Christina Aguilar Talks Building a Society of Diversity

Share this article

ติ๊นา คริสติน่า อากีล่าร์ ไอคอนตลอดกาล กับการสร้างสรรค์สังคมภายใต้ความหลากหลาย
บทความ: LuxuoTH ภาพ: มโนสิทธิ์ บุญนนท์ กำกับแฟชั่น: ดนีย์นาถ บุรกสิกร

[ English ]

สิ่งที่เราจะเห็นไอคอนตลอดกาลอย่างคุณติ๊นา คริสติน่า อากีล่าร์ นักร้องหญิงเจ้าของฉายา “Queen of Dance” ผู้สร้างประวัติศาสตร์มากมายให้กับวงการเพลงไทยทำอยู่เป็นประจำ นอกจากการสร้างสรรค์ผลงานในวงการบันเทิงแล้ว ก็คือ การสร้างพลังบวกและความเข้าใจ รวมถึงการสนับสนุนเรื่องความหลากหลายและความเท่าเทียมในสังคม ยิ่งล่าสุดกับการได้รับตำแหน่ง Champion of UNFPA คนแรกของประเทศไทย ก็ยิ่งทำให้คุณติ๊นาสามารถเป็นกระบอกเสียงในการรณรงค์ส่งเสริมให้เกิดความเสมอภาคทางเพศและเพื่อยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยได้อย่างเป็นรูปธรรมขึ้น เราเองก็เห็นถึงความสำคัญในการทำความเข้าใจ ยอมรับ และเคารพในความหลากหลายและเท่าเทียม ซึ่งจะช่วยให้สังคมพัฒนาต่อไปได้ในระยะยาว จึงได้เชิญคุณติ๊นามาเปิดเผยประสบการณ์และพูดคุยกันในประเด็นนี้

ความหมายของคำว่า “ไดเวอร์ซิตี้” หรือ “ความหลากหลาย” สำหรับคุณติ๊นาคืออะไร
ไดเวอร์ซิตี้จริงๆ แล้วสำหรับติ๊นามันคือความแตกต่างที่พอมารวมกันแล้วมันกลายเป็นสิ่งที่สวยงามมาก ถ้าสมมติว่าคนเราอยู่ในสิ่งที่มันเหมือนกันหมดทุกอย่าง ติ๊นาคิดว่ามันจะเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก เพราะฉะนั้นไดเวอร์ซิตี้มันคือสีสันของโลกใบนี้ค่ะ

รู้สึกอย่างไรบ้างที่ผลงานของคุณติ๊นาสร้างอิมแพคท์ให้กับคนหลากหลายกลุ่มมากๆ
ถ้าถามเรื่องผลงาน แน่นอนก็ต้องดีใจแล้วก็รู้สึกเป็นเกียรติมาก แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่เราจะลืมไม่ได้ คือ สิ่งนี้มันจะเกิดขึ้นได้ก็จากคนที่ทำงานอยู่เบื้องหลังนะคะ คือนักแต่งเพลงทุกคนที่แต่งเพลงให้ติ๊นา ติ๊นาก็มีหน้าที่เป็นคนถ่ายทอดชิ้นงานของเขา แต่ว่าเราถ่ายทอดในรูปแบบของตัวเราเอง แล้วมันก็อาจจะถูกใจคนกลุ่มใหญ่

