Five Countries with The Most Olympic Gold Medals

Share this article

5 อันดับประเทศที่ได้รับเหรียญทองโอลิมปิกมากที่สุดตลอดกาล
บทความ: เนตรนภา ปะวะคัง ภาพเปิด: Shutterstock

อีกหนึ่งการแข่งขันกีฬาระดับโลกที่ทุกคนรอคอยอย่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งในครั้งนี้ ถือเป็นโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 33 หรือที่เรียกว่า โอลิมปิก ปารีส 2024 (Olympic Games Paris 2024) ซึ่งจะจัดในช่วงวันที่ 26 กรกฎาคม – 11 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีนักกีฬากว่า 10,000 คนเข้าร่วมลงชิงชัยเพื่อคว้าเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงจากกีฬาโอลิมปิก ซึ่งนอกจากผู้ชมจะได้สนุกสนานกับการแข่งขันกีฬานานาชนิดแล้ว ก็ยังจะได้ลุ้นด้วยว่าเมื่อจบการแข่งขันประเทศใดจะได้ครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองโอลิมปิก และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนการแข่งขันโอลิมปิกครั้งที่ 33 ในปารีสจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ เรามาทบทวนกันก่อนดีกว่าว่า 5 ลำดับประเทศที่ได้รับเหรียญทองโอลิมปิกมากที่สุดตลอดกาล นั้นมีประเทศใดบ้าง

อันดับที่ 5 ฝรั่งเศส – 272 เหรียญทอง
ประเทศเจ้าภาพโอลิมปิกในปีนี้อย่างฝรั่งเศสคือบ้านเกิดของปีแยร์ เฟรดี บารง เดอ กูแบร์แต็ง บารอนของประเทศฝรั่งเศสผู้ก่อตั้งกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่และคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เจ้าของวลีดัง “The important thing is not to win, but to take part.” ที่แปลว่า “สิ่งสำคัญไม่ใช่การเอาชนะ แต่คือการมีส่วนร่วม” ซึ่งถือว่าอธิบายความเป็นการแข่งขันโอลิมปิกได้อย่างชัดเจน สำหรับการเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกที่ผ่านมา ฝรั่งเศสก็ถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะสามารถคว้าเหรียญทองไปได้ทั้งหมด 272 เหรียญ โดยกีฬาที่ทำเหรียญทองให้แก่ประเทศฝรั่งเศสมากที่สุด ก็คือ กีฬาปั่นจักรยาน และกีฬาฟันดาบ ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ ฝรั่งเศสในฐานะประเทศเจ้าภาพก็ถือว่าจัดเต็มให้กับกีฬาทั้งสองชนิดนี้สุดๆ เพราะเฉพาะกีฬาปั่นจักรยานก็มีเหรียญให้ได้คว้ากันถึง 66 รายการเลยทีเดียว ทั้งนี้ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาวมาแล้วทั้งสิ้น 5 ครั้ง ยังไม่รวม โอลิมปิก ปารีส 2024 ที่กำลังจะมาถึง ถือว่าครองตำแหน่งเจ้าภาพโอลิมปิกบ่อยที่สุดอันดับที่ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา

เท็ดดี้ ไรเนอร์ นักยูโด (ภาพ: Shutterstock)

อันดับที่ 4 สาธารณรัฐประชาชนจีน – 285 เหรียญทอง
สาธารณรัฐประชาชนจีน หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าประเทศจีนเป็นชาติเดียวจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่ติด 1 ใน 5 อันดับเจ้าเหรียญทองโอลิมปิกตลอดกาลจากการคว้าเหรียญทองไปได้ทั้งสิ้น 285 เหรียญ โดยได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรกที่โอลิมปิก ปารีส 1924 ในนามสาธารณรัฐจีน ก่อนจะเปลี่ยนมาเข้าร่วมการแข่งขันในนามสาธารณรัฐประชาชนจีนและสามารถคว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทองประจำการแข่งขันได้ครั้งแรกในโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อนที่เฮลซิงกิ เมื่อปี ค.ศ. 1952 ซึ่งจีนก็มีนักกีฬาทีมชาติฝีมือฉกาจในหลากหลายประเภทกีฬา โดยเฉพาะกระโดดน้ำ, ยกน้ำหนัก, ปิงปอง, ยิมนาสติกสากล และยิงปืน โดยนักกีฬาทีมชาติจีนที่ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้แก่นักกีฬากระโดดน้ำหญิง หวู หมิ่นเซีย เจ้าของฉายา “ราชินีแห่งสปริงบอร์ด 3 เมตร” ผู้ซึ่งสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกไปได้ทั้งสิ้น 5 เหรียญ และคว้าเหรียญเงินและเหรียญทองแดงได้อีกอย่างละ 1 เหรียญ

