Alessio Minotti on Delivery of Elevated Experience to Today’s Consumers

Share this article

บทบาทของอเลสซิโอ มินอตติ ทายาทรุ่นที่สามแห่ง Minotti ในการตอบโจทย์ลูกค้าผู้มีระดับในยุคปัจจุบัน
บทความ:
ลภีพันธ์ โชติจินดา ภาพ: Minotti

[ English ]

หากจะนิยามวลี “Made in Italy” ว่าหมายถึงงานดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ งานฝีมือช่างที่ประณีตบรรจงและความเรียบหรูไร้กาลเวลาก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะแบรนด์สินค้าหรูระดับโลกจำนวนมากก็เป็นแบรนด์อิตาเลียนซึ่งยึดถือในปรัชญาหรือแนวทางดังกล่าวนี้ และหลายแบรนด์ก็มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นธุรกิจครอบครัวที่สืบทอดกิจการจากรุ่นสู่รุ่นซึ่งรวมถึง Minotti ที่เรากำลังนำเสนออยู่นี้

Minotti แบรนด์เฟอร์นิเจอร์เก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1948 โดย อัลเบอร์โต มินอตติ จากจุดเริ่มต้นที่เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็กก็เติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายมาเป็นแบรนด์ดังที่มีกำลังผลิตระดับอุตสาหกรรม กิจการในปัจจุบันก็บริหารโดยลูกหลานรุ่นที่สองและรุ่นที่สามของตระกูล Luxuo Thailand มีโอกาสได้สัมภาษณ์คุณอเลสซิโอ มินอตติ ทายาทรุ่นที่สามที่เริ่มทำงานกับ Minotti ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 และปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และหัวหน้าฝ่ายจัดซื้อ ซึ่งนับว่ามีบทบาทสำคัญในก้าวต่อๆ ไปของแบรนด์ Minotti ในอนาคต

อเลสซิโอ มินอตติ

คุณคิดว่าอะไรคือจุดแข็งและจุดอ่อนของการเป็นบริษัทที่มีครอบครัวเป็นเจ้าของและดำเนินกิจการเอง
การเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจครอบครัวตามแบบฉบับของเรานั้น รุ่นที่สามทำงานร่วมกับกับรุ่นที่สองอย่างใกล้ชิด พวกเราทำงานสอดประสานกันตลอดโดยมีแนวคิดและแผนการสำหรับอนาคตที่ชัดเจน สำหรับเรา ครอบครัวมีบทบาทสำคัญ ความสามารถในการสืบสานคุณค่าของวงศ์ตระกูลและสืบทอดอาณาจักรทางธุรกิจได้อย่างแนบเนียน เป็นหลักประกันในการรักษาความมีสไตล์และคุณภาพผลิตภัณฑ์ของเรา ในฐานะครอบครัว เราทะยานไปข้างหน้าด้วยใจรักและทุ่มเทเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน และเมื่อเวลาผันผ่านไปเราก็ได้สร้างจิตวิญญาณของแบรนด์ขึ้นมา แน่นอนว่าในแต่ละวันย่อมมีความท้าทายใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่เรามีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะรักษาความเป็นเลิศ ความสร้างสรรค์ และแก่นแท้ในการออกแบบ

ขอบเขตการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในแผนกของคุณคืออะไร
จิตวิญญาณของ Minotti หยั่งรากลึกอยู่ในคุณค่าของการเป็นผลิตภัณฑ์เมดอินอิตาลีที่มีการหลอมรวมประเพณีและนวัตกรรมเข้าด้วยกันจวบจนปัจจุบัน ความรู้ด้านงานฝีมือของอิตาลีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและคอยขับเคลื่อนให้เราเสาะหากระบวนการและวัสดุที่สามารถรับประกันการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นเลิศ การตอบสนองความต้องการของตลาด และไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เราทุ่มเทเพื่อสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์เหนือกาลเวลาให้โลกจดจำ ความใส่ใจในรายละเอียดสะท้อนผ่านผลงานของเราในทุกแง่มุม ทุกขอบเขตและในกิจกรรมทุกๆ ด้าน

