นิทรรศการเดี่ยวที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างจินตนาการและความเป็นจริงในมุมมองของ แทน โฆษิตพิพัฒน์
บทความ: ลภีพันธ์ โชติจินดา ภาพ: 333Gallery
งานศิลปะรูปแบบต่างๆ ที่มีให้เราได้ศึกษาพินิจพิเคราะห์กันนั้นมักจะเป็นสิ่งที่ร้อยเรียงและถ่ายทอดมาจาก อารมณ์ ความรู้สึก ประสบการณ์ชีวิต หรือการเดินทางและความเป็นตัวตนของศิลปินแต่ละท่านที่เจ้าตัวนั้นอาจจะไม่ได้แสดงออกให้เราได้เห็นกันจากภายนอก งานแสดงนิทรรศการเดี่ยว Further Than Sigh ของ ณภัส หรือ แทน โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินหนุ่มวัย 30 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งมุมมองที่ตัวศิลปินเองนั้นเผยให้เราได้เห็นอีกด้านหนึ่งของเขาที่เราอาจจะคาดไม่ถึง
แทน โฆษิตพิพัฒน์ ต้องการนำเสนอประสบการณ์และเรื่องราวเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันและโลกใบใหม่ที่เขาก้าวเข้าไปคลุกคลีตลอดระยะเวลากว่าสองปี ไม่ว่าจะเป็นการขี่มอเตอร์ไซค์เพียงลำพังยามค่ำคืนท่องไปในราตรีที่มืดมิดในกรุงเทพฯ และเชียงราย หรือการได้เข้าไปสู่โลกแห่งจินตนาการผ่านเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ ของเขา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่เขาบ่มเพาะมานั้นอาจจะเป็นอีกด้านของเขาที่ผู้คนอาจจะไม่เคยได้เห็นหรือไม่เคยสัมผัสมาก่อน โดยเรื่องราวที่เขานำมาเสนอในนิทรรศการครั้งนี้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพวาดเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสีอะคริลิค เทคนิคถ่านชาโคล และเทคนิคดิจิตอลกว่า 45 ชิ้น และประติมากรรมอีก 5 ชิ้นที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างโลกแห่งจินตนาการและโลกแห่งความเป็นจริงที่เขาเองได้ประสบและประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากโลกแห่งจินตนาการที่เขาเพิ่งค้นพบ ทั้งยังส่งผลให้เกิดการพัฒนาเพื่อก้าวข้ามความคิดแบบเดิมๆ และมีผลต่อมุมมองหลายๆ อย่างของเขาด้วย
แทน โฆษิตพิพัฒน์ กล่าวว่า “ในความเข้าใจของผมคือ อย่างไรก็ตามเราก็ต้องใช้ชีวิตในโลกของความจริงที่จำเจอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถึงแม้ในยามว่างของผมอาจจะชอบการเขียนนวนิยายกับเพื่อนบนโลกออนไลน์ ที่เต็มไปด้วยจินตนาการที่สร้างกันขึ้นมาเองก็ตาม ทุกอย่างก็ยังคงอยู่ในส่วนของจินตนาการ ซึ่งจินตนาการนั้นมันเป็นได้ทั้งศัตรูและเพื่อนของเรา มันบังคับให้เรารู้สึกและรับรู้ในหลายๆด้าน ทั้งความกลัว ความเกลียด และ ความคาดหวัง ล้วนต่างสะท้อนตัวตนที่แท้จริงของเรา จากคนที่เคยวิตกกังวลและเคยมีความเครียด จินตนาการของผมจะคอยคุมชีวิตผมเป็นส่วนใหญ่ ในช่วง Covid-19 ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ผมต้องต่อสู้กับมันอย่างที่สุด จนตัวเองแทบจะยอมแพ้ เพราะผมไม่สามารถเข้าใจมันได้ว่าอะไรจริงหรือไม่จริง หรือหาวิธีที่ผมจะควบคุมมันอย่างไร จนสุดท้ายหลังจากเหตุการณ์หนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตผม ผมได้มีโอกาสพบกับกลุ่มเพื่อนใหม่ๆ ที่เป็นคน Creative และ มีจินตนาการร่วมกัน ทั้งนักวาดภาพ YouTuber นักพากย์เสียง ที่ต่างชื่นชอบในการเขียนนวนิยายและใช้จินตนาการในเชิง Productive ผมจึงได้เรียนรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับตัวเองและวิธีการควบคุมสิ่งที่อยู่ในความคิดที่ทำให้เรากลัวกับทุกสิ่งทุกอย่างมาโดยตลอด จากคนที่ไม่ชอบมีเพื่อน ชอบขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวไปคนเดียวตอนกลางคืนเพื่อหนีความเครียด กลายเป็นคนที่สามารถควบคุมความคิดวิตกกังวลของตน และใช้มันในการทำให้เราเป็นคนที่เข้าใจชีวิตได้ดีกว่าเดิม”
มาร่วมค้นพบความสัมพันธ์ของโลกแห่งจินตนาการและโลกแห่งความจริงของ แทน โฆษิตพิพัฒน์ ผ่านนิทรรศการเดี่ยว Further Than Sight ได้ที่ 333Gallery Warehouse 30 ระหว่างวันที่ 6 – 31 กรกฎาคม ศกนี้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซท์ 333Gallery โดยตรง
บทความที่เกี่ยวข้อง: What We Deserve: The First Solo Exhibition of Bobby Leash in Bangkok