คุณติ๊นารู้สึกว่าการยอมรับในความหลากหลายของสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
โห เปลี่ยนเยอะมากๆ ค่ะ จากวันแรกที่ติ๊นาเข้ามาในวงการจนถึงทุกวันนี้ สามสิบกว่าปี เมื่อก่อนมันยังมีความไม่กล้าแสดงออกเท่าไหร่ มันอาจจะไม่ได้เป็นที่ยอมรับเหมือนทุกวันนี้ แต่ทุกวันนี้มันก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือว่ายังไม่ยอมรับ 100% นะคะ แต่ว่าถ้าถามติ๊นาแล้วเนี่ย ทุกวันนี้ทุกคนก็เริ่มที่จะกล้าแสดงออก กล้าที่จะพูดถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติมากๆ ติ๊นาเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิที่จะเอ็กซ์เพรสความรู้สึกของตัวเอง มีสิทธิที่จะเลือกสิ่งที่เราอยากจะเป็น มันคือชีวิตของเรานะคะ แล้วอะไรก็แล้วแต่ที่เรามีความสุข เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราไม่ได้ไปเป็นภาระให้กับสังคม ติ๊นาคิดว่ามันคือ ฮิวแมนไรตส์อย่างหนึ่ง มันคือสิทธิของมนุษย์ทุกคน

แล้วทำไมความหลากหลายถึงเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างสังคม
ถ้าคนเราอยู่ในห้องๆ หนึ่ง แล้วทุกคนคิดเหมือนกันหมด เราจะไม่สามารถพัฒนาอะไรได้เลย แต่การที่มันมีความหลากหลาย ความแตกต่าง มันเป็นสิ่งที่สามารถทำให้คนพัฒนาหลายๆ อย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคิด เรื่องของหลายสิ่งหลายอย่างที่อยู่รอบตัวเรา มันทำให้เรารู้สึกว่ามีอีกมุมมองหนึ่งที่เราไม่ควรจะมองข้าม

อะไรเป็นแรงจูงใจที่ทำให้คุณติ๊นาตัดสินใจรับตำแหน่ง Champion of UNFPA
ต้องบอกก่อนว่าจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ ติ๊นาก็ชอบไปช่วยตรงโน้นช่วยตรงนี้กับกลุ่มแฟนคลับของติ๊นาอยู่แล้ว เช่น ในวันเกิดเรา แล้วติ๊นารู้สึกว่าอยากให้คนที่รักติ๊นาสามารถทำอะไรให้กับสังคมได้ด้วย ไม่ใช่แค่มาชอบเรา มาตามเรา แล้วแค่นั้นจบ ติ๊นาคิดว่าตราบใดที่เรายังมีโอกาส มีเสียงที่จะชวนให้เขาไปในทางที่ดี เราก็อยากให้เขามาร่วมทำอะไรเพื่อสังคม เมื่อก่อนเราก็อาจจะไปบ้านพักคนชรา บ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน อะไรประมาณนี้นะคะ

แล้วพอได้ร่วมงานกับทาง UNFPA เรามีความรู้สึกว่า ตรงนี้มันชัดเจนขึ้น ก่อนหน้านี้ที่เราทำมันเป็นคนกลุ่มน้อย แต่ในเมื่อเราทำงานอยู่ตรงนี้ เรามีสิทธิที่จะใช้กระบอกเสียงของเราทำให้คนได้รับรู้ในวงที่กว้างขึ้น ให้คนได้ตระหนักรู้ถึงปัญหาที่มันมีในสังคมจริงๆ ติ๊นาก็ดีใจมากๆ ที่ได้มามีส่วนร่วมตรงนี้ เพื่อที่จะทำให้สังคมของเรามันเป็นสังคมที่น่าอยู่ขึ้น แล้วก็ปลอดภัยขึ้นนะคะ มันเหมือนกับว่าเราได้เริ่มทำให้คนที่เป็นแฟนคลับและคนที่ชื่นชอบเราเขาเห็น ทำให้เขารู้สึกว่าอยากจะทำด้วย มันก็ต้องเริ่มจากจุดเล็กๆ ก่อนนะคะ ก่อนที่มันจะกระจายไปยังจุดกว้าง ซึ่งตอนนี้ติ๊นาคิดว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่ดี ที่คนเริ่มที่จะให้ความสำคัญกับตรงนี้มากขึ้น ก็อยากจะให้ทุกคนร่วมมือ ให้ความสำคัญกับการเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนในสังคม ความปลอดภัยของสังคมด้วยค่ะ

