คุณตุลย์ ตุลยเทพ เอื้อวิทยากับการก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งสู่เป้าหมายสำคัญในชีวิต
บทความ: LuxuoTH ภาพ: ปฐมพร เผือกผุด วีดีโอ: ไทยคม สุขตลอดชีพ และ ธีรภัทร รัตนกุลชัยนันท์
ด้วยความที่เป็นนักธุรกิจหนุ่มโปร์ไฟล์ดี แล้วยังเป็นนักวิ่งไตรกีฬาและนักแสดง คุณตุลย์ ตุลยเทพ เอื้อวิทยา จึงเป็นสุภาพบุรุษท่านหนึ่งที่พิสูจน์ตนเองให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเส้นทางสู่ความสำเร็จนั้นนอกจากจำเป็นต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมีการก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งแล้วยังต้องมี “เพซ” หรือ “จังหวะ” แห่งความสุขในการใช้ชีวิตอีกด้วย Luxuo Thailand จึงขอเชิญคุณตุลย์ให้มาเป็นแขกคนพิเศษของเราสำหรับบทความ Cover Story ประจำเดือนธันวาคมนี้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกท่านในการส่งท้ายปีเก่าและเริ่มต้นปีใหม่อย่างมีพลังเหมือนคุณตุลย์ค่ะ
ปัจจุบันคุณตุลย์ทำธุรกิจอะไรบ้างและมีอะไรเป็นแรงผลักดัน
ตอนนี้อาชีพหลักทำธุรกิจที่บ้าน ทำรับเหมาก่อสร้าง บริษัทนี้ก่อตั้งโดยคุณปู่ คุณพ่อเป็นรุ่นที่สอง ผมเป็นรุ่นที่สาม เป็นสิ่งที่สืบทอดกันมาถึงสามรุ่นแล้ว ก่อนที่คุณพ่อจะเสีย คุณพ่อจะพูดตลอดว่า อยากให้ชื่อบริษัทของเรายังคงอยู่ ซึ่งชื่อบริษัทเป็นชื่อของคุณปู่ เรียกว่าเป็นสิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้ทำบริษัทอยู่ทุกวันนี้
คุณตุลย์เป็นคนชอบกีฬาอย่างจริงจังโดยเฉพาะอย่างอย่างการวิ่ง
จริงๆ ผมไม่ได้เริ่มจากการวิ่ง ผมเริ่มจากไตรกีฬา เพราะว่าเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้วตอนนั้นเป็นช่วงที่ไตรกีฬากำลังบูมในบ้านเรา ช่วงนั้นจะเห็นเพื่อนกลุ่มม.ปลายที่โรงเรียนสวนกุหลาบเขาจะไปแข่งมีทีมและใส่ชุดลงไปแข่ง เมื่อก่อนเป็นนักว่ายน้ำอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าเราเพิ่มจักรยานกับวิ่งเข้ามาก็สามารถไปแข่งได้เลย เป็นจุดเริ่มต้น แรงบันดาลใจมาจากเห็นเพื่อนไปเล่น อยากมีสังคม อยากกลับไปหาเพื่อน เมื่อก่อนตอนอยู่สวนกุหลาบก็จะเตะบอลกัน ตอนนี้ก็คือมาเล่นไตรกีฬา มาวิ่งกันกับเพื่อนๆ
การวิ่งสอนอะไรให้กับคุณตุลย์บ้าง
เวลาเราวิ่งมันจะมีเวลาที่แบบตื่นมาเช้าวันอาทิตย์แล้วอยากไปวิ่งสวนลุมสบายๆ ก็คือการจ๊อกเบาๆ อันนั้นคือเพซแห่งความสุขวันนั้น แต่ว่าถ้าเราซ้อมมา 6 เดือนแล้ว วันนี้เป็นวันแข่ง เราต้องวิ่งเต็มที่ มันก็ต้องมีเพซแข่งอีกอันหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าการใช้ชีวิตมันก็เหมือนการวิ่งที่เรามีเพซที่ต่างกัน มันจะมีช่วงที่เราสบาย ช่วงที่เราอยู่ตัว ไม่ได้มีเหตุการณ์สำคัญ ตื่นมาก็ไปทำงานปกติแล้วก็ไปออกกำลังไปเที่ยว แต่ว่าเราก็จะมีบางช่วงที่อยู่ๆ มันก็เป็นเพซแข่ง อาจจะเป็นช่วงที่เรามีงาน อย่างของผมมีงานต้องประมูล พอประมูลได้แล้วต้องเร่งงาน ตอนนั้นมันจะเป็นเพซแข่งแล้ว เราก็จะต้องปรับไมน์เซ็ทของเราว่าโอเค เราจะตื่นมาจ๊อกวันอาทิตย์ไม่ได้แล้วนะ เราจะต้องตั้งใจเร่งสปีด แน่นอนว่าร่างกายมันก็จะเหนื่อยมากขึ้น ทุกอย่างมันจะต้องใช้มากขึ้น เราต้องพักผ่อนให้พอ เราต้องกินให้พอเพื่อที่จะมีแรงมาสู้กับงานสู้กับชีวิตของเรา
คุณตุลย์มีวิธีจัดการชีวิตให้ลงตัวที่สุดได้อย่างไรบ้าง
ก่อนอื่นเลยก็ต้องรู้จักแบ่งเวลา แบ่งความรับผิดชอบ ต้องจัดลำดับความสำคัญว่าอันไหนสำคัญสำหรับเราในเวลานั้นๆ แน่นอนว่าเรื่องการทำงานประกอบอาชีพก็ต้องเป็นเรื่องหลัก ส่วนกีฬานี่เป็นเรื่องรอง ดังนั้นเราก็ต้องให้ความสำคัญกับงานที่เราทำก่อน ทีนี้พอเราสามารถจัดงานให้เข้ารูปโดยที่มันสามารถทำงานเป็นระบบแล้ว ทำให้เราสามารถมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ อย่างผมจัดการเรื่องงานเสร็จก็จะมีเวลาไปวิ่งไปซ้อมกีฬาต่างๆ ที่อยากทำได้ สร้างวินัยตัวเอง กำหนดรูปแบบที่เราวางไว้และพยายามทำให้ได้ตามรูปแบบนั้นให้ได้มากที่สุด
การทำให้ทุกวินาทีนั้นมีค่าสามารถนำไปปรับใช้กับอะไรในชีวิตได้บ้าง
ผมว่าเราสามารถนำการจัดสรรเวลาให้ได้ประโยชน์สูงสุดไปใช้กับทุกอย่างที่เราทำ เคยได้ยินคนพูดว่าทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน อยู่ที่ว่าเราจะแบ่งเวลานั้นทำอะไร คือถ้าเราแบ่งว่าเราอยากมีเวลานอนเยอะขึ้น ก็ทำได้ไม่มีใครว่า แต่ว่าเราจะมีเวลาทำอย่างอื่นลดลง ในขณะที่บางคนนอน 8 ชั่วโมงพอแล้ว ที่เหลือก็ลุกขึ้นมาแบ่งเวลา ช่วงนี้ไปทำงาน ช่วงนี้ไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ช่วงนี้ไปเล่นกีฬาที่ชอบ ก็อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะจัดการเวลาของตัวเองอย่างไร ซึ่งบอกไม่ได้ว่าใช้เวลาให้คุ้มค่าสูงสุดมันเป็นอย่างไร นอน 8 ชั่วโมง ทำงาน 8 ชั่วโมง หรืออย่างไร ซึ่งอันนี้ทุกคนก็ไม่เหมือนกันดังนั้นต้องพิจารณาตัวเองว่าแบบไหนเหมาะสมกับเราที่สุด
เมื่อมีเหตุอะไรบางอย่างทำให้เราหลุดจากเป้าหมาย คุณตุลย์มีวิธีแก้ไขหรือรับมือกับสถานการณ์นั้นอย่างไรบ้าง
อันดับแรกเลยก็คือต้องทำใจ ทำใจยอมรับกับความผิดหวังให้ได้ ซึ่งอันนี้พูดได้เลยว่าไม่ใช่สิ่งที่ง่าย บางคนยอมรับกับความผิดหวังได้ บางคนยอมรับไม่ได้เลย มันก็จะมีวิธีที่ดีลต่างกัน ส่วนผมเองผมเป็นคนง่ายๆ ไม่ซีเรียสมากไป ดังนั้นอะไรมันเกิดขึ้นจะพยายามมองว่ามันมีเหตุให้มันเกิด ผลที่มันออกมาแล้วเราต้องรับมือกับมันให้ได้ ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร แทนที่เราจะเสียเวลาไปโมโหตัวเอง เรากลับมาว่าพอเป็นอย่างนี้เราจะก้าวอย่างไรต่อไป วิธีที่จะแก้ปัญหาแบบนั้นมากกว่า พยายามมีสติในการแก้ปัญหา คือปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ไม่มองย้อนหลัง เพราะมองย้อนหลังแล้วไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา แก้อะไรไม่ได้แล้ว