3 นักว่ายน้ำ : แชด เลอ คลอส (ซ้าย), ซุน หยาง (กลาง), คอเนอร์ ดเวเยอร์ (ขวา)
(ภาพ: Shutterstock)

อันดับที่ 3 สหราชอาณาจักร – 304 เหรียญทอง
สหราชอาณาจักรถือเป็นชาติเดียวที่เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์สมัยใหม่ครบทุกครั้งและเคยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกมาแล้ว 3 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1908, 1948 และ 2012 โดยสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกไปได้ทั้งสิ้น 304 เหรียญทอง และได้ครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองทั้งหมด 4 ครั้ง จากกีฬาโอลิมปิกซ้อนที่เอเธนส์เมื่อปี ค.ศ. 1906, การแข่งขันฟิกเกอร์สเกตหรือสเกตลีลาที่ลอนดอนเมื่อปี ค.ศ. 1908 และ 1920 (ก่อนหน้าที่จะเรียกว่าโอลิมปิกฤดูหนาว) และการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโอลิมปิกที่สตอกโฮล์มเมื่อปี ค.ศ. 1956 ซึ่งจาก 4 ครั้งที่ว่ามานี้ ครั้งที่ถือว่าสหราชอาณาจักรทำผลงานได้ดีที่สุดก็คือในการแข่งขันฟิกเกอร์สเกตหรือสเกตลีลาที่ลอนดอนเมื่อปี ค.ศ. 1908 เพราะสามารถคว้าเหรียญทองไปได้ทั้งสิ้นถึง 56 เหรียญ ซึ่งนักกีฬาเจ้าเหรียญทองโอลิมปิกของทีมสหราชอาณาจักรอันดับที่ 1-3 ล้วนเป็นนักกีฬาปั่นจักรยาน เริ่มจากเจสัน เคนนี ที่คว้าไปได้ 7 เหรียญทอง, คริส ฮอย เจ้าของ 6 เหรียญทอง และแบรดลีย์ วิกกิ้นส์ ที่คว้าไปได้ 5 เหรียญทอง ซึ่งจากสถิตินี้ก็เรียกได้ว่าสหราชอาณาจักรน่าจะเป็นคู่แข่งในกีฬาปั่นจักรยานที่ทำให้ทีมเจ้าภาพร้อนๆ หนาวๆ ไม่น้อย อีกทั้งสหราชอาณาจักรก็ยังมีโอกาสคว้าเหรียญทองจากกีฬาที่เป็นจุดแข็งอย่างสเกเลตันด้วย

แอนดี เมอร์เรย์ นักเทนนิส (ภาพ: Shutterstock)

อันดับที่ 2 เยอรมนี – 351 เหรียญทอง
เยอรมนี ประเทศจากทวีปยุโรปที่ถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุดในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ เพราะสามารถคว้าเหรียญทองได้มากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากสหรัฐอเมริกาด้วยจำนวน 351 เหรียญทอง ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมนีเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกที่จัดขึ้นแทบทุกครั้ง ยกเว้นแค่โอลิมปิกฤดูร้อน แอนต์เวิร์ป 1920 และโอลิมปิกฤดูหนาว ชาโมนิกซ์ 1924 ทั้งยังเคยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกถึง 3 ครั้ง ในปี โอลิมปิกฤดูหนาว เบอร์ลิน 1936, โอลิมปิกร้อน เบอร์ลิน 1936 และโอลิมปิกฤดูร้อน เบอร์ลิน 1972 และถึงแม้เยอรมนีจะประสบเหตุการณ์มากมายที่ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกได้เป็นเวลาหลายสิบปี แต่เมื่อกลับสู่สังเวียนโอลิมปิกก็สามารถทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากจะติดอันดับท็อปไฟว์ประเทศเจ้าเหรียญทองแล้ว อิซาเบล เวิร์ธ นักกีฬาขี่ม้าประเภทศิลปะการบังคับม้าเจ้าของตำแหน่งนักกีฬาเจ้าเหรียญทองโอลิมปิกของเยอรมนีก็ยังติดอันดับที่ 16 ของนักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกมากที่สุดในโลก โดยเธอคว้าไปได้ 7 เหรียญทอง และ 5 เหรียญเงิน สมฉายา “เดอะเดรสสาจ ควีน” หรือราชินีแห่งศิลปะการบังคับม้า

