Stop for lunch at the newest hotel to open in Thonglor, Hotel Nikko Bangkok and familiarise yourself with Japanese hospitality.
Words: Chidsupang Chaiwiroj | English Translation: Angie Thien
Photos: Ekaphop Duangkham and Hotel Nikko Bangkok
When speaking of Japanese philosophies, you might already be familiar with ‘Zen living’ and ‘ikigai’ or the secret of living a long and happy life that has been presented through many recent books. Today, we’ve come to learn about a new philosophy called ‘Omotenashi’ or the philosophy of Japanese hospitality. This is one of the most important aspects of Thonglor’s newest hotel, Nikko Hotel Bangkok.
‘Omotenashi’ comes from the word ‘Omote’ which means the ‘face we wish to present to others’ while ‘Nashi’ means ‘nothing’. When combined, the word ‘Omotenashi’ can be interpreted as service done with a pure heart, with honesty and without pretending. It is believe that this philosophy makes Japanese hotels different from other places.
Hotel Nikko is a well-known large hotel chain that has been long established in Japan. The company is also the owner of The Okura brand, and therefore the newly opened Hotel Nikko Bangkok is considered a sister property to The Okura Prestige Bangkok. The hotel targets Japanese tourists traveling to Thailand in particular, as last year the number of Japanese tourists surpassed one million per year for the first time.
For our visit to Hotel Nikko Bangkok, we decided to try some of the dishes at The Oasis on the 6th floor. This all-day dining restaurant serves international cuisine, including an International Buffet Lunch. We were especially dazzled by the variety of Japanese food that includes the Kaisen Don with unlimited toppings, sushi, rolls, curry rice and Japanese pasta along with many delicious desserts. In addition there is also fresh seafood, Thai and International dishes to choose from.
International Buffet Lunch is priced at THB 700 per person. For more information, visit Hotel Nikko Bangkok.
แวะทานอาหารกลางวันที่โรงแรมใหม่ล่าสุดในซอยทองหล่อ พร้อมทำความรู้จักกับปรัญชาแห่งการต้อนรับแบบญี่ปุ่น
Words: Chidsupang Chaiwiroj Photos: Ekaphop Duangkham and Hotel Nikko Bangkok
ถ้าพูดถึงปรัชญาแบบญี่ปุ่น แน่นอนว่าทุกคนย่อมรู้จัก “การอยู่อย่างเซ็น” ส่วนปรัชญา “อิคิไก” หรือการใช้ชีวิตอย่างยืนยาวและมีความสุขก็เพิ่งได้รับการนำเสนอผ่านหนังสือหลายเล่มเมื่อไม่นานมานี้ แต่วันนี้เราจะพามารู้จักกับปรัชญาใหม่ นั่นคือ “โอโมเตนาชิ” หรือการต้อนรับด้วยมิตรไมตรีตามแบบฉบับของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไอเดียสำคัญที่โรงแรมนิกโก้ กรุงเทพฯ โรงแรมใหม่ล่าสุดในซอยทองหล่อนำเสนอ
“โอโมเตนาชิ” มาจากคำว่า “โอโมเตะ” ที่แปลว่าใบหน้าที่อยากนำเสนอต่อผู้อื่น และ “นาชิ” แปลว่าไม่มี เมื่อมารวมกันแล้ว คำว่า “โอโมเตนาชิ” จึงแปลได้ว่าการบริการด้วยใจบริสุทธิ์โดยปราศจากการปั้นหน้าหรือเสแสร้ง ซึ่งว่ากันว่าปรัชญานี้นี่เองที่ทำให้โรงแรมแบบญี่ปุ่นมีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่นๆ
ส่วนใครยังไม่รู้จักโรงแรมนิกโก้ กรุงเทพฯ ขอเล่าสั้นๆว่าโรงแรมนิกโก้นั้นเป็นเครือโรงแรมใหญ่ที่มีมานานแล้วที่ญี่ปุ่น แต่เพิ่งจะมาเปิดที่กรุงเทพฯเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และด้วยความที่บริษัทที่ญี่ปุ่นนั้นเป็นเจ้าของแบรนด์ ดิ โอกุระ ด้วย นิกโก้ กรุงเทพฯ จึงกลายเป็น sister hotel ของโรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ไปโดยปริยาย โดยคาดว่าการเปิดโรงแรมนิกโก้ท่ีกรุงเทพฯ ในครั้งนี้ พุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปีที่แล้วที่ยอดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นทะลุหนึ่งล้านคนต่อปีเป็นครั้งแรก
มาเยือนนิกโก้ กรุงเทพฯ ทั้งที คราวนี้เราเลยขอลองชิมอาหารที่ The Oasis ที่ชั้น 6 สักหน่อย ห้องอาหารที่ตั้งอยู่ชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำนี้มาพร้อมกับเพดานสูงดูโปร่งสบาย ที่นี่เป็นห้องอาหารแบบออล-เดย์ ไดนิ่ง ที่เสิร์ฟอาหารนานาชาติ International Buffet Lunch ที่นี่จึงมีอาหารให้เลือกละลานตา โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นที่มีให้เลือกหลากหลายกว่าที่อื่น ทั้งข้าวหน้าปลาดิบไคเซนด้งที่เติมได้ไม่อั้น ซูชิและโรลต่างๆ ข้าวแกงกะหรี่ พาสต้าแบบญี่ปุ่น พร้อมขนมหวานมากมาย นอกจากนี้ยังมีซีฟู้ดสดๆ รวมทั้งอาหารไทยและนานาชาติให้เลือกด้วย
International Buffet Lunch ราคา 700 บาทต่อท่าน ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ Hotel Nikko Bangkok