ในบริษัทของเรามี Minotti Studio เป็นห้องวิจัยปฏิบัติและจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์ของแบรนด์ สตูดิโอนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1996 เพื่อเชื่อมโยงขั้นตอนต่างๆ ของกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เข้าด้วยกัน จากวัสดุสู่รูปทรง จนถึงการนิยามแนวคิดเบื้องหลังของคอลเลคชั่นในแต่ละปี การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เกิดขึ้นในองค์กรอย่างครบถ้วนด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีทักษะในหลายๆ ด้าน ได้แก่ การออกแบบผลิตภัณฑ์ วิศวกรรม การออกแบบตกแต่งภายใน การออกแบบกราฟิก และการตลาด พวกเขาเหล่านั้นมีความปรารถนาในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเหมือนกัน

Raphael

ช่วยอธิบายข้อแตกต่างของ Minotti ในแง่ของการออกแบบหรือการผลิตเมื่อเทียบกับสินค้าแบรนด์อื่นๆ ที่มีราคาพอกัน และช่วยบอกใบ้ว่าเราจะมองหาอัตลักษณ์ (Minotti Code) ที่ปรากฏอยู่ในผลิตภัณฑ์จากคอลเลคชั่นต่างๆ ของคุณได้อย่างไร
ทุกบริษัทมีอัตลักษณ์ของตัวเอง และอัตลักษณ์ของบริษัทเรานั้นก็ได้แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ยังคงยึดถือรากเหง้าตามต้นกำเนิดเมื่อ 75 ปีก่อน รวมทั้งคุณค่าแห่งสุนทรียภาพ ความงามสง่าเหนือกาลเวลา การสืบสานเอกลักษณ์ทางประเพณี งานฝีมือ และความเอาใจใส่ในรายละเอียด ทั้งนี้ รากเหง้าของเรามีจุดเริ่มต้นในทศวรรษ 1960 ในการพัฒนาสไตล์ร่วมสมัยให้ตอบสนองความต้องการของตลาดมากขึ้น และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราได้ทุ่มเททำงานเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำในระดับสากล สิ่งที่สร้างเอกลักษณ์ให้เราก็คือความสามารถในการนำเสนอ ไม่เพียงแต่ผลิตภัณฑ์ แต่รวมถึงวิธีการตีความพื้นที่และกิจวัตรของการใช้ชีวิตร่วมสมัยในทุกองศา ด้วยเหตุนี้ เมื่อเราสร้างคอลเลคชั่นหนึ่งขึ้นมา เราไม่เคยนึกถึงผลิตภัณฑ์ที่จบในตัวเอง แต่เราให้ความสำคัญกับแง่มุมของการสร้างบริบท เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น รวมถึงสถาปัตยกรรม สามารถปฏิสัมพันธ์กันได้อย่างกลมกลืน นั่นเป็นปรัชญาที่เรายึดถือมาตั้งแต่ต้นและจะสานต่อในอนาคต

ปัจจุบันนี้ผู้บริโภคโดยรวมตระหนักถึงประเด็นความยั่งยืนมากขึ้น เราอยากทราบว่าทาง Minotti กำลังทำอะไรเพื่อรับประกันว่าลูกค้าจะมีความพึงพอใจในเรื่องนี้
ในฐานะบริษัท เราได้บูรณาการประเด็นความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์ของเรามาอย่างยาวนาน เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการทั้งสำหรับปัจจุบันและอนาคต แต่ละคอลเลคชั่นแสดงถึงความเอาใจใส่ในด้านคุณภาพ เริ่มต้นจากความร่วมมือและการเสาะแสวงหาความเป็นเลิศในท้องถิ่นของเรา เรามุ่งเน้นเรื่องงานฝีมือ และเราพัฒนาต่อยอดประเพณีการผลิตเพื่อถ่ายทอดคุณภาพที่สัมผัสได้ ไม่เพียงแต่ในเชิงคุณค่าของสุนทรียศาสตร์ แต่รวมถึงความน่าเชื่อถือและความทนทานของผลิตภัณฑ์ด้วย

ด้วยเหตุนี้ เฟอร์นิเจอร์ของเราจึงผลิตในประเทศอิตาลี ในพื้นที่เขตเบรียนซา ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกับสำนักงานใหญ่และโรงงานผลิต นอกจากจะเป็นการควบคุมคุณภาพได้โดยตรงแล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เราชอบสำรวจวัสดุที่สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ซึ่งสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ ขณะเดียวกันก็เป็นวัสดุที่สามารถรับประกันคุณภาพและมาตรฐานการใช้งานในระดับสูงได้ ตัวอย่างเช่น ผ้าทุกชนิดที่ใช้หุ้มเฟอร์นิเจอร์ของเราถูกผลิตให้มีความกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการเลือกใช้เส้นใยธรรมชาติและเส้นด้ายโพลีโพรพิลีนที่รีไซเคิลได้อย่างสมบูรณ์ ตลอดจนการใช้กรรมวิธีการผลิตที่แสดงความเคารพต่อมนุษย์และระบบนิเวศอันมีค่าของเรา