ลอร่า ลุดวิก (ซ้าย), คีร่า วอล์คเคนฮอร์สท์ (ขวา) นักวอลเลย์บอลชายหาด
(ภาพ: Shutterstock)

อันดับที่ 1 สหรัฐอเมริกา – 1,183 เหรียญทอง
ประเทศสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์สมัยใหม่เกือบครบทุกครั้งนับตั้งแต่ครั้งแรกซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศกรีซเมื่อปี ค.ศ. 1896 เว้นเพียงครั้งเดียวคือ โอลิมปิก มอสโก 1980 ที่โซเวียตเป็นเจ้าภาพ และถือเป็นตัวเต็งในการคว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทองมาโดยตลอด ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เพราะสหรัฐอเมริกาคือประเทศที่ได้รับเหรียญทองโอลิมปิกมากที่สุดตลอดกาล โดยคว้าเหรียญทองไปได้ทั้งหมด 1,183 เหรียญ และนักกีฬาที่สามารถคว้าเหรียญทองให้ทีมสหรัฐฯ ได้มากที่สุด ก็คือ ไมเคิล เฟ็ลปส์ นักกีฬาว่ายน้ำที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นหนึ่งในนักกีฬาโอลิมปิกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล โดยเขาได้รับเหรียญทองโอลิมปิกทั้งหมด 23 เหรียญ จากการเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 – 2016 ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนและฤดูหนาวมาแล้วทั้งสิ้น 8 ครั้ง และกำลังจะเป็นเจ้าภาพครั้งที่ 9 ในการแข่งขันโอลิมปิกปี ค.ศ. 2028 ถือเป็นประเทศที่ได้รับตำแหน่งเจ้าภาพโอลิมปิกมากที่สุดในโลก

3 นักยิมนาสติก : วาเนสซา เฟอร์รรี (ซ้าย), ซิโมน ไบลส์ (กลาง), เอลี เรสแมน (ขวา)
(ภาพ: Shutterstock)

เหรียญรางวัลสำหรับปารีส โอลิมปิก  2024 ออกแบบโดย Chaumet แบรนด์จิวเวลรีและนาฬิกาหรูสัญชาติฝรั่งเศส และมีความพิเศษคือ บริเวณตรงกลางของเหรียญด้านหนึ่งจะมีโลหะทรงหกเหลี่ยมที่ได้มาจากการสร้างหอไอเฟลเมื่อปี ค.ศ. 1889 ประกอบอยู่ด้วย ผู้ที่ได้รับเหรียญรางวัลในครั้งนี้จึงเหมือนได้หอไอเฟล สัญลักษณ์สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของฝรั่งเศสกลับไปด้วย เรามาร่วมเป็นกำลังใจในการคว้าเหรียญทองของนักกีฬาไทย พร้อมมาลุ้นกันว่า ประเทศใดจะได้เป็นเหรียญทองในการแข่งขันปารีส โอลิมปิก 2024

(ภาพ: Paris 2024)
(ภาพ: Paris 2024)

บทความที่เกี่ยวข้อง: Omega on the Wrists of Thai Olympic and Paralympic Athletes

Get Exclusive Connections with LUXUO Thailand
Join us today
Connect!
Close
Join us for exclusive access to Luxuo Thailand's contents and events
Subscribe
close-image