จากทุกสิ่งที่ทำที่ต้องอาศัยทั้งความทุ่มเทและวินัย อยากทราบว่าคุณตุลย์มีการให้รางวัลตัวเองด้วยอะไรบ้าง
การให้รางวัลตัวเอง จริงๆ แล้วเป็นคนไม่ค่อยซื้อของชิ้นใหญ่เท่าไหร่ให้กับตัวเอง ส่วนมากจะเป็นช้อปปิ้งเล็กๆ น้อยๆ แต่ว่าถามว่าให้รางวัลอะไรกับตัวเอง ผมคิดว่าการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ผมเรียกว่าเป็นรางวัลชีวิตดีกว่า เพราะว่าการที่ได้ออกไปที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่ใหม่ๆ ที่ผมชอบไป เรียกได้ว่าเป็นการได้เรียนรู้การมีประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นสิ่งที่บางทีเงินมันหาไม่ได้ โอเคเราต้องใช้เงินในการเดินทางไป พอไปถึงแล้วมันเป็นการเปิดโลก มันทำให้เรามีมุมมองใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต เราก็สามารถนำมาปรับเข้ากับการทำงาน การลงทุน ทุกอย่างเลย ไปเรียนรู้ ไปลองคุยกับคนอื่นคนต่างชาติบ้าง ลองดูว่าไมน์เซ็ทเขาเป็นอย่างไร ความคิดของเขา ซึ่งเท่าที่ได้คุยมา แต่ละประเทศก็จะมีความคิดไม่เหมือนกัน ต้องยอมรับว่าบางทีความคิดของเขามันสู้มากกว่าเรา ประเทศที่เขาตกเป็นเมืองขึ้นเขาต้องใช้ชีวิตแบบไม่ง่ายแต่เขาก็ผ่านมาได้จนทุกวันนี้เขาอาจจะพัฒนาไปไกล เราก็สามารถนำตรงนี้มาพัฒนาชีวิตเราได้ด้วยเหมือนกัน
จริงๆ แล้วเป็นคนชอบเที่ยวมากและชอบกินด้วย เวลาไปเที่ยวก็จะหาร้านอาหารที่อร่อยๆ กิน เมื่อก่อน ก่อนที่จะเล่นกีฬาก็จะไปเที่ยวอย่างเดียว ชอบไปที่ที่ไม่ใช่ทัวริสท์สปอทมากนัก เป็นแบบอันซีนคือชอบไปพัก Airbnb และก็จะคุยกับเจ้าของบ้านว่าปกติคุณไปกินข้าวที่ไหน ไม่เอาร้านแบบนักท่องเที่ยวหรือคนดังต้องไปกิน เอาแบบที่ทุกวันคุณจะออกไปกินข้าว เราก็จะตามไปกินของเขา พอปัจจุบันมาเล่นกีฬาเริ่มวิ่งก็เอาตรงนี้เข้ามาผนวกกับการท่องเที่ยว คือ จะหาสนามวิ่งต่างประเทศ สมมุติว่าวิ่งมาราธอนก็จะวิ่ง 4-5 ชั่วโมง ที่เหลือก็คือเที่ยวได้ ก็ได้เป็นทูว์อินวันไปเลย ได้วิ่งด้วย ได้เที่ยวด้วย
ในอนาคตคุณตุลย์มีเป้าหมายหรือวางแผนจะทำอะไรเพิ่มเติมอีก
เป้าหมายคือรีไทร์ [หัวเราะ] เหนื่อยแล้ว ผมว่าจริงๆ ทุกคนก็คงอยากจะใช้ชีวิตง่ายๆ ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้า มันก็ต้องเป็นจุดหนึ่งที่เราทำงานเก็บเงินสะสมพอแล้ว เคยมองว่าต่อไปอาจจะไม่อยู่กรุงเทพ อาจจะไปอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งคุณพ่อมีซื้อที่ที่ปากช่อง เขาใหญ่ไว้ แต่ว่าตัวเองชอบทะเลมากกว่า ก็เลยว่าจะไปหาบ้านเกษียณแถวทะเลมากกว่า