Textile and Leather Collection

คุณควบคุมดูแลโรงงานผลิตสิ่งทอและเครื่องหนังด้วยตัวเองหรือเปล่า
ผ้าและหนังที่ใช้หุ้มเบาะของเรานั้นได้มาจากบริษัทสิ่งทอและโรงฟอกหนังที่แปรรูปวัตถุดิบตามมาตรฐานด้านจริยธรรมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างครบถ้วนเพื่อเน้นย้ำการใส่ใจความยั่งยืน ในฐานะบริษัท เรารับประกันแก่ผู้บริโภคว่าตั้งแต่เส้นใยไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจะมีการจำกัดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดกระบวนการผลิต ด้วยเหตุนี้เมื่อผ้าและเครื่องหนังเหล่านี้มาถึงที่โรงงานของเรา เราจะใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมที่ช่วยให้เราสามารถผสมผสานการตัดเย็บที่ดีเลิศ ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และลดปริมาณของเสียให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องหนัง ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาเราได้ดำเนินโครงการแรกเพื่อติดตั้งเครื่องตัดหนังอัตโนมัติสองเครื่องที่แหล่งผลิตของเราซึ่งสอดคล้องกับวิธีการสุดล้ำตามแผนอุตสาหกรรม 4.0 ระบบนวัตกรรมเหล่านี้ถูกขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ล้ำยุคที่ช่วยเร่งกระบวนการทั้งหมด ทำให้ขั้นตอนการขึ้นโครงและการตัดเย็บราบรื่นยิ่งขึ้น รับประกันความแม่นยำสูงสุด รวมทั้งปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพการผลิตให้สูงกว่าเดิม ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ Minotti ให้การสนับสนุนต่อไปอย่างเต็มที่

อยากให้คุณขยายความเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอลเลคชั่นสิ่งทอและเครื่องหนังของคุณว่าสามารถทำอะไรให้กับลูกค้าได้บ้าง
คอลเลคชั่นสิ่งทอและเครื่องหนังเป็นการผสมผสานกันระหว่างขนบธรรมเนียมและนวัตกรรม และเป็นจุดอ้างอิงสำหรับการสื่อสารทางด้านสุนทรียภาพและการออกแบบที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องปีแล้วปีเล่า ก่อให้เกิดสไตล์แบบลูกผสมที่ตอบสนองรสนิยมของลูกค้านานาชาติที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น คอลเลคชั่นทั้งหมดเป็นผลลัพธ์ของการวิจัยเชิงลึกและการวิจัยภายในของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ผ้าและเครื่องหนังได้รับการออกแบบและผลิตขึ้นสำหรับแบรนด์โดยเฉพาะ เพื่อปรับปรุงพัฒนาเส้นสายโครงสร้างและผลงานการตัดเย็บเฟอร์นิเจอร์เครื่องหนังของเรา สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นมีอัตลักษณ์ของตัวเอง การใช้หนังชนิดใดชนิดหนึ่งนั้นจะเป็นตัวกำหนดบุคลิกภาพ ความพิเศษและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยเหตุนี้เราจึงเปิดโอกาสให้ลูกค้าและช่างมืออาชีพเลือกเครื่องหนังสำหรับเฟอร์นิเจอร์ทั้งภายในอาคารและกลางแจ้งทั้งหมดในคอลเลคชั่น เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาโครงการออกแบบตกแต่งภายในที่สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ

Dylan

ช่วยอธิบายภาพรวมของผลงานชุด Textile and Leather Collection ในปี 2023 และทำไมคุณถึงเรียก
โปรเจคนี้ว่า “โอตกูตูร์”

