5 โรงแรมวิวภูเขาในเมืองไทย ที่พักท่ามกลางธรรมชาติสุดอลังการ
บทความ: เนตรนภา ปะวะคัง ภาพเปิด: Anantara Golden Triangle Elephant Camp & Resort
เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวในประเทศไทย หลายคนมักนึกถึงการได้ไปเที่ยวพักผ่อนริมทะเลหรือบนเกาะเพื่อชมความงดงามของท้องทะเล หาดทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลสีครามใสที่ทอดยาวไปจนสุดขอบฟ้า แต่ความจริงแล้ว ประเทศไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมายที่รอให้คุณได้เดินทางไปสัมผัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาทิวเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวสลับซับซ้อนจากเหนือจรดใต้ สร้างทัศนียภาพอันงดงามตระการตาไม่แพ้ทะเล ปัจจุบันนี้มีที่พักและรีสอร์ตสุดหรูที่มาพร้อมวิวทิวทัศน์งดงามของภูเขาและผืนป่ามากมาย ซึ่งก็ต่างออกแบบให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนท่ามกลางอ้อมกอดขุนเขาและสายหมอกที่แสนพิเศษให้กับผู้มาเยือน วันนี้เราจึงได้รวบรวมที่พักวิวภูเขาสุดพิเศษมาแนะนำ 5 แห่ง ที่คุณจะได้หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ มาใช้เวลาท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ พร้อมสูดอากาศสดชื่นบนที่สูง นับเป็นการพักผ่อนที่ช่วยเติมพลังให้ทั้งร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมอบประสบการณ์การพักผ่อนอันแสนประทับใจและน่าจดจำ
Anantara Golden Triangle Elephant Camp & Resort จังหวัดเชียงราย
รีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาวที่ตั้งตระหง่านอยู่บนสันเขาบริเวณดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ ในอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย นำเสนอประสบการณ์การพักผ่อนที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือวิวพาโนรามาอันตระการตาของแม่น้ำโขงและทิวเขาที่ทอดยาวสุดสายตา ครอบคลุมพื้นที่ถึงสามประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว และพม่า ห้องพักทุกห้องได้รับการออกแบบให้มีระเบียงส่วนตัวที่สามารถชมวิวทิวทัศน์อันงดงามได้แบบ 180 องศา และหากคุณเลือกเข้าพักที่ Jungle Bubble Suite ห้องพักแบบโดมใส คุณก็จะสามารถนอนชมวิวท้องฟ้าและธรรมชาติได้แบบ 360 องศา และดื่มด่ำกับท้องฟ้าและดวงดาวในยามค่ำคืนได้อย่างเต็มที่
ไฮไลต์ของที่ Anantara Golden Triangle Elephant Camp & Resort เห็นจะเป็นแคมป์ช้างที่คำนึงถึงการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนและได้มาตรฐานระดับโลกซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถใกล้ชิดกับช้างได้โดยไม่ทำร้ายช้าง นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม ทั้งสระว่ายน้ำกลางแจ้งวิวภูเขา สปาหรู และร้านอาหารที่นำเสนออาหารไทยและนานาชาติรสเลิศ โดยเชฟมืออาชีพที่พร้อมปรุงอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพเยี่ยม รวมถึงยังมีกิจกรรมการพักผ่อนมากมายที่เติมเต็มการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Torsang Heritage Khongjiam จังหวัดอุบลราชธานี
รีสอร์ตสไตล์บูติกที่ซ่อนตัวอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี โดดเด่นด้วยการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานความร่วมสมัยเข้ากับความเป็นท้องถิ่นและธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน การตกแต่งภายในใช้วัสดุธรรมชาติและงานหัตถกรรมท้องถิ่นเป็นหลัก สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง จุดเด่นของที่พักแห่งนี้คือวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขง โดยเฉพาะในบริเวณหน้ารีสอร์ตที่เรียกว่าเป็นแม่น้ำสองสีที่เกิดจากการบรรจบกันของแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงซึ่งหาชมไม่ได้ง่ายๆ รวมถึงวิวภูเขาฝั่งลาวที่สวยงามตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในยามเช้าที่สายหมอกลอยละล่องเหนือผิวน้ำ และยามเย็นที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ห้องพักได้รับการออกแบบให้มีหน้าต่างบานใหญ่เพื่อให้แขกได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันงดงาม พร้อมระเบียงส่วนตัวที่เหมาะแก่การนั่งจิบกาแฟยามเช้าหรือเครื่องดื่มยามเย็น
