A Guide to Jeju Island: South Korea’s Paradise for Luxury Retreats

Share this article

เกาะเชจู ดินแดนสวรรค์แห่งการพักผ่อนระดับพรีเมียมของเกาหลีใต้
บทความ: เนตรนภา ปะวะคัง ภาพ: Shutterstock

เกาะเชจูได้รับการขนานนามว่าเป็น “ฮาวายแห่งเกาหลี” ด้วยภูมิทัศน์อันงดงามที่ผสมผสานภูเขาไฟ ชายหาดทั้งสีดำและสีขาว ท้องทะเลสีครามสดใส และทุ่งหญ้าเขียวขจี ทั้งเกาะแห่งนี้ยังมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดย UNESCO ถึงสามแห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน ถ้ำหินลาวากอมุนโอลึม และจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของเกาะอย่างยอดเขาซองซานอิลจูบง  นอกจากความงดงามทางธรรมชาติแล้ว เกาะเชจูยังเด่นเรื่องวัฒนธรรม อาหาร การเดินทาง รวมถึงที่พัก จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับเหล่าเซเลบริตี้และนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและการบริการระดับพรีเมียม

การเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เกาะเชจูนั้นมีหลากหลายทางเลือก ทั้งแบบที่ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอนในกรุงโซลหรือที่ท่าอากาศยานนานาชาติกิมแฮในเมืองปูซาน และแบบเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาะเชจูเลย โดยมีทั้งสายการบินแห่งชาติอย่าง Korean Air และ Asiana Airlines รวมถึงสายการบินต้นทุนต่ำอย่าง Jeju Air และอีกหลายสายการบินให้บริการ หากต้องการสะดวกสบายระดับพรีเมียมก็สามารถเลือกเดินทางในชั้นธุรกิจหรือเฟิร์สคลาสที่มาพร้อมบริการเลานจ์สนามบินและบริการตรวจคนเข้าเมืองด้วยช่องทางพิเศษ

ภาพ: Korean Air

เมื่อถึงเกาะเชจู คุณสามารถเดินทางบนเกาะได้ด้วยรถบัส ตั้งแต่แอร์พอร์ตลีมูซีนบัสที่ให้บริการจากท่าอากาศยานนานาชาติเชจูไปยังเมืองชอกวีโพทางตอนใต้ของเกาะ ซิตี้บัสที่ให้บริการทั้งแบบระหว่างเมืองและในตัวเมือง และทัวริสต์ ชัทเทิลบัสที่จะวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ บนเกาะ แต่หากคุณรู้สึกว่าการเดินทางด้วยรถบัสอาจจะยุ่งยากไป ก็สามารถใช้บริการรถแท็กซี่ รถเช่าสำหรับผู้ที่มีใบขับขี่สากลที่มีทั้งรถหรู หรือจะเป็นบริการรถลีมูซีนส่วนตัวพร้อมคนขับที่ผ่านการอบรมพิเศษ ก็ช่วยให้คุณสามารถท่องเที่ยวตามสถานที่ที่ต้องการได้สะดวกสบายมากขึ้น

ที่พักบนเกาะเชจูมีให้เลือกหลากหลายระดับ ตั้งแต่โฮสเทลและเกสต์เฮาส์สำหรับนักท่องเที่ยวงบประหยัด ไปจนถึงโรงแรมระดับ 3-4 ดาวที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้แหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหาร สำหรับประสบการณ์ระดับลักชัวรีก็มีโรงแรมที่ให้บริการห้อง Presidential Suite และ Royal Suite มาพร้อมวิวทะเลสุดตระการตาและบริการบัตเลอร์ส่วนตัว รวมถึงโรงแรมที่มีพูลวิลล่าให้คุณได้พักผ่อนพร้อมชมวิวมหาสมุทรในบรรยากาศเป็นส่วนตัวอย่างที่สุด

