Meet The Next Generation Royals from Around The World

Share this article

ทำความรู้จัก 5 รัชทายาทรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองจากราชวงศ์ทั่วโลก
บทความ: เนตรนภา ปะวะคัง ภาพเปิด: Ida Bjørvik, The Royal Court of Norway

ราชวงศ์ทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลง เมื่อสมาชิกพระราชวงศ์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะพระองค์ที่ยังอยู่ในวัยเยาว์ กำลังเตรียมเข้ามารับบทบาทสำคัญในอนาคต และเนื่องจากประสูติในยุคดิจิทัล แต่ละพระองค์จึงได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ และต้องปรับตัวให้ทันกับสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังทรงไม่ละทิ้งความมุ่งมั่นในการสืบสานและปรับปรุงบทบาทของราชวงศ์ให้สอดคล้องกับยุคสมัยใหม่ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 5 สมาชิกพระราชวงศ์รุ่นใหม่จากทั่วโลกที่มีภารกิจสำคัญในการนำพาราชวงศ์เข้าสู่อนาคต

เจ้าหญิงไอโกะ โทชิโนะมิยะ แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น
เจ้าหญิงไอโกะ เจ้าหญิงโทชิ แห่งประเทศญี่ปุ่น ประสูติเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ปี ค.ศ. 2001 ทรงเป็นพระราชธิดาเพียงองค์เดียวของสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ แม้จะไม่สามารถสืบราชบัลลังก์ได้ตามกฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่นในปัจจุบัน แต่เจ้าหญิงไอโกะก็ยังคงเป็นที่สนใจของประชาชนและมีบทบาทสำคัญในฐานะสมาชิกราชวงศ์ พระองค์ทรงเจ้าหญิงไอโกะได้รับการศึกษาที่โรงเรียนกาคุชูอิน ซึ่งเป็นโรงเรียนหลวงที่สงวนไว้ให้สมาชิกราชวงศ์ มีชื่อเสียงในด้านการให้การศึกษาที่เข้มข้นและเน้นคุณธรรม นอกจากนี้ เจ้าหญิงไอโกะยังมีความสนพระทัยในด้านวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม รวมถึงการเขียนคัดลายมือและการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้ทรงศึกษาวัฒนธรรมและภาษาต่างประเทศ ทรงใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและทรงสนใจในการเรียนรู้วัฒนธรรมตะวันตก ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้เจ้าหญิงไอโกะทรงเข้าใจและทรงมีมุมมองต่อโลกภายนอกกว้างขึ้น

ในฐานะสมาชิกราชวงศ์ เจ้าหญิงไอโกะทรงมีบทบาทในการเป็นตัวแทนของราชวงศ์ในงานพิธีและกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทรงได้รับการยกย่องในความอ่อนน้อมถ่อมตนและความมีมารยาทซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของราชวงศ์ญี่ปุ่น แม้จะมีความเคร่งครัดในเรื่องวัฒนธรรมและประเพณี แต่เจ้าหญิงไอโกะก็ยังคงเปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ แม้บทบาทของเจ้าหญิงไอโกะในอนาคตอาจไม่ได้เน้นที่การสืบราชบัลลังก์ แต่พระองค์ทรงยังคงเป็นส่วนสำคัญของราชวงศ์ญี่ปุ่นในการส่งเสริมวัฒนธรรมและความเป็นญี่ปุ่นสู่สายตาชาวโลก


เจ้าชายฮุสเซน มกุฎราชกุมารแห่งจอร์แดน
เจ้าชายฮุสเซน บิน อับดุลลาห์ที่ 2 มกุฎราชกุมารแห่งจอร์แดน ประสูติเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1994 เป็นพระราชโอรสองค์โตของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ที่ 2 และสมเด็จพระราชินีรานียะห์แห่งจอร์แดน เจ้าชายฮุสเซนได้รับการแต่งตั้งเป็นมกุฎราชกุมารเมื่อปี ค.ศ. 2009 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญมากในการบริหารราชการและการทูตของประเทศ เจ้าชายฮุสเซนได้รับการศึกษาจากสถานศึกษาชั้นนำทั่วโลก พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติคิงส์อะคาเดมีในจอร์แดน และต่อมาได้ทรงศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ในสหรัฐอเมริกา โดยทรงสำเร็จการศึกษาด้านการต่างประเทศ หลังจากนั้นเจ้าชายยังทรงได้ศึกษาในสถาบันการทหารแซนด์เฮิร์สต์ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นสถานศึกษาชั้นนำด้านการทหาร

