสื่อสารด้วยง่ายก็ช่วยคลายความกังวลไปได้มากเพราะมันทำให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้แข่งขันเพียงลำพัง แต่มีทีมที่คอยช่วยดูแลเธออยู่
เป้าหมายในอนาคตของเคที่ ในระยะสั้นก็คงเป็นการได้ชัยชนะในการแข่งขันต่างๆ แต่ในระยะยาวแล้ว เธอหวังว่ากีฬามอเตอร์สปอร์ตจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงเข้าถึงได้ง่ายยิ่งกว่าในปัจจุบันนี้ เธอได้กล่าวในการเสวนาบนเวที Meet The Dreamhers ว่าเหตุผลหลักๆ ที่เราไม่ค่อยจะเห็นผู้หญิงในกีฬาความเร็วก็เพราะว่าไม่มีนักกีฬาหญิงที่จะมาเป็นต้นแบบในด้านนี้มากพอ และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือต้นทุนในการฝึกซ้อมแต่ละครั้งซึ่งสูงมาก
เมื่อเคที่ได้รู้จักกับ Zenith เธอก็พบว่าแบรนด์นาฬิกากับตัวเธอมีจุดที่เหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือการลงมือทำจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสนับสนุนงานการกุศล การรณรงค์เรื่องความยั่งยืนหรือเรื่องความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ หนึ่งในความประทับใจที่เธอเล่าให้ฟังเกี่ยวกับแบรนด์นี้ก็คือว่า Zenith จะมอบนาฬิกาให้กับผู้เข้าแข่งขันที่มีความสามารถโดดเด่นในแต่ละรายการของ Extreme E ครั้งหนึ่งเธอมีโอกาสได้รางวัลเป็นนาฬิการุ่น Defy Midnight หน้าปัดสีน้ำเงินซึ่งเธอชอบมาก และเป็นความบังเอิญที่ในปีนั้นเธอต้องการดีไซน์หมวกกันน็อคของเธอเป็นรูปท้องฟ้าและดวงดาวตามปีเกิดของเธอจึงยิ่งทำให้นาฬิกาเรือนนั้นมีความหมายพิเศษมากสำหรับเธอ
ในส่วนของการเข้าร่วมแคมเปญ Dreamhers กับ Zenith เธอเล่าให้ฟังว่าได้มีโอกาสพูดคุยกับเอสเธอร์ อับบรามี่ นักไวโอลินสาวหนึ่งในสมาชิกใหม่ของแคมเปญ Dreamhers ที่แม้จะมาจากต่างแวดวงโดยสิ้นเชิงคือดนตรีและมอเตอร์สปอร์ต แต่เธอทั้งสองต่างก็ประสบปัญหาเดียวกัน ด้วยความที่อับบรามี่รักในแฟชั่น คนจึงไม่จริงจังกับเธอมากนักในฐานะนักดนตรีทั้งๆ ที่อับบรามี่มีความสามารถมาก ซึ่งเคที่หวังว่าเธอจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับภาพลักษณ์ที่คนมองต่อผู้หญิงในหลากหลายวงการว่าผู้หญิงแต่ละก็สามารถที่จะมีบุคลิกและความชอบส่วนตัวหรืองานอดิเรกที่ไม่จำเป็นต้องสัมพันธ์กับอาชีพของเธอเหล่านั้นก็ได้ แต่ผู้หญิงเหล่านั้นก็มีความเก่งและสามารถที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพที่ตัวเองรักได้ด้วยเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง: Zenith Chronomaster Open Paves Way into the Future
The 24-year-old British lady racer is contributing to gender equality and climate change awareness at the same time.
Words: Lapheepun Chotjinda Photo: Extreme E (unless otherwise credited to Zenith)
Extreme E is a grueling international off-road racing program established in late 2018 by Alejandro Agag, who is also the founder of Formula E, with the purpose of raising awareness of climate change and global warming. The race pitches Odyssey 21 electric SUVs against one another in remote areas deemed as environmentally vulnerable by a committee of scientists.