อะไรคือความท้าทายที่สุดในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และการยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงในประเทศไทย
ความรุนแรงกับผู้หญิง จริงๆ ทั้งโลกมันยังมีอยู่ มันมีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แล้วก็ยังมีอยู่ ไม่หายไปไหน แต่ติ๊นาคิดว่าผู้หญิงสมัยนี้เริ่มที่จะเข้าใจ รู้ถึงสิทธิของตัวเองแล้วว่าเวลาเขาเจอปัญหาแบบนี้ เขาต้องออกมาพูด เขาต้องออกมาขอความช่วยเหลือ มันมีองค์กรที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือตรงนี้ และนั่นก็คือสิ่งที่เรากำลังทำ เราอยากให้เขารู้ว่ามีใครบ้างช่วยเขาได้ ไม่อยากให้เขาเงียบ ไม่บอก เพราะความรุนแรงเนี่ย แน่นอนพอมีครั้งที่ 1 มันมีครั้งที่ 2 อาจจะมีการสูญเสียด้วย เราไม่อยากให้มันไปถึงขั้นนั้นนะคะ

เพราะฉะนั้น ผู้หญิงทุกคนเราควรจะรู้ถึงสิทธิของตัวเองนะคะว่าอะไรที่ใครทำกับเราได้ อะไรที่เขาไม่ควรทำกับเรา ก็อยากจะให้กล้า เพราะว่าคนหลายคนไม่กล้าที่จะแสดงออกตรงนี้ ติ๊นาเองก็รู้จักเยอะนะคนที่ถูกกระทำแต่ไม่กล้าบอก ก็มีแต่จะเจอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วก็มีความรู้สึกว่าผู้หญิงไม่ควรถูกกระทำ ผู้หญิงเป็นเพศแม่ ผู้หญิงเป็นเพศที่ให้ชีวิต แต่พอมาถูกกระทำแบบนี้ มันเหมือนกับความแตกต่างของผู้ชาย-ผู้หญิงมันยังมีอยู่ การที่ผู้ชายยังกดขี่ผู้หญิงมันก็ยังมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในครอบครัวหรือในที่ทำงาน หรือถ้าเราจะไปไกลถึงกระทั่งการล่วงละเมิดทางเพศในครอบครัวมันก็ยังมีอยู่

ตรงนี้มันไม่ใช่แค่ติ๊นา แต่เราทุกคนอยู่ในสังคมเดียวกัน เราต้องพยายามทำให้สิ่งเหล่านี้มันค่อยๆ หมดไป มันจะหมดไปในวันนี้คงเป็นไปไม่ได้ เพราะคนเราเกิดมาความคิดก็ไม่เหมือนกัน เติบโตมาก็แตกต่างกันอยู่แล้ว บางทีเราอาจจะคิดว่าคนที่เติบโตมาในครอบครัวที่คุณพ่อทำร้ายคุณแม่เนี่ย จะทำให้เด็กคนนั้นโตขึ้นมาแล้วเป็นคนที่ “ฉันจะไม่ทำ” แต่ไม่เลย บางทีโดยที่ไม่รู้ตัว มันฝังอยู่ในจิตใจของเด็ก แล้วทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่ผิด มันเป็นเรื่องที่ทำได้ ซึ่งตรงนี้ติ๊นาคิดว่าเราต้องเอ็ดดูเคทเด็กๆ ให้ดีๆ ให้เขาเข้าใจว่าความรุนแรงมันไม่ใช่เรื่องปกติ ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ มันต้องเริ่มจากเด็กค่ะ แล้วสำคัญที่สุดคือคุณพ่อคุณแม่ รวมถึงที่โรงเรียนก็ต้องทำให้ไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