ผลงานชุด Textile and Leather Collection เป็นการสำแดงมรดกงานช่างฝีมืออิตาลีและแนวคิดโอตกูตูร์ที่ผ่านการรังสรรค์โดยช่างผู้เชี่ยวชาญที่เปี่ยมทักษะและรู้จักเนื้อผ้าเป็นอย่างดี มีการทดสอบความสม่ำเสมอของวัสดุ และแสดงฝีมือตกแต่งเครื่องหนังได้อย่างประณีตราวกับชุดสูทสั่งตัด ซึ่งช่วยปรับปรุงในเรื่องของเส้นสายและความสะดวกสบาย พร้อมทั้งสร้างนิยามใหม่ของความสง่างามที่อยู่เหนือกาลเวลาและตอบโจทย์รสนิยมในระดับสากล ด้วยทักษะของช่างฝีมือที่ทำงานด้วยใจรักและยึดถือปฏิบัติตามประเพณีและเอกลักษณ์ความเป็นเมดอินอิตาลี มีความใส่ใจในทุกเรื่องทุกรายละเอียด เฟอร์นิเจอร์ของเราจึงแสดงคุณค่าที่ลึกซึ้ง ทั้งในแง่ของความช่ำชองในการตัดเย็บ ความเอาใจใส่และความแม่นยำ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของชิ้นงานโอตกูตูร์

Minotti อยู่ยาวมาจนถึงสามในสี่ของเส้นทางสู่การฉลองครบรอบ 100 ปี คุณมองอนาคตของบริษัทในช่วง 25 ปีสุดท้ายของศตวรรษไว้อย่างไร
เราภูมิใจที่ก้าวมาถึงหลักไมล์สำคัญตลอดระยะเวลา 3 ชั่วรุ่นและ 75 ปีในบันทึกประวัติศาสตร์ ตลอดเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้เติบโตและพัฒนาด้วยอานิสงส์ของโปรเจคพิเศษต่างๆ ที่ช่วยให้เราสามารถเสริมสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก การคาดการณ์อนาคตเป็นเรื่องยาก แต่ความมุ่งมั่นของครอบครัวเราจะคงอยู่ต่อไปเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายของวิถีชีวิตร่วมสมัยและการขยายแบรนด์ไปทั่วโลก

บทความที่เกี่ยวข้อง: Odin Hills Ultra-Premium Residential Project in Niseko


Join us as we take a closer look at how this globally-recognised brand continues to redefine Italian craftsmanship.

Words: Lapheepun Chotjinda Photo: Minotti

What does it mean when a product bears the label “Made in Italy”? It signifies quality, style, and timeless elegance. Many of the world’s leading brands originate from Italy, embodying these very qualities. Furthermore, a significant number of these brands have roots in family businesses that endure through generations, much like Minotti.

Established in 1948 by Alberto Minotti, the company began as a modest furniture store but swiftly expanded into an industrial-level brand. Today, Minotti remains a family affair, overseen by second and third-generation members. We recently caught up with Alessio Minotti, a member of the latter generation, who has been with the company since 1998. In his current roles as Research and Development Manager and Head of Purchasing Department, Alessio plays a pivotal role in shaping the future growth and direction of the Minotti brand.

Dylan

What would you say are the biggest advantage and disadvantage of being a family owned and operated company?
Being part of a family company like ours, where the third generation works alongside the second generation, means constantly working in harmony, with clarity of mind and well-defined plans for the future. For us, the family plays a key role, and our ability to stay close to the values of the family unit and our territory guarantees consistency of style and the high quality of our products. As a family, we move together with passion and dedication towards common goals, and over time we have built the soul of our brand. Of course, each day brings new challenges, but our commitment remains constant, in the name of excellence, creativity and authenticity of design.

What is the scope of research and development at your department?
Minotti’s soul is deeply rooted in the values of “Made in Italy”, which today indissolubly blends tradition and innovation. Italian craftsmanship know-how is unique and drives us to continuously search for processes and materials that can guarantee a product of excellence, capable of responding to market needs and evolving lifestyles. We work hard to create timeless pieces of furniture with a style recognisable worldwide. Attention to detail is reflected in every aspect of our work, in all areas and activities.

Within our company, in fact, there is the Minotti Studio, which is the research laboratory and creative soul of the brand established in 1996 with the aim of interconnecting the various phases of the product development process. From materials to shapes, up to the definition of the concept behind each year’s collection, research and development take place completely in-house thanks to a team of professionals with skills in the fields of product design, engineering, interior design, graphic design and marketing who share the desire for innovation.

Textile and Leather Collection

Please describe how Minotti differs, in terms of design and/or construction, from other brands in the same price bracket. As well, please give a clue of how we can look for the “Minotti Code” when we see a product from one of your collections.
Every company has its own identity, and ours has evolved over time, though still anchored to its origins of 75 years ago, and to the values of aesthetic sobriety, timeless elegance, continuity in the sign of tradition, craftsmanship and great attention to detail. From our classical roots, we started from the หixties to develop a more contemporary style to meet the needs of the market and, over the years, we have worked hard to create a distinctive and internationally recognisable image: what makes us unique is our ability to present not just products, but a way of interpreting the spaces and habits of contemporary living at all latitudes. For this reason, when we give life to a collection, we never think of a product as an end in itself: we pay great attention to the aspect of contextualisation, so that each piece of furniture can dialogue harmoniously with other ones as well as with the architecture. It is a philosophy we have pursued since the beginning and will continue to embrace in the future.

