ภารกิจหลักของ Salmon Eye ในประเทศนอร์เวย์ที่ไม่ใช่เพียงแค่ร้านอาหารระดับลักชัวรีเท่านั้น
บทความ: ลภีพันธ์ โชติจินดา ภาพ: Salmon Eye
เมื่อมอง Salmon Eye สถาปัตยกรรมทรงรีที่ดูเสมือนวัตถุปริศนาในหนังไซไฟที่ลอยเหนือผิวน้ำของ ฮาร์เดนเจอร์ฟยอร์ด (Hardangerfjorden) ในเมืองโรเซนเดล (Rosendal) เทศมณฑลเวสต์แลนด์ (Vestland) ทางฝั่งตะวันตกของประเทศนอร์เวย์ เราคงเดาไม่ออกว่าภายในสถาปัตยกรรมลอยน้ำแห่งนี้จะเป็นหนึ่งในงานศิลปะจัดวางลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่สามารถเดินเข้าชมได้ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร Iris ที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นชั้นเลิศไปพร้อมๆ กับการได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบยั่งยืนของประเทศนอร์เวย์อีกด้วย
Eide Fjordbruk ฟาร์มปลาแซลมอนซึ่งเป็นฟาร์มแห่งแรกของโลกและแห่งเดียวที่ได้รับการรับรองตามมาตราฐาน CarbonNeutral คือ เจ้าของและผู้ริเริ่มโครงการ Salmon Eye แห่งนี้ โดยซอนเดอร์ และ อาร์เลน ไอเด (Sondre and Erlend Eide) ทายาทรุ่นที่สามของ Eide Fjordbruk ต้องการที่จะอุทิศ Salmon Eye นี้เพื่อพ่อของพวกเขาและต้องการให้ Salmon Eye เป็นดั่งสัญลักษณ์ของอาหารทะเลที่ยั่งยืนอีกด้วย
Salmon Eye แห่งนี้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 25 เมตร ภายในแบ่งออกเป็นสี่ชั้นซึ่งชั้นล่างสุดจะอยู่ใต้น้ำ รวมพื้นที่ใช้สอยทั้งสิ้น 1,006 ตารางเมตร ด้านนอกอาคารประกอบไปด้วยสแตนเลส SMO 254 อันเป็นเหล็กกล้าไร้สนิมที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในน้ำทะเลจำนวน 9,250 แผ่น ทำให้อาคารทั้งหลังนี้มีน้ำหนักรวม 1,256 ตัน ภายในจะเป็นร้านอาหารสุดลักชัวรี่ Iris ที่รองรับแขกได้จำนวน 24 ที่นั่งเท่านั้น นำทีมโดยหัวหน้าเชฟ อานิกา แมดเซ่น (Anika Madsen) ซึ่งเชฟอานิกาจะคัดสรรค์และปรุงแต่งเมนูอาหารจากวัตถุดิบที่คนมักจะมองข้าม วัตถุดิบท้องถิ่นทั้งบนบกและในน้ำและตามฤดูกาลเท่านั้น
นอกจากนี้ Salmon Eye ยังเป็นสถานที่ที่คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประมงท้องถิ่นผ่านนิทรรศการย่อมๆ ที่ตื่นตาตื่นใจไปด้วยแสง สี และเสียง ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ Salmon Eye ที่ต้องการจะสื่อสารและสร้างแรงบันดาลใจในการตระหนักรู้และเห็นถึงความสำคัญของมหาสมุทรอันเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของมนุษย์โลก การสร้างแนวทางปฏิบัติความยั่งยืนทางอาหารทะเลเพื่อคนรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อๆ ไปในอนาคต และเพื่อพัฒนา ยกระดับ และสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในอนาคตข้างหน้าด้วยเช่นกัน
หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยวัตถุดิบที่คาดไม่ถึงท่ามกลางบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยผืนน้ำและขุนเขา พร้อมๆ ไปกับการเรียนรู้เรื่องความยั่งยืนของการเพาะสัตว์น้ำกับ Salmon Eye เราแนะนำให้ศึกษารายละเอียดการเข้าชมและการสำรองโต๊ะเพิ่มเติมที่ทางเว็บไซท์ เนื่องจากระบบแสง สี เสียงและประสบการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นกินเวลาและมีเสียงดัง ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับเด็กเล็ก
บทความที่เกี่ยวข้อง: The Art of Mixology Exemplified at Oxalis Bar & Bistro