ในฐานะศิลปินที่มีชื่อเสียง คุณติ๊นาใช้แพลตฟอร์มในการส่งเสริมเกี่ยวกับความหลากหลายและความเท่าเทียมอย่างไรบ้าง
อย่างที่บอกว่าพอเราเป็นคนที่มายืนอยู่ตรงข้างหน้า เราอาจจะมีโอกาสมากกว่าคนหลายๆ คนในการเป็นกระบอกเสียงไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ติ๊นาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่นักร้องและนักแสดงทุกคนควรจะทำ โอกาสนี้มันเป็นโอกาสที่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้นะคะ ก็มันอยู่ที่ว่าคุณจะเลือกทำหรือไม่เลือกทำ แต่ติ๊นาอยากจะขอร้องให้ออกมาเป็นกระบอกเสียงในสิ่งที่สมควรจะเกิดขึ้นในสังคมนี้ สิ่งที่จะช่วยให้สังคมเราพัฒนาในทางที่ดีขึ้น สิ่งที่จะทำให้สังคมเป็นสังคมที่ปลอดภัยแล้วก็น่าอยู่ขึ้นค่ะ

คุณติ๊นามีข้อความอะไรอยากฝากถึงแฟนๆ และประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับความสำคัญของการยอมรับและเคารพความหลากหลาย
ติ๊นาเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันหมด ไม่ว่าจะเป็นชายจะเป็นหญิง จะเป็นเพศใดก็แล้วแต่นะคะ อย่างที่ติ๊นาบอกตอนแรกว่าทุกคนมีสิทธิเลือกชีวิตของตัวเราเอง สำคัญที่สุดคือเราเลือกแล้วก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีด้วย ไม่ใช่เลือกในสิ่งที่หลายๆ คนคัดค้าน หรือว่าจะมาเป็นภาระในสังคม แล้วติ๊นาเชื่อว่าทุกคนเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคิด การใช้ชีวิต ความสามารถ ทุกคนมีความสามารถเท่าเทียมกัน มันไม่สามารถที่จะแบ่งแยกได้ว่าเพศนี้เก่งกว่าเพศนี้ เพราะฉะนั้นอะไรก็แล้วแต่ที่ทำแล้วคุณมีความสุข อะไรก็แล้วแต่ที่คุณเป็นแล้วคุณมั่นใจ คุณมีความสุข เป็นตัวเองดีที่สุดค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง: Fay Onchuma Durongdej on Creating Your Own Style


The eternal icon shares personal insight on relevant social issues.

Words: LuxuoTH Photo: Manosit Boonnon Fashion Direction: Daneenart Burakasikorn

Known in Thailand as “The Queen of Dance,” Christina “Tina” Aguilar has contributed to many chapters of the Thai music industry. In addition to her show business work, she constantly works to foster understanding and support for diversity and equality in society. Since being named a Champion of UNFPA in Thailand, Tina has been able to serve in even more concrete ways as a voice for gender equality and against gender-based violence. As we share her views about how important understanding, accepting and respecting diversity and equality is to long-term social development, we asked the perennial icon to share her experiences and insight on these issues.

What does “diversity” mean to you?
For me, diversities are differences that when united become something really beautiful. If we were to live somewhere where everything was exactly the same, it’d be really boring. Diversities make the world colorful.

How does it make you feel to know that your work impacts diverse groups of people?
I am, of course, happy and very honored about that, but one cannot forget that all this has only been possible thanks to the people behind the scenes, all the songwriters who wrote my songs. My job is to perform their works and I do it in my own style, which perhaps resonates with big groups of people.

In your view, how has acceptance of diversities in Thai society changed over the years?
Oh, it has really changed a great deal. It’s been over 30 years since I first came into this industry. Before, people were perhaps more reticent about expressing themselves, because that might not be as accepted as today. And even today, certain groups still may not understand or embrace [diversities] 100%. But if you ask me, people are beginning to have the courage to express and discuss who they really are – which is a really normal thing to do. I believe that everybody has the right to express their feelings and choose what they want to be. It’s their life, after all. And whatever makes them happy, harms no one, and poses no burden to society – I think it’s a human right, the right that every human being is entitled to.

