Truffle Hunting to Enrich Your Gourmet Experience

Share this article

ประสบการณ์การตามล่าหาทรัฟเฟิลจากผืนดินสู่อาหารเลิศรสให้คุณได้ลิ้มลอง
บทความ: ลภีพันธ์ โชติจินดา ภาพเปิด: Shutterstock

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบทรัฟเฟิลเป็นอย่างมากและต้องการยกระดับประสบการณ์การรับประทานทรัฟเฟิลให้ล้ำลึกยิ่งไปกว่าเดิม Luxuo Thailand ขอนำเสนอกิจกรรมตามล่าหาทรัฟเฟิลและรับประทานเมนูเด็ดๆ ที่ปรุงจากทรัฟเฟิลที่เราหามาได้ ซึ่งฤดูกาลของการขุดทรัฟเฟิลนั้นมีเกือบจะตลอดทั้งปีแตกต่างตามภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งโรงแรมหรือฟาร์มทรัฟเฟิลไม่ว่าจะใน อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน อังกฤษ อเมริกา และออสเตรเลีย มีนำเสนอโปรแกรมประสบการณ์การตามล่าหาทรัฟเฟิลด้วยวิธีดั้งเดิมคือโดยสุนัขและรับประทานอาหารที่ปรุงโดยทรัฟเฟิลที่คุณได้มาเตรียมไว้ให้กับแขกที่เข้าพักไว้ด้วย

Luxury dining featured by Luxuo Thailand -- The Luxury Lifestyle Curator
Rosewood Castiglion del Bosco (ภาพ: Rosewood Castiglion del Bosco)
Rosewood Castiglion del Bosco (ภาพ: Rosewood Castiglion del Bosco)

Rosewood Castiglion del Bosco ในเมืองเซียน่า แคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี คือหนึ่งตัวอย่างของโรงแรมระดับห้าดาวที่ไม่เพียงให้บริการที่พักหรูหราท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามเท่านั้น แต่ยังพรั่งพร้อมไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ให้คุณได้เลือกสรรตามความชอบ Tuscany’s Twin Peaks: Truffles & Brunello คือหนึ่งในกิจกรรมที่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟของสองสุดยอดผลิตภัณฑ์จากแคว้นทัสคานีซึ่งก็คือทรัฟเฟิลและไวน์ คุณจะได้เรียนรู้วิธีการระบุชนิดของต้นไม้ต่างๆ และแหล่งที่อยู่อาศัยที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของทรัฟเฟิล ผจญภัยตามล่าหาแบล็กหรือไวท์ทรัฟเฟิลด้วยสุนัขล่าสัตว์แบบดั้งเดิม จากนั้นรับประทานอาหารกลางวันพร้อมเห็ดทรัฟเฟิลและชิมไวน์ในโรงบ่มไวน์อันล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งในมอนตาลชิโน ซึ่งกิจกรรมนี้มีให้บริการตลอดทั้งปียกเว้นในเดือนพฤษภาคม

Luxury dining featured by Luxuo Thailand -- The Luxury Lifestyle Curator
Truffle Hunting Experience กับ Rosewood Castiglion del Bosco (ภาพ: Rosewood Castiglion del Bosco)
Luxury dining featured by Luxuo Thailand -- The Luxury Lifestyle Curator
(ภาพ: Rosewood Castiglion del Bosco)

ทรัฟเฟิลนับว่าเป็นหนึ่งในวัตถุดิบประกอบอาหารชั้นเลิศที่มีราคาสูงที่สุดในโลกและเป็นที่นิยมชมชอบของเหล่านักชิมทั่วโลกด้วยรสชาติแลละกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทรัฟเฟิลคือเห็ดราชนิดหนึ่งในตระกูลพืชหัว (tuber) ที่กินได้ เกิดจากจุลินทรีย์ที่เติบโตได้ในรากของต้นไม้บางชนิดเท่านั้น อาทิ ต้นโอ๊ค ต้นเกาลัค ต้นฮาเซลนัท และต้นบีช อีกทั้งยังต้องอาศัย แร่ธาตุในดิน ความชื้นที่เหมาะสม และระบบนนิเวศน์ที่สมบูรณ์นั่นเอง ทรัฟเฟิลจึงเป็นวัตถุดิบที่เติบโตโดยธรรมชาติล้วนๆ ไม่สามารถคาดเดาผลผลิตได้ และไม่มีอะไรมารับประกันว่าจะพบทรัฟเฟิลที่รากของต้นไม้ที่กล่าวมาข้างต้นทุกต้น นี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมทรัฟเฟิลนั้นถึงมีราคาสูง

ทรัฟเฟิลจะเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่มีความชื้นและคล้ายคลึงกับบริเวณประเทศทางแถบเมดิเตอร์เรเนียน มีฤดูกาลการเก็บเกี่ยวที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจทรัฟเฟิลจากอิตาลี ฝรั่งเศส และสเปนหรือแม้แต่จากประเทศอังกฤษจะเป็นที่ต้องการของเหล่าร้านอาหารชื่อดังมากมายรวมถึงร้านอาหารระดับดาวมิชลินอีกด้วย ในปัจจุบันยังสามารถพบทรัฟเฟิลที่ในแถบประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และจีน ได้ด้วยเช่นกัน

(ภาพ: Shutterstock)

เนื่องจากทรัฟเฟิลนั้นเติบโตจากรากไม้และอยู่ใต้ดิน การเก็บเกี่ยวนั้นจำเป็นต้องอาศัยสัตว์ในการดมกลิ่นเพื่อเสาะหาตำแหน่งของทรัฟเฟิล ในอดีตนิยมใช้หมูในการดมกลิ่นหาทรัฟเฟิลแต่หมูนั้นกินทรัฟเฟิล ภายหลังจึงนิยมหันมาฝึกสุนัขในการค้นหาทรัฟเฟิลแทน เมื่อสุนัขสามารถค้นหาตำแหน่งของทรัฟเฟิลได้ จากนั้นจึงใช้เครื่องมือเล็กๆ หรือมือในการขุดทรัฟเฟิลขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ซึ่ง Unesco ได้ขึ้นบัญชีการหาทรัฟเฟิลแบบดั้งเดิมในอิตาลีให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้เมื่อปี ค.ศ. 2021

ทรัฟเฟิลมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมนั้น ได้แก่ เบียนเก็ทโตทรัฟเฟิล (bianchetto truffles หรือ tuber borchii) ใกล้เคียงกับไวท์ทรัฟเฟิลแต่มีขนาดเล็กกว่า, ซัมเมอร์แบล็กทรัฟเฟิล (summer black truffles หรือ tuber aestivum) เบอร์กันดีทรัฟเฟิล (burgundy truffles หรือ tuber uncinatum) วินเทอร์ทแบล็กทรัฟเฟิล (winter black truffles หรือ tuber melanosporum) และ ไวท์ทรัฟเฟิล (white truffles หรือ tuber magnatum) ซึ่งไวท์ทรัฟเฟิลนั้นมีราคาสูงและหายากกว่าพันธุ์อื่นๆ

Luxury dining featured by Luxuo Thailand -- The Luxury Lifestyle Curator
White truffles หรือ Tuber magnatum (ภาพ: Shutterstock)

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของทรัฟเฟิลคือกลิ่นซึ่งจะลดน้อยลงในทุกๆ วันนับจากวันที่ขุดขึ้นมา ความชื้นในทรัฟเฟิลจะระเหยออกไปทุกๆ วัน ซึ่งก็หมายถึงความสดใหม่ของทรัฟเฟิลจะอยู่ได้โดยเฉลี่ยไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ เมื่อนึกถึงปัจจัยนี้แล้วยิ่งทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่านับจากวันนาทีที่ชาวไร่ขุดทรัฟเฟิลขึ้นมาจนมากลายมาเป็นเมนูอาหารที่อยู่ตรงหน้าเรา ความสดใหม่ของทรัฟเฟิลนั้นหายไปมากขนาดไหน และความร้อนก็เป็นหนึ่งในศัตรูสำคัญของทรัฟเฟิล ดังนั้นจึงนิยมนำทรัฟเฟิลมาสไลด์บางๆ โรยหน้าบนอาหารก่อนเสิร์ฟเพื่อให้ได้รสสัมผัสและกลิ่นที่อัดแน่นมากกว่าการนำไปปรุงให้สุกพร้อมอาหาร

Luxury dining featured by Luxuo Thailand -- The Luxury Lifestyle Curator
(ภาพ: Shutterstock)

บทความที่เกี่ยวข้อง: Three-Michelin-Star Chef Corey Lee to Open “Na Oh” at HMGICS in Singapore

Get Exclusive Connections with LUXUO Thailand
Join us today
Connect!
Close
Join us for exclusive access to Luxuo Thailand's contents and events
Subscribe
close-image