ในฐานะมกุฎราชกุมาร เจ้าชายฮุสเซนทรงมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและเปิดกว้างของราชวงศ์จอร์แดนแก่ชาวโลก พระองค์ทรงเป็นผู้สนับสนุนโครงการทางสังคมและการพัฒนาเยาวชนที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการศึกษาและเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประเทศจอร์แดนในอนาคต และทรงมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับเยาวชนและประชาชนของจอร์แดน นอกจากนี้ยังทรงเป็นตัวแทนของจอร์แดนในเวทีระหว่างประเทศ และได้เข้าร่วมประชุมระดับโลกและแสดงสุนทรพจน์ในที่ประชุมสำคัญๆ รวมถึงการประชุมสหประชาชาติ พระองค์ได้ทรงเป็นประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่อายุน้อยที่สุดเมื่อปี ค.ศ. 2015 ขณะทรงมีพระชนมายุได้ 20 พรรษา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเป็นผู้นำและความเข้าใจในประเด็นทางการเมืองและสังคมที่ซับซ้อน


เจ้าหญิงอิงกริด อเล็กซานดรา แห่งนอร์เวย์
เจ้าหญิงอิงกริด อเล็กซานดรา แห่งนอร์เวย์ ประสูติเมื่อวันที่ 21 มกราคม ปี ค.ศ. 2004 ทรงเป็นพระธิดาองค์โตของมกุฎราชกุมารโฮกุนและมกุฎราชกุมารีเมตเต-มาริต เจ้าหญิงอิงกริด โดยทรงเป็นผู้สืบสันตติวงศ์ลำดับที่สองของราชบัลลังก์นอร์เวย์ พระองค์ทรงเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลเช่นเดียวกับสามัญชนทั่วไป ซึ่งถือเป็นพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์แรกที่ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนท้องถิ่น ตามพระประสงค์ของพระบิดาและพระมารดาที่อยากให้พระองค์ได้ใช้ชีวิตในแบบสามัญชนที่สุด จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเอลเวอบัคเกน ในออสโล ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการศึกษาที่เน้นการพัฒนาทักษะทางวิชาการและสังคม อีกทั้งยังทรงเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการศึกษานานาชาติ ทำให้ทรงมีความเข้าใจในวัฒนธรรมที่หลากหลาย นอกจากนี้ เจ้าหญิงอิงกริดยังสนพระทัยในด้านกีฬา โดยเฉพาะการเล่นสกีและการเล่นโยคะ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทรงโปรดปรานและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

เจ้าหญิงอิงกริดทรงเป็นสมาชิกราชวงศ์รุ่นใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งความสนพระทัยด้านนี้ก็ได้รับการถ่ายทอดจากมกุฎราชกุมารฮาอากอน ผู้เป็นพระบิดานั่นเอง อีกทั้งเจ้าหญิงอิงกริด อเล็กซานดรายังทรงมีบทบาทในการเป็นตัวแทนของราชวงศ์นอร์เวย์ในงานพิธีสำคัญและกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมวัฒนธรรมและความเป็นนอร์เวย์ทั้งในและนอกประเทศ ถือเป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองและเป็นความหวังของราชวงศ์นอร์เวย์ในอนาคต

(ภาพ: Ida Bjørvik, The Royal Court of Norway)

เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งบรูไน
เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งบรูไน ประสูติเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ปี ค.ศ. 1991 ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 10 ของสมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดีน วัดเดาละห์และมาเรียม อับดุล อาซิซ อดีตพระมเหสีเจ้าชายอับดุล มาทีน ทรงเป็นหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เรียกได้ว่าทรงเป็นไอดอลในกลุ่มเยาวชนที่มีความสนใจในไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยและใส่ใจสุขภาพ พระองค์ทรงเป็นที่รู้จักในฐานะนักเรียนที่มีความสามารถ ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการเมืองระหว่างประเทศจากวิทยาลัยคิงส์ และทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิชาการระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยลอนดอน ทั้งยังเคยศึกษาด้านการทหารที่สถาบันการทหารแซนด์เฮิร์สต์ ซึ่งเป็นสถาบันเดียวกันกับที่เจ้าชายวิลเลียม มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ และเจ้าชายฮุสเซน มกุฎราชกุมารแห่งจอร์แดนทรงเคยศึกษา อีกทั้งเจ้าชายอับดุล มาทีน ยังทรงเป็นนักกีฬาที่เก่งกาจ โดยเฉพาะกีฬาขี่ม้าและโปโล ซึ่งเป็นกิจกรรมที่พระองค์ทรงได้เข้าร่วมแข่งขันระดับประเทศหลายครั้ง รวมถึงการได้ทรงเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโปโลประเภททีมในซีเกมส์ 2017 ด้วย