As consumers are generally more conscious about sustainability these days, what is being done at Minotti to ensure they are adequately satisfied in this regard?
As a company, we have long integrated sustainability into our strategies to guide present and future actions. Each collection expresses the utmost attention to quality, starting from the collaboration and continuous search for excellence in our local territory. We focus on craftsmanship and we enhance the manufacturing tradition to offer a quality that is perceivable not only as an aesthetic value, but as product reliability and durability.

And for this reason, all our furniture is produced in Italy, precisely in the Brianza district (i.e. zero km from the HQ and production site) thus ensuring a direct control of quality, but also the minimisation of emissions. Furthermore, we constantly favour and explore the use of recycled, recyclable and reusable materials with a low environmental impact, which at the same time can guarantee high quality and performance standards. For example, all the fabrics that dress our upholstered pieces are made in harmony with the environment, thanks to the choice of natural fibers and fully recyclable polypropylene yarns, as well as the use of textile treatments that respect man and our precious ecosystem.

Textile and Leather Collection

Do you operate textile and leather production facilities of your own?
The fabrics and leathers that cover our seats are supplied by textile companies and tanneries that process raw materials obtained in full compliance with the highest ethical and environmental standards, to keep on talking about sustainability. As a company, we guarantee the end consumer that, from the fiber to the finished product, the environmental impact is limited throughout the production process. This is why, when these fabrics and leathers arrive at our facilities, we use innovative technologies that allow us to create the best cutting combinations, improve productivity and minimise material waste. For leather in particular, in the last five years we have carried out the first project to install two automatic leather cutting systems at our production site, in line with the most advanced methods of the Industry 4.0 plan. These innovative systems, driven by state-of-the-art software, allow us to speed up the whole process, making the mapping and cutting phases smoother, guaranteeing maximum precision and improving the already high quality and performance standards. All this is part of a wider plan that Minotti continues to support with significant resources.

Please tell us more about your Textile and Leather Collection. How does it work?
The Textile and Leather Collection is an interweaving of tradition and innovation, as well as the point of reference for the creation of an aesthetic and design language that continues to evolve year after year, producing a transversal stylistic heritage that satisfies the tastes of an increasingly demanding international clientele. The entire collection is the result of the company’s in-depth and constant in-house research: fabrics and leathers are designed and made exclusively for the brand, with the aim of enhancing the structural lines and sartorial workmanship of our upholstered pieces. In fact, they play a fundamental role because they give each piece of furniture a true identity: the use of one cover rather than another, in fact, determines its personality, exclusivity and uniqueness. For this reason, we let our customers and professionals choose the upholstery for all our indoor and outdoor pieces in the collection to allow the development of interior design projects with a high degree of customisation.

Torii Nest Outdoor

Please describe the overall character of the 2023 Textile and Leather collection, and explain why you call it an “haute couture” project.
The Textile and Leather Collection is a pure expression of Italian craftsmanship heritage and the concept of haute couture: only through skilful, expert hands that know fabrics very well, test their consistency and perform refined craftsmanship can we dress up upholstered pieces like tailor-made suits, enhancing their lines and comfort and defining a new code of elegance with a timeless, international taste. Thanks to our manual skill, which works with passion and according to the tradition and taste of Made in Italy, taking care of everything down to the smallest detail, our furnishings express a profound value in terms of sartorial savoir-faire, care and precision, which is typical of haute couture.

Minotti has come three-fourths of the way to the 100th anniversary. How do you see the future of the company in this next quarter of the century?
We are proud to have achieved this important milestone through three generations and 75 years of history. Over time, the company has grown and evolved thanks to unique projects that have enabled us to strengthen our brand identity worldwide. It is difficult to make predictions for the future, but the commitment of our family will remain constant to meet the challenges of contemporary living and to further grow the brand globally.

See also: Odin Hills Ultra-Premium Residential Project in Niseko

Get Exclusive Connections with LUXUO Thailand
Join us today
Connect!
Close
Join us for exclusive access to Luxuo Thailand's contents and events
Subscribe
close-image