เรากำลังอยู่ในช่วงส่งท้ายปีเก่าและก้าวเข้าสู่ปีใหม่ คุณตุลย์มีข้อคิดอะไรอยากฝากถึงผู้อ่านของเราบ้าง
ถ้าเรามีเป้าหมายอยู่เป้าหมายหนึ่ง บางทีการที่ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ในเพซปกติมันจะไม่ชนเป้าหมาย ซึ่งตรงนี้เราต้องมาวิเคราะห์ว่าเพซที่เราดำเนินชีวิตอยู่มันเหมาะสมกับเป้าหมายหรือเปล่า ถ้าทางที่เราไปมันไม่ใช่ทางที่ไปเป้าหมายเรา มันจะเป็นการเสียเวลาเปล่าๆ เลย ดังนั้นผ่านไปซัก 3 เดือน 6 เดือนเราอาจจะลองกลับมาดูว่าเรายังอยู่ในแทร็คที่ไปถึงเป้าหมายหรือเปล่า คอยเช็คตัวเอง มันก็เหมือนกับธุรกิจที่เราทำ มีเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว และต้องคอยปรับว่าเรายังมุ่งไปที่เป้านั้นอยู่หรือไม่
บทความที่เกี่ยวข้อง: Siengsaw Lertratanachai on Her Disciplined Track to Equestrian Success
The triathlete-turned-runner shares how he stays focused in business and life.
Words: LuxuoTH Photo: Pathomporn Phueakphud Video: Thaikom Suktalordcheep and Teerapat Rattanakulchainun
As a successful entrepreneur, triathlete, and actor, Tulyatep Uawithya has demonstrated his effectiveness as a goal-oriented gentleman with a consistent approach. He also knows how to savor life along the way, making him an ideal subject for this December cover story. We sincerely hope you find his insights inspiring as we bid farewell to the old year and welcome the new one with strength, much like him.
Tell us a little bit about your business and motivation.
My primary business is a family-owned construction company founded by my grandfather, with my father being the second generation and myself the third. It has been passed down through three generations. Before my father’s passing, he always emphasized the need to preserve the company’s name, which is my grandfather’s name. This serves as my driving force in running the company today.
You have a genuine passion for sports, especially running.
Actually, I didn’t start with running. I began with triathlons. About seven years ago, triathlons were booming in our country. At that time, my Suankularb classmates would compete in their uniforms. Since I was already a swimmer, I thought I could try triathlons by adding cycling and running to meet the requirements. That was the starting point. The inspiration was to socialize with my friends like how we played football together in school, but now through triathlons and running.
What have you learned from running?