How is diversity important for societal building?
If everyone in the room thought the same thing, we wouldn’t be able to make any progress. Having diversities and differences – that’s what enables us to make progress in so many ways: our thinking, all the things around us. It makes us aware that there are other points of view that we shouldn’t overlook.

What motivated you to agree to be a Champion of UNFPA?
First, I have to tell you that even before this, I already enjoyed doing my part for various causes with my fans. On my birthday, for example. I want those who love me to be able to contribute something to society and not just like and follow me. So long as I have the opportunity and the voice to lead in a positive way, I’d like my fans to come together and do something for society. To date, we have visited seniors’ homes and a home for children with multiple disabilities, among other activities.

Since joining UNFPA, I feel that I’m making more concrete contributions. Before, I only worked with minority groups. But from where I am now, I’m able to use my bullhorn to get the message across to a wider audience and make more people aware of real problems in society. I’m very happy to be a part of this, to help make our society a better and safer place. I think my fans and those who look up to me are beginning to see and want to join in. It needs to start small and then spread out, and I think this is a good beginning, with people starting to give these issues more importance. I want everyone to work together and give importance to the well-being of all in society and the safety of our society as a whole.

What’s the biggest challenge in promoting gender equality and ending gender-based violence in Thailand?
Violence against women still exists all over the world, as it always has. The problem hasn’t gone away, but I think today’s women are beginning to understand and know their rights. When faced with these problems, women need to step out, speak up and seek help. There are organizations that provide help. We want [victims of gender-based violence] to know who they can turn to for help. We don’t want them to stay silent and never tell anyone, because when it comes to violence, if it happens once, it’s bound to happen again and may lead to losses. And we don’t want things to progress to that point.


Every woman, therefore, needs to know her rights, what others are allowed to do to her, and what she should never tolerate. I’d like for us to have courage, but many simply don’t. I personally know many abuse victims who don’t have the courage to tell, which means they’re bound to be abused over and over again. I feel that women shouldn’t be victimized. Women are mothers and life givers. And as long as women are subject to abuse, it shows that differences between genders still exist. Men who oppress women still exist in families and in the workplace. And if you look even further, you’ll find that sexual abuse in families still goes on.

And these aren’t just my issues. As members of the same family, we need to try to make these things go away. They won’t all go away today; that’s impossible, because people are different in the way they think and the way they are raised. You might think that those who grow up in families where their dads abused their moms, will become adults who vow never to do that. But that’s not at all the case. Sometimes it takes root in their minds as children without them realizing it, making them feel that violence is nothing wrong, that it’s permissible. I think we need to educate our children well and make them understand that violence is not normal and not something that they should do. It has to start with children, and parents and schools need to make sure that these things don’t happen.

As a famous artist, how have you used your platform to promote diversity and equality?
As I said, when you stand in the spotlight, you have more opportunities than many others to serve as a voice, no matter what the issue is. I think it’s something all singers and actors should do. This opportunity isn’t available to just anyone. It’s up to you whether you choose to do it or not, but I’d like to ask you to please step up and be the voice for what should happen in this society, for what will help our society change for the better and make it a safer and better place to live.

What would you like to tell your fans and the general public about the importance of acceptance and respect for diversities?
I believe that all human beings have equal rights, whether they are men, women or people of any gender. As I said earlier, everybody has the right to choose how they live. The most important thing is, once you have made your choice, you need to set a good example and not do what many are against or be a burden on society. I believe everybody is equal in their thinking and how they live their life. You cannot discriminate by saying this gender is better than that gender. So do whatever makes you happy and be whatever makes you feel confident and happy. It’s best to be yourself.

See also: Fay Onchuma Durongdej on Creating Your Own Style

Get Exclusive Connections with LUXUO Thailand
Join us today
Connect!
Close
Join us for exclusive access to Luxuo Thailand's contents and events
Subscribe
close-image