สัมผัสความยิ่งใหญ่ของเรือ Amerigo Vespucci เรือใบสามเสาที่เก่าแก่ที่สุดที่ประจำการในกองทัพเรืออิตาลีได้แล้วที่ภูเก็ต
บทความ: ลภีพันธ์ โชติจินดา ภาพ: Tour Vespucci
เรือ Amerigo Vespucci เป็นเรือใบสามเสาของกองทัพเรืออิตาลีที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1930 และเริ่มเดินเรือครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1931 และเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังประจำการอยู่ในกองทัพเรืออิตาลี โดยภาระกิจหลักของเรือ Amerigo Vespucci คือเพื่อจัดกิจกรรมฝึกอบรมให้กับนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 1 ของโรงเรียนนายเรือ นักเรียนของโรงเรียนนายเรือทหาร “F. Morosini” สถาบันฝึกอบรมกองทัพเรืออื่นๆ และสมาชิกรุ่นเยาว์ของสมาคมเดินเรือ เช่น Lega Navale, Associazione Nazionale Marinai d’Italia และ Sail Training Association Italia
ในขณะเดียวกันผู้คนทั่วโลกก็รู้จักเรือ Amerigo Vespucci ในฐานะ “เรือที่สวยที่สุดในโลก” ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงเรือสำหรับฝึกอบรมเท่านั้น หากยังได้ปฏิบัติภาระกิจมากมายร่วมกับหน่วยงานสำคัญๆ ในระดับนานาชาติมากว่า 30 ปี ในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและมรดกทางธรรมชาติทางทะเล อาทิ UNICEF WWF และ Marevivo เพื่อปลูกฝังความเคารพต่อโลกของเราให้กับคนรุ่นใหม่ ดังนั้นหากเราจะกล่าวว่าเรือใบสามเสา Amerigo Vespucci นี้เป็นสถานทูตลอยน้ำของอิตาลีก็คงไม่ผิด
เรือ Amerigo Vespucci นี้เริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกเมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม ปี ค.ศ. 2023 และจะจอดแวะพักตามท่าเรือต่างๆ กว่า 30 ท่าเรือใน 27 ประเทศ โดยจะมีกำหนดกลับท่าเรือที่ประเทศอิตาลีในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2025 รวมระยะทางเดินเรือประมาณ 40,000 ไมล์ ซึ่งวัตถุประสงค์ของการล่องเรือไปยังจุดหมายปลายทางในแต่ละประเทศนั้นก็เพื่อเน้นย้ำภาพลักษณ์ ประเพณีและวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ที่งดงาม รวมไปถึงความเป็นเลิศของผลิตภัณฑ์ของประเทศอิตาลีนั่นเอง
นับว่าเป็นโอกาสอันดีของชาวไทยที่เรือ Amerigo Vespucci นี้จะจอดแวะพักที่ท่าเรือน้ำลึก จังหวัดภูเก็ต ในช่วงระหว่างวันที่ ในช่วงวันที่ 6-10 พฤศจิกายนศกนี้ ก่อนที่จะออกเดินทางต่อไปยังประเทศอินเดียในลำดับถัดไป โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถขึ้นไปเยี่ยมชมเรือได้ แวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก สัมผัสประสบการณ์กิจกรรมมากมายบนเรือ อาทิ นิทรรศการต่างๆ รวมทั้งได้พูดคุยกับลูกเรือที่ยินดีจะตอบคำถามของคุณตลอดการเดินทาง โดยสามารถศึกษาตารางการเข้าชมเรือและลงทะเบียนเพื่อขึ้นเรือได้ที่หน้าเว็บไซท์ Tour Vespucci โดยตรง
บทความที่เกี่ยวข้อง: Manisikarn Hall: An Enchanting Retreat for Buddhist Arts Amidst Saraburi’s Scenic Hills
Visit the Italian Navy’s oldest active military vessel during her call at Phuket Deep Sea Port.
Words: Lapheepun Chotjinda Photos: Tour Vespucci
The Amerigo Vespucci, a three-masted ship commissioned in 1930 and launched on February 22, 1931, is the Italian Navy’s oldest active military vessel. The ship has been primarily used to train cadets in the first year of the Italian Naval Academy, along with students from the Francesco Morosini Military School, cadets from other Italian Navy training institutions, and young recruits from organizations like Lega Navale, Associazione Nazionale Marinai d’Italia, and Sail Training Association Italia.
Globally renowned as the most beautiful ship in the world, over the last 30 years the Amerigo Vespucci has served in missions to safeguard the natural environment and historical/archeological heritage in cooperation with associations like UNICEF, WWF and Marevivo with the goal to impart the importance of respecting our planet to new generations. Along the way, the ship has also earned a reputation as a floating Italian embassy.
The Amerigo Vespucci began her world tour on July 1, 2023, with over 30 scheduled port calls in 27 countries. By the time she returns to port in February 2025, she will have traveled approximately 40,000 miles on a mission to highlight Italy’s image, traditions, and culture to the world and display the excellence of Italian-made products.
The ship is scheduled to call in at Phuket Deep Sea Port during November 6-10, after which she will continue on to India. Visitors are welcome to go on board, take souvenir photos, and visit the onboard exhibition at no charge. The crew members will be happy to answer any questions you may have. If you are interested in visiting the ship, check out visiting hours and register in advance at the Tour Vespucci website.
See also: Manisikarn Hall: An Enchanting Retreat for Buddhist Arts Amidst Saraburi’s Scenic Hills