ในฐานะสมาชิกราชวงศ์ เจ้าชายอับดุล มาทีน มีบทบาทในการเป็นตัวแทนของบรูไนในงานพิธีและกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญ ทั้งยังทรงมีส่วนร่วมในกิจการสาธารณะอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทรงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนโครงการทางสังคมโดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนและการพัฒนาชุมชน เจ้าชายอับดุล มาทีน ทั้งนี้ เจ้าชายอับดุล มาทีนทรงเป็นสมาชิกราชวงศ์อีกหนึ่งพระองค์ที่รู้จักกันดีว่าทรงโปรดปรานการใช้ชีวิตเช่นสามัญชน และทรงสร้างภาพลักษณ์ที่น่าสนใจให้กับราชวงศ์บรูไนในสายตาของคนรุ่นใหม่ทั่วโลก


เจ้าหญิงเลโอนอร์แห่งอัสตูเรียส
เจ้าหญิงเลโอนอร์แห่งอัสตูเรียส ประสูติเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ปี ค.ศ. 2005 เป็นพระราชธิดาองค์โตของสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลตีเซียแห่งสเปน โดยเป็นผู้สืบสันตติวงศ์ลำดับที่หนึ่งแห่งราชบัลลังก์สเปน ด้วยเหตุนี้ เจ้าหญิงเลโอนอร์จึงได้รับการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้นตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทั้งในด้านการศึกษาและการปลูกฝังคุณธรรมต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับฐานะราชินีแห่งสเปนในอนาคต เจ้าหญิงเลโอนอร์ทรงสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมปลายจากยูดับเบิลยูซี แอตแลนติก คอลเลจ โรงเรียนประจำนานาชาติในสหราชอาณาจักร สถาบันการศึกษาที่มีระบบสอบคัดเลือกสุดโหดและมีระบบการเรียนการสอนที่เข้มข้น ซึ่งนอกจากจะทำให้เจ้าหญิงทรงได้เรียนรู้ในด้านวิชาการ ก็ยังทรงได้พัฒนาด้านภาษาและวัฒนธรรมต่างประเทศด้วย พระองค์ทรงพูดได้ถึง 5 ภาษา ได้แก่ สเปน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, จีน และอาหรับ

ในปี 2018 เจ้าหญิงเลโอนอร์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิ Princesa de Asturias ซึ่งเป็นองค์กรที่ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ และสังคม โดยในปี ค.ศ. 2019 พระทรงทรงกล่าวสุนทรพจน์เป็นครั้งแรกในงานมอบรางวัล Princesa de Asturias ซึ่งก็สร้างความประทับใจให้กับประชาชนและได้รับการยกย่องว่าทรงมีสติปัญญาและความสามารถในการสื่อสารอันยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ความมีมารยาทและความเอื้อเฟื้อของเจ้าหญิงเลโอนอร์ก็ยังได้รับความชื่นชมจากผู้คนทั่วโลกด้วย และในฐานะว่าที่ราชินีแห่งสเปน เจ้าหญิงเลโอนอร์แห่งอัสตูเรียสจึงต้องเข้ารับการฝึกทหารเป็นเวลา 3 ปี เพราะเมื่อขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระราชบิดาพระองค์ก็จะทรงกลายเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพสเปนด้วย ซึ่งพระองค์ก็ได้ทรงเข้าร่วมการฝึกตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

(ภาพ : Shutterstock)

บทความที่เกี่ยวข้อง: Mission Blue Announces Exmouth Gulf and Ningaloo Coast Hope Spot in Partnership with Rolex

Get Exclusive Connections with LUXUO Thailand
Join us today
Connect!
Close
Join us for exclusive access to Luxuo Thailand's contents and events
Subscribe
close-image