เกาะเชจูตอบโจทย์การท่องเที่ยวแทบจะทุกรูปแบบ ทั้งสายรักธรรมชาติ ผู้หลงใหลในวัฒนธรรม และฟู้ดเลิฟเวอร์ เริ่มตั้งแต่ภูเขาฮัลลาซานที่ตั้งอยู่ในกลางเกาะเชจู เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของเกาะที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาด คุณสามารถเดินป่าตามเส้นทางมาตรฐานเพื่อชมวิวจากยอดเขาที่สูงที่สุดของเกาหลีใต้ หรือหากต้องการประสบการณ์พิเศษก็สามารถเลือกทัวร์เฮลิคอปเตอร์ชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือจ้างไกด์ส่วนตัวพาปีนเขาได้ ที่นี่ยังมีทั้งชายหาด น้ำตก ถ้ำ เช่น หาดฮัมด็อกที่มียอดเขาซองซานอิลจูบง (ยอดเขาแห่งรุ่งอรุณ) เป็นฉากหลัง หาดอีโฮเทอูกับสัญลักษณ์อย่างประภาคารม้าขาว-แดงซึ่งเป็นจุดเช็กอินยอดนิยม ถ้ำมันจังกุลซึ่งเป็นหนึ่งในถ้ำลาวาที่สภาพสมบูรณ์ที่สุดในโลก น้ำตกจองบังซึ่งเป็นน้ำตกแห่งเดียวในเอเชียที่มีน้ำไหลจากหน้าผาลงสู่ทะเลโดยตรง โดยคุณสามารถเที่ยวเอง เข้าร่วมทัวร์กลุ่มทั่วไป หรือทัวร์ส่วนตัวพร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาที่จะให้ความรู้เชิงลึกก็ได้

สำหรับผู้ที่อยากเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรม สวนส้มเชจูก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจมาก นอกจากการเยี่ยมชมและชิมส้มแบบทั่วไปแล้ว ยังมีบริการไพรเวททัวร์พร้อมเชฟส่วนตัวที่จะสอนทำเมนูพิเศษจากส้มเชจูด้วย หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอึบก็เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการสัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวเกาะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมบ้านหลังคามุงหญ้าแบบโบราณ หรือยกระดับประสบการณ์ด้วยเวิร์คช็อปศิลปะพื้นบ้านส่วนตัวและพิธีชงชาแบบดั้งเดิม อีกประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดก็คือ การเรียนรู้วิธีชีวิตหรือชมการสาธิตการดำน้ำของ “แฮ-นยอ” หญิงดำน้ำแห่งเกาะเชจูที่ดำน้ำลึกโดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ เพื่อเก็บหอย สาหร่ายทะเล และสัตว์ทะเลอื่นๆ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดย UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 2016 นอกจากนี้ คุณยังจะได้เพลิดเพลินกับการสังเกตรูปปั้นหินบะซอลต์ที่เรียกว่า “ทลฮารือบัง” หรือ “คุณปู่หิน” สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเชจูที่ประดับอยู่ตามสถานที่สำคัญทั่วเกาะ ซึ่งก็จะมีใบหน้าอันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป

อาหารบนเกาะเชจูขึ้นชื่อเรื่องความสดใหม่และคุณภาพดี หากได้ไปเยือนเกาะเชจูแล้ว คุณไม่ควรพลาดโอกาสในการลิ้มรสหอยเป๋าฮื้อเชจูทั้งแบบย่างเสิร์ฟพร้อมซอสพิเศษและโจ๊กหอยเป๋าฮื้อ บาร์บีคิวหมูดำเชจูที่เลี้ยงด้วยส้มธรรมชาติ และซาชิมิปลาท้องถิ่นที่จับสดใหม่ทุกวัน ที่ขายในร้านอาหารท้องถิ่นและตลาดอาหารทะเลซอกวีโพ หรือหากยกระดับการรับประทานอาหารของคุณ บนเกาะเชจูก็มีร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์อย่าง Jeju Noodle Culture และ The Islander ที่นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารระดับลักชัวรี นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้บริการไพรเวทไดนิ่งในสวนส้มหรือริมทะเลสำหรับโอกาสพิเศษได้ด้วย

เกาะเชจูเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนอย่างเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่คนนิยมมาเยือนเกาะแห่งนี้กันมากที่สุด คือช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) ต้นฤดูร้อน (ฤดูร้อนเริ่มมิถุนายน) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) เพราะสภาพอากาศเย็นสบาย เอื้ออำนวยต่อการท่องเที่ยว สำหรับการท่องเที่ยวระดับพรีเมียม แนะนำให้จองที่พักและร้านอาหารล่วงหน้า 1-2 เดือน และใช้บริการผู้ช่วยพิเศษของโรงแรมในการจัดการทริป เพื่อจะได้ท่องเที่ยวอย่างสะดวกสบายและลดความกังวล และอย่าลืมเตรียมชุดทางการสำหรับร้านอาหารระดับไฮเอนด์ เพื่อมื้ออาหารสุดพิเศษของคุณด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง: Elevate Your Journey in Japan with Shinkansen’s Most Luxurious GranClass

Get Exclusive Connections with LUXUO Thailand
Join us today
Connect!
Close
Join us for exclusive access to Luxuo Thailand's contents and events
Subscribe
close-image