Dusit Thani Kyoto จุดหมายปลายทางสุดลักชัวรี่แห่งใหม่ของนักเดินทางในเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น
บทความ: ลภีพันธ์ โชติจินดา
เครืองโรงแรมหรู Dusit Thani International เดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 1 กันยายนนี้ Dusit Thani Kyoto โรงแรมระดับลักชัวรี่ได้เปิดประตูต้อนรับและให้บริการแก่นักท่องเที่ยวและนักเดินทาง ซึ่ง Dusit Thani Kyoto นี้นับเป็นโรงแรมแห่งที่สองของเครือที่เปิดให้บริการในประเทศญี่ปุ่นต่อจาก Asai Kyoto Shijo ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

Dusit Thani Kyoto แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน ฮังกันจิ มอนเซ็น-มาจิ (Hanganji Monzen-machi) และอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเกียวโตเพียง 850 เมตร นับเป็นทำเลที่ตั้งที่ยอดเยี่ยมที่จะเชื่อมโยงการเดินทางของผู้เข้าพักทั่วเมืองเกียวโตและสู่ภูมิภาคอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่นอย่างราบรื่น และการเดินทางเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมืองเกียวโตอันเคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นก็ทำได้อย่างสะดวกสบาย อาทิ ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Shrine) ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) ซึ่งเป็นย่านถนนโบราณที่ให้บรรยากาศยุคเอโดะโบราณ วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera) ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) และ วัดนิชิ ฮอนกันจิ (Nishi Honganji) ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกที่ได้รับการคุ้มครองโดย UNESCO

ความโดดเด่นและสวยงามของสถาปัตยกรรมของโรงแรมเองนั้นก็ได้รับการออกแบบมาอย่างถี่ถ้วนให้กลมกลืนไปกับเมืองเก่าได้อย่างแนบเนียน โดยภายนอกอาคารเน้นความเรียบหรู ส่วนความงดงามภายในที่พักนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งของสองเมืองหลวงเก่าแก่ ทั้งเกียวโตของญี่ปุ่นและอยุธยาของไทยเรา ห้องพักหลากหลายขนาดทั้ง 147 ห้องได้รับการออกแบบให้ดูเรียบหรูและร่วมสมัย ผู้เข้าพักจะได้ผ่อนคลายในบรรยากาศอันเงียบสงบ และแวดล้อมด้วยความเขียวขจีของพรรณไม้

Dusit Thani Kyoto ยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนสเซ็นเตอร์ที่มีอุปกรณ์ครบครัน สระว่ายน้ำในร่ม และ Devarana Wellness Centre ที่ให้บริการการนวดบำบัดแบบไทยโบราณและแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม รวมถึงทรีทเมนท์เพื่อสุขภาพ กิจกรรม และเป้าหมายในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งยังมีห้องสำหรับจัดประชุม สัมมนาและสถานที่จัดงานซึ่งสามารถรองรับผู้เข้าร่วมงานได้มากถึง 240 คนอีกด้วย

อีกหนึ่งไฮไลท์ของ Dusit Thani Kyoto ที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือห้องอาหารต่างๆ ที่โรงแรมต้องการให้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารในกรุงเกียวโต อาทิ ห้องอาหารแบบเทปปันยากิสูตรพิเศษ โซเชียลคลับ ร้านน้ำชาที่ตกแต่งอย่างหรูหรา และห้องอาหารอายตนะและห้องอาหารกะทิที่ได้สองเชฟชื่อดังจากประเทศไทย เชฟโบ ดวงพร ทรงวิศวะ และ เชฟดีแลน โจนส์ ที่มีความโดดเด่นในด้านปรุงอาหารไทยแบบต้นตำรับจนร้านโบ.ลานของพวกเขาได้รับรางวัลมิชลินสตาร์เป็นเครื่องการันตี และเป็นที่ยอมรับจากบุคคลในวงการอาหารทั่วโลก โดยห้องอาหารอายตนะจะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารรสเลิศที่ไม่เหมือนใครแบบไทยแท้ ส่วนห้องอาหาร กะทิจะนำเสนอขนมไทยทำจากมะพร้าวแบบต่างๆ ซึ่งเชื่อได้ว่าจะเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
ใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นและมีเกียวโตอยู่ในแผนการเดินทางก็สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ที่เว็บไซท์ของโรงแรมโดยตรง เพราะทางโรงแรมมีข้อเสนอพิเศษในช่วงเปิดตัวสำหรับสมาชิก Dusit Gold ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน ศกนี้ ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครสมาชิก Dusit Gold นี้ได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายผ่านทางเว็บไซท์ของโรงแรมเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง: Enter the Lush Green Oasis at Villa Deva Resort and Hotel