The courses where Extreme E takes place are different natural terrains such as the North Pole, the desert, the Amazon forest and the coast. The past five Extreme E races were held in Alula, Saudi Arabia; Dakar, Senegal; Kangerlussuaq, Greenland; Sardinia, Italy; and, Dorset, the United Kingdom. A program called Legacy Projects was initiated at each location in order to offer assistance to agencies engaged in the matters of environment and sustainability.
Another unique aspect of Extreme E is the requirement for each team to have one male and one female driver. There is no categorization by gender – everyone is equal in this race series. It is the first racing event to openly embrace women and to promote gender equality. It has paved the way for a new generation of women to enter the arena of motorsport.
Zenith is one of the key sponsors and partners of Extreme E – they also serve as the official timekeeper of the program. The Swiss watch brand shares the same values for sustainability and gender equality. On 12 October, the month of breast cancer awareness, Zenith has hosted an event in Singapore called Meet The Dreamhers in order for the media to meet with campaign members. Dreamhers empowers by giving successful women from various professional fields the platform to share their experience of overcoming obstacles relating gender inequality. The platform inspires and motivates the audience to achieve their own goals.
One of the new members we had the privilege of meeting at this event was Extreme E racer Catie Munnings. The 24-year-old British was born to a family where the father is a rally coach. As such, she was always around motorsport. Speed and difficult terrains are not foreign to her. Her passion for the races and her talent contributed to her winning the 2016 FIA Ladies European Rally Championship at the young age of only 18. It was also the first time in 49 years that a British female racer has won the European Rally.
Munnings shared that she was invited to join Extreme E by the organizer. Seeing how the program aims to tackle the issue of environment and sustainability and how she would be able to take part in Legacy Projects, she decided to participate in the race. Munnings is with Andretti United. Her teammate is Swedish racer Timmy Hansen.
Courage and confidence are crucial to her success when in a race. Many of her competitors are legendary racers such as Sébastien Loeb and others who she considers her heroes. Nevertheless, when it is time to race, she is sure to do her best regardless of her opponents’ gender or previous success. Her unwavering focus and self-confidence is indispensable in every race.
Still, fear crept in occasionally. Extreme E courses are natural terrains with occasional holes and unexpected conditions. Munnings had also been in an accident. To overcome her fear, she discusses possible issues with her team members. This gives her the needed assurance about safety, and the readiness to make decisions. This way, she can be certain that everything is under her control. Besides, having good teammates with whom she can communicate easily also helps alleviate her worries greatly. It reminds her that she is not in the race alone but the team is there to help.
Munning’s short-term goal is to win more races. For the long-term, she hopes that motorsports will become more accessible to women. She mentioned during the Meet The Dreamhers discussion panel that the main reasons why we do not see more female racers are because of lack of role models in this field and the high cost of training.
When she came to know Zenith, she could relate to the “go for it” spirit of the brand when it comes to charity, sustainability and gender equality. At Extreme E, Zenith gives out a watch to a racer with outstanding performance in the race. She was once a winner of a Defy Midnight watch with a blue dial of which she is very fond. It coincided with her wish to decorate her helmet with the pattern of the night sky in the year of her birth so it made the timepiece even more special to her.
Where Zenith’s Dreamhers campaign is concerned, Munnings revealed that she had a chance to speak with young violinist Esther Abrami who is also a new joiner to the Dreamhers campaign. Despite coming from totally different fields, the two have experienced the same issue. Abrami is into fashion so some people did not take her seriously as a musician, regardless of her skills. Munnings hopes that one day she will be able to make a difference in the way people view women in various circles. People need to understand that each woman can have a personality, a personal interest or a hobby that is not related to her profession while excelling and succeeding in their line of work as well.
See also: Zenith Chronomaster Open Paves Way into the Future