Running can be a leisurely jog at Lumpini Park on a Sunday morning, bringing joy for the day. However, if you’ve been training for six months and today is race day, you must switch to a different pace: the competitive one. In this sense, life is like running at various paces. There are comfortable moments when we are stable, with nothing major going on. We wake up, go to work, work out, and enjoy some rest and relaxation. Yet, there are also periods when we are in a racing pace, like when managing an ongoing project. For instance, I have to bid for construction jobs. Once I get them, I must see to the work. This is racing pace now. I must adjust my mindset, reminding myself that it’s not a Sunday jog anymore, and I have to speed up. It will be more exhausting, so having enough rest and food is crucial to cope with work and life.
How do you manage to align your life so effectively?
Firstly, you need to know how to manage your time, delegate responsibilities, and prioritize what is important to you at the moment. Work-related tasks should be the main focus, with sports as a secondary consideration. We must give importance to the work we are doing first. Once tasks are organized into a pattern that functions as a system, there is time for other activities. For example, when my work is managed, I can allocate time for running and other sports. Building discipline, establishing a pattern, and striving to adhere to it are essential aspects of effective life alignment.
How do you apply this to other aspects of life?
I believe in maximizing the use of our time in everything we do. People often say that everyone has the same 24 hours, and it’s about how we allocate that time. If one chooses to allocate more time for sleeping, that’s fine. It’s a matter of personal choice. However, this choice means having less time for other activities. Some may opt for eight hours of sleep, dedicating the rest of the time to work, learning, or engaging in sports. Time management is a personal decision, and individuals must decide what works best for them. I can’t prescribe a specific formula like eight hours of sleep, eight hours of work, and so on, as it varies from person to person.
What do you do in the situation where a goal is missed?
The initial step is acceptance. It’s crucial to accept and embrace disappointment, even though it’s not an easy thing to do. Different people have different ways of dealing with it. Personally, I am easy-going and not overly stressed. When faced with a setback, I strive to understand the cause and confront the consequences directly instead of being angry at myself. The focus is on moving forward and problem-solving with mindfulness. While the events occurred, dwelling on them serves no purpose because there’s nothing that can be done to change the past.
Do you reward yourself for your efforts and discipline?
I typically don’t indulge in big-ticket items. There might be occasional small purchases, but my major self-rewards involve travel. Visiting different and new places allows me to learn and gain experiences that money can’t always buy. While money is necessary for travel, arriving at the destination broadens my horizon and offers a new perspective on life. This newfound understanding can be applied to work, investments, and everything else. Interacting with people in different countries, understanding their mindset and thoughts, is invaluable. From my experiences, people in each country have unique perspectives, often more resolute than our own. People in colonized countries faced hardships, yet they have not only endured but evolved. We can use these experiences to improve our lives.
I am someone who loves to travel and enjoys eating. During my trips, I seek out delicious local restaurants, away from tourist spots. In the past, before becoming more athletic, I traveled just for the sake of it. I preferred off-the-beaten-path locations, staying in Airbnb accommodations, and discovering where locals ate in their normal routine. Now, with a focus on sports, especially running, I integrate this passion into my travels. Identifying races overseas allows me to compete in marathons, spending the remaining time exploring – a two-in-one experience of competition and sightseeing.
What is your next goal or plan?
My goal is retirement [laughs]. I genuinely feel the fatigue. Seriously, everyone desires a simpler life, free from the exhaustion of having to wake up early for work. There should come a time when we’ve saved enough money to comfortably retire. I once entertained the idea of leaving Bangkok for a more tranquil life upcountry. My father purchased land in Pakchong, Khao Yai, but as I prefer the sea, I may search for a beach house for my retirement.
As we enter the new year and bid farewell to the old, do you have any thoughts you would like to share with our readers?
If we have a goal, living life at a relaxed pace may not necessarily get us there. We must assess whether the pace we’re maintaining aligns with our objectives. If the path we’re on doesn’t lead to our goal, then it’s a complete waste of time. This is why it’s essential to reassess every three or six months to ensure we’re still on the path to success. Much like a business operating with short-term and long-term goals, we need to periodically adjust our course to guarantee we remain on target.
See also: Siengsaw Lertratanachai on Her Disciplined Track to Equestrian Success