Torsang Heritage Khongjiam มีสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ที่ดูเสมือนเชื่อมต่อกับแม่น้ำโขง ร้านอาหารริมน้ำที่เสิร์ฟอาหารพื้นเมืองรสเลิศ และกิจกรรมพายเรือคายัคชมธรรมชาติในยามเย็นที่ไม่ควรพลาด อีกทั้งคุณยังสามารถเดินสำรวจตลาดท้องถิ่นและวัดเก่าแก่ในละแวกใกล้เคียงเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมดั้งเดิมของชุมชนท้องถิ่นได้ด้วย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์เชิงลึกและไม่เหมือนใคร
Sala Khaoyai จังหวัดนครราชสีมา
รีสอร์ตหรูที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวขจีใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลกทางธรรมชาติที่สำคัญของไทย ในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา นำเสนอประสบการณ์การพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวและใกล้ชิดธรรมชาติ ด้วยจำนวนห้องพักและวิลล่าที่มีจำนวนเพียง 12 ห้องเท่านั้น การออกแบบมีและตกแต่งภายในเน้นความเรียบหรู ทันสมัย แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น ใช้วัสดุท้องถิ่นเพื่อให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม โทนสีหลักเป็นสีขาวและสีเบจ เพื่อไม่ให้ชิงความโดดเด่นจากธรรมชาติที่อยู่รายรอบ ห้องพักทุกห้องมาพร้อมระเบียงส่วนตัวที่สามารถเปิดรับวิวภูเขาที่สวยงามและกว้างไกลสุดสายตา ไฮไลต์ของที่นี่คือสระว่ายน้ำส่วนตัวในวิลล่าที่หันหน้าสู่วิวภูเขา ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
Sala Khaoyai มีร้านอาหารที่นำเสนอเมนูฟิวชั่นและไวน์ชั้นดีภายในร้านอาหารและบาร์บนยอดเขาที่คุณสามารถดื่มด่ำอาหารและเครื่องดื่มในมื้อพิเศษ พร้อมชมวิวภูเขาที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาได้ โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย เช่น เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ขี่จักรยานชมวิว และชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า รวมถึงการจัดกิจกรรมพิเศษตามฤดูกาล เช่น การดูนก การถ่ายภาพธรรมชาติ การเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศในพื้นที่
The Soul Resort จังหวัดสระบุรี
รีสอร์ทสไตล์โมเดิร์นบริเวณเขาพระพุทธบาทน้อย อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี สถาปัตยกรรมของที่พักได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติโดยรอบ ใช้เส้นสายที่สง่างามและวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเน้นการใช้กระจกใสขนาดใหญ่เพื่อให้แขกได้สัมผัสกับวิวภูเขาได้จากทุกมุมมอง การออกแบบผสมผสานสไตล์ตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน หลังคาใช้ไม้ซีดาร์สีน้ำตาลเพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบ อย่างอาคารต้อนรับที่นำกลิ่นอายความเป็นจีนในลวดลายและสีสันต่างๆ โดยเฉพาะสีแดงและสีทองซึ่งเป็นสีหลัก มาผสานกับศิลปะสไตล์ฝรั่งเศสอันละเมียดละไม เน้นใช้แถบขาวตัดดำ ตรงกลางอาคารมีแท่นสำหรับวางดอกไม้สไตล์ศิลปะตะวันตกโบราณ เพดานสูงโปร่งประดับด้วยโคมไฟแชนเดอเลียร์สีทองระยิบระยับ ให้ความรู้สึกหรูหรา แต่นุ่มนวล และผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน
ห้องพักทุกห้องของ The Soul Resort ออกแบบอย่างมีสไตล์และเงียบสงบ มาพร้อมวิวภูเขา ผนังเป็นกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับวิวภูเขาได้อย่างเต็มตา ทั้งยังรังสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะเพื่อให้คุณได้อยู่กับตัวเองอย่างเต็มที่ ในห้องพักจึงไม่มีทีวี แต่หากต้องการก็สามารถแจ้งกับทางรีสอร์ตได้ และที่สำคัญคือ มีมุมนั่งสมาธิ เพื่อให้คุณได้สร้างสมดุลให้ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ และได้หลีกหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวันทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง นอกจากนี้ The Soul Resort ยังมีสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ที่ดูเหมือนลอยอยู่ท่ามกลางขุนเขา ร้านอาหารที่เน้นวัตถุดิบออร์แกนิกจากฟาร์มในท้องถิ่น พร้อมเมนูพิเศษที่ปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล ส่วนกิจกรรมก็มีทั้งการชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าท่ามกลางทะเลหมอก โยคะยามเช้า การเวิร์คชอปทำอาหารท้องถิ่น การเดินป่าศึกษาธรรมชาติ การสำรวจธรรมชาติรอบๆ รีสอร์ต การปิกนิกท่ามกลางสวนดอกไม้ที่สวยงาม รวมไปถึงการฝึกสมาธิในห้องสมาธิที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งคุณสามารถขอแนะนำในการฝึกสมาธิจากพนักงานที่ได้รับการฝึกฝนด้านสมาธิและสติมาเป็นอย่างดีได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
PLA2 Villa Srinagarind จังหวัดกาญจนบุรี
วิลล่าลอยน้ำส่วนตัวสุดหรู ณ เขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี โดดเด่นด้วยวิวทะเลสาบสีครามที่ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขาสูงใหญ่ พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนแบบเอ็กซ์คลูซีฟ วิลล่า “ปลาทู” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอิสระและความพลิ้วไหวของปลาตัวผู้และตัวเมียที่ว่ายไปมาอยู่ในเขื่อน โดยมีการนำเอาครีบปลาและท้องปลามาเป็นต้นแบบในการออกแบบ เพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนได้ก้าวเข้าสู่ดินแดนใต้ท้องทะเลที่จำลองประสบการณ์เสมือนอาศัยอยู่ภายในท้องปลา โดยตัวอาคารจะเป็นอาคารแบบแพลอยน้ำดีไซน์โมเดิร์น อิงรูปทรงเรขาคณิต ใช้โทนสีน้ำตาลเป็นสีหลัก เพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบ มีความสวยงามและแปลกตาจนได้รับรางวัลจากเวทีสถาปัตยกรรมและการออกแบบระดับโลก
PLA2 Villa Srinagarind เหมาะอย่างมากสำหรับครอบครัวที่ต้องการสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกัน กลุ่มเพื่อนที่ต้องการใช้เวลาเพื่อสังสรรค์ หรือการจัดงานสำคัญเนื่องในโอกาสพิเศษ เพราะสามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 8 คน ลานไม้ด้านหน้าของบ้านแพเป็นพื้นที่กิจกรรมขนาดกว้างขวาง ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดเล็ก ตาข่ายสำหรับนอนเล่นและนั่งชิลล์ มีเก้าอี้ญี่ปุ่นและโต๊ะเล็กๆ เอาไว้วางอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมดื่มด่ำกับวิวทะเลสาบยามเช้า ด้านหลังเป็นพื้นที่ป่าที่ให้ความเป็นส่วนตัว ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ บริเวณชั้นบนที่เป็นดาดฟ้าของบ้านมีมุมสำหรับแช่อ่างจากุชชี่ให้คุณและคนที่รักสามารถแช่น้ำเพลินๆ พร้อมกับชมธรรมชาติได้ในตัว นอกจากนี้ ภายในวิลล่ายังมีห้องอาหารสำหรับช่วงดินเนอร์และอาหารเช้าที่จะมีบัตเลอร์คอยดูแลคุณตลอดการเข้าพัก อีกทั้งคุณยังสามารถทำกิจกรรมทางน้ำได้มากมาย ทั้งการพายเรือคายัค เจ็ทสกี และการล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง: Red Dot-Winning Camping Essentials