สายการบิน United สั่งซื้อเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง Overture จำนวน 15 ลำเพื่อความพร้อมสำหรับอนาคต
บทความ: รักดี โชติจินดา
เครื่องบินแบบซูเปอร์โซนิคคืออากาศยานที่เดินทางได้ที่ระดับความเร็วเหนือเสียง ในอดีตนั้นเครื่องบินที่ทำความเร็วแบบนี้ได้เกือบทั้งหมดจะเป็นเครื่องบินเพื่อการทหารรูปแบบต่างๆ จะมีที่พัฒนาให้เป็นเครื่องบินโดยสารสำหรับพลเรือนโดยเฉพาะก็เพียง 2 รุ่นเท่านั้น ได้แก่ Tupolev TU-144 ของสหภาพโซเวียตซึ่งคนทั่วไปไม่รู้จัก และ Concorde ที่เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งเชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายท่านก็คงจะเกิดทันหรือเคยเห็นรูป เครื่องบินจำพวกนี้สามารถพาผู้โดยสารไปถึงจุดหมายได้เร็วกว่าเครื่องบินปกติเป็นอย่างมาก เรียกว่าใช้เวลาเพียงครึ่งหนึ่งเลยก็ได้ อย่างเช่นการบินจากนิวยอร์คซิตี้ไปยังลอนดอนก็จะใช้เวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น
ตัวผู้เขียนเองเคยมีบุญแค่เข้าไปเดินอยู่ข้างในเครื่อง Concorde ที่จอดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ แต่ไม่มีโอกาสได้ขึ้นบินจริงๆ เพราะว่าเครื่องรุ่นนี้ถูกปลดระวางไปเมื่อปี ค.ศ. 2003 นับจากนั้นมาก็ยังไม่มีเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงเพื่อการใช้งานในเชิงพาณิชย์อีก แต่ก็ไม่แน่นะครับ ผมอาจจะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งความเร็วดังกล่าวพร้อมชมวิวที่ระดับความสูง 60,000 ฟุตในปี ค.ศ. 2029 ก็ได้ถ้าบริษัท Boom Supersonic พัฒนาเครื่องบินชื่อ Overture ได้สำเร็จจริง
Boom Supersonic เป็นบริษัทอเมริกันที่ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2014 ด้วยวัตถุประสงค์ในการพัฒนาเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงเพื่อการใช้งานในเชิงพาณิชย์ซึ่งจะมาปฏิวัติอุตสาหกรรมการเดินทางทางอากาศเสียใหม่ ผลิตภัณฑ์รุ่นแรกคือเครื่องบินชื่อ Overture ที่จะโชว์ลำจริงได้ในปี ค.ศ. 2025 เพื่อขึ้นบินครั้งแรกในปี ค.ศ. 2026 และพร้อมให้บริการผู้โดยสารจริงในปี ค.ศ. 2029
โครงสร้างของ Overture ผลิตด้วยวัสดุคาร์บอนคอมโพสิทชั้นสูงที่มีความเสถียรต่ออุณหภูมิ รูปทรงดูแล้วเป็นไปตามหลักการเดียวกันกับเครื่องบินโดยสารระดับซูเปอร์โซนิกที่พูดถึงก่อนหน้าทั้งสอง กล่าวคือ มีลำตัวผอมบางและมีปีกทรงสามเหลี่ยมลู่หลัง ที่แตกต่างคือเรื่องของที่นั่งและจำนวนผู้โดยสาร เพราะอย่าง Concorde แต่เดิมนั้นมีการจัดที่นั่งแบบแถวละ 4 ตัว ลำหนึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 120 คน แต่ Overture มีที่นั่งเพียงแถวละ 2 ตัว คือ ซ้ายและขวาข้างละตัวเลย แต่ก็จะเป็นเก้าอี้สไตล์ใหญ่หน่อย มีที่ส่วนตัวประมาณหนึ่ง มีจอมีทุกอย่างตามสไตล์สมัยใหม่ ทั้งลำจึงรับผู้โดยสารได้เพียงแค่ 88 คนเท่านั้น และอีกรายละเอียดหนึ่งที่แตกต่างจาก Concorde เป็นอย่างมากก็คือหน้าต่างที่จากภาพเรนเดอร์ดูแล้วต้องใหญ่กว่าอย่างน้อย 4 เท่า แบบนี้จะต้องดูวิวมุมสูงระดับโลกโค้งได้อย่างเต็มตาแน่ๆ
ที่น่าทึ่งยิ่งไปกว่านั้นก็คือเรื่องของความยั่งยืนและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะว่า Boom พัฒนาให้ Overture ลำนี้เป็นเครื่องบินรักษ์โลกตั้งแต่แรกเริ่มโครงการกันเลยทีเดียว โดยเครื่องยนต์ Rolls-Royce ที่เลือกใช้นั้นจะทำงานด้วยเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ยั่งยืน 100% และจะก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียงน้อยกว่าเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงในสมัยก่อนด้วย
ขณะนี้สายการบิน United เป็นสายการบินแรกที่ตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น Overture นี้แล้วจำนวน 15 ลำ โดยมีข้อมูลจาก Boom ระบุว่า United อาจซื้อเพิ่มอีก 35 ลำในภายหลัง และมีอีกสายการบินหนึ่งคือ Japan Airlines ที่จอง Overture ไว้แล้ว 20 ลำ นี่ผมออกตั๋ว BKK-NRT-SFO รอเลยได้ไหมครับ?!
บทความที่เกี่ยวข้อง: Roger Federer Appointed Official Ambassador of Switzerland Tourism
The airline will purchase 15 units of Overture with passenger operation expected by 2029.
Words: Ruckdee Chotjinda
By definition, a supersonic aircraft is one which can travel at a speed faster than that of sound. Several supersonic aircrafts have been developed over the decades but only two of them were intended as civilian airliners: the lesser known Tupolev TU-144 of the Soviet Union and the more famous Concorde of British and French origin. Back in the days, a supersonic flight was roughly twice as fast as a regular flight. It would have transported passengers from New York City to London in just under three hours, for example.
This writer has been inside a Concorde at a museum once but never had the chance to take an actual flight with one because the aircraft was retired in 2003, bringing a close to one very important chapter of commercial aviation. Maybe, just maybe, Boom’s Overture will give me my first supersonic experience, 60,000 feet above the ground, eight or nine years away from now.
Boom Supersonic is an American firm established in 2014 with the goal of redefining commercial air travel through the development of supersonic commercial aircrafts. Their first product, the Overture, is scheduled to roll out in 2025, have its first flight in 2026 and be ready for passenger operation by 2029.
The Overture will have an advanced, thermally-stable carbon composite airframe. It will share the same slim fuselage profile with swept back triangular wings like the two supersonic airliners before it. But unlike the Concorde with its 4-abreast seating for up to 120 passengers, the Overture will have only one (but larger and modernly equipped) seat on each side of the aisle for up to 88 passengers. Rendered images also show very large windows, probably four times the size of those on the Concorde, so the view from the altitude of 60,000 feet should be fantastic.
More importantly, Boom is developing Overture as a greener solution from the beginning. Its Rolls-Royce engines will operate on 100% sustainable aviation fuel and generate less noise than the previous generation of supersonic airliners.
For the time being, United has already committed themselves to the purchase of 15 Overture aircrafts. Boom also indicates that Boom indicates that United may purchase 35 additional units afterwards, and that Japan Airlines has pre-ordered 20 units as well. Why am I thinking BKK-NRT-SFO already?!
See also: Roger Federer Appointed Official Ambassador of Switzerland Tourism
