The Great Room ชูจุดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางกรุงเทพ และบริการโคเวิร์คกิ้งสเปซระดับพรีเมียม ให้มีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น
บทความ: LuxuoTH ภาพ: ธนัท เตรียมชาญชูชัย
การสิ้นสุดของโรคระบาดโควิดส่งผลให้หลายอุตสาหกรรมฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว รวมทั้งธุรกิจโคเวิร์คกิ้งที่มีตัวเลขจำนวนสมาชิกเติบโตแบบก้าวกระโดด ทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ Luxuo ได้พูดคุยกับคุณสิลีน เดมีร์ (Selin Demir) ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและฮ่องกงของ The Great Room ผู้นำธุรกิจโคเวิร์คกิ้ง ถึงมุมมองและเจาะลึกมิติใหม่ๆ ของการยกระดับโคเวิร์คกิ้งสเปซให้โดดเด่นและแตกต่างด้วยการเลือก 2 ทำเลใจกลางกรุงเทพที่ Gaysorn Tower และอาคาร Park Silom ทำให้ The Great Room ไม่ใช่แค่สถานที่ทำงาน แต่เป็นศูนย์กลางในการสร้างชุมชน การเชื่อมต่อ และการเติบโตต่อเนื่องด้วยประสิทธิภาพสูงสุด
หลังจากสถานการณ์โควิด ธุรกิจโคเวิร์คกิ้งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
หลังจากเกิดโรคระบาด เราได้เห็นจำนวนสมาชิกโคเวิร์คกิ้งสเปซเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สถานการณ์โควิดได้เป็นตัวเร่งให้เกิดกระแสการทำงานทางไกลจากที่ไหนก็ได้ บริษัทต่างๆ ไม่ว่าขนาดใหญ่หรือเล็กมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการบริหารจัดการทำงานของพนักงาน และท่ามกลางกระแสความไม่แน่นอนที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ ที่ The Great Room รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างแน่นอน จึงได้มีปรับปรุงการให้บริการของเราให้มีความพร้อม และรองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเสมอ
เมื่อคุณเข้ามาในพื้นที่ของเรา สิ่งสำคัญคือคุณจะไม่มีข้อจำกัดใดๆ สมาชิกหรือผู้ที่มาใช้บริการจะมีอิสระในเข้าใช้พื้นที่ได้ทุกส่วน รวมถึงใช้บริการห้องรับแขก (Drawing Room) อันงดงามของเราที่ตั้งใจออกแบบให้มีบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองเช่นเดียวกับล็อบบี้ของโรงแรม เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ห้องรับแขก เราต้องการให้เป็นสถานที่ที่จะทำให้เกิดความคิดลื่นไหล เกิดความร่วมมือและการเชื่อมต่อเกิดขึ้น นั่นคือหัวใจสำคัญของ The Great Room ที่ต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีไม่ว่าคุณจะมาครั้งแรกหรือเป็นสมาชิกของเราอยู่แล้ว
แม้ว่าโควิดจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เช่น มีการทำงานระยะไกลเพิ่มขึ้น มีความยืดหยุ่นในการทำงาน แต่ The Great Room ยังคงยึดหลักการและมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมชุมชนเครือข่ายให้มีพลัง รวมทั้งให้การสนับสนุน ส่งเสริม ความร่วมมือ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ร่วมกัน
อะไรคือเอกลักษณ์ที่ทำให้ The Great Room แตกต่างจากคู่แข่ง
The Great Room ภูมิใจที่จะนิยามตัวเองว่าเป็นโคเวิร์คกิ้งสเปซระดับพรีเมียม ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการต้อนรับเป็นอย่างดี ผสมผสานกับจุดแข็งจากประสบการณ์ในธุรกิจโคเวิร์คกิ้งที่เรามีความมุ่งมั่นในการจัดลำดับความสำคัญของความเป็นอยู่ที่ดี ละความสะดวกสบายของสมาชิก เริ่มตั้งแต่การออกแบบสถานที่อย่างพิถีพิถัน ไปจนถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่น และการบริการที่ดูแลเอาใจใส่
ห้องรับแขกของเราทำหน้าที่เสมือนเป็นหัวใจหลักที่จะช่วยสร้างบรรยากาศ ส่งเสริมความสัมพันธ์ และการทำงานร่วมกัน เราต้องการเป็นมากกว่าสถานที่ในการทำงาน โดยการก้าวข้ามข้อจำกัดแบบเดิมๆ ของสำนักงาน จึงได้จัดให้มีสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด สร้างชุมชนที่เติบโตไปด้วยกัน ทำให้เกิดการเชื่อมโยงรวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาร่วมกัน
นอกจากนั้น เพื่อความสะดวกสบายที่มากยิ่งขึ้น สมาชิกของเราสามารถใช้บริการได้มากกว่า 160 แห่งทั่วโลกโดยเรามีพื้นที่ทำงานร่วมกันของ The Great Room ในประเทศไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย และยังมี Industrious ในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
The Great Room มักอยู่บนอาคารสูง สาเหตุเป็นเพราะอะไร
The Great Room มีความตั้งใจเลือกสถานที่ตั้งบนอาคารสูง โดยมีหลักปรัชญาที่สอดคล้องกับความต้องการและความคาดหวังของสมาชิก โดยเรามุ่งมั่นที่จะวางตำแหน่งตัวเอง ในฐานะโคเวิร์คกิ้งสเปซระดับพรีเมียม ที่นำเอาประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในการกำหนดทำเลที่ตั้ง การออกแบบพื้นที่เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี รับรู้ถึงความต้องการของสมาชิก เราให้บริการแบบมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้
The Great Room มีการออกแบบตกแต่งภายในที่โดดเด่นอย่างไรบ้าง
การออกแบบและตกแต่งภายใน The Great Room ได้รับแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งการใส่ใจในรายละเอียด พื้นที่ทุกตารางนิ้วของเราได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างพิถีพิถัน เพื่อรองรับและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เช่น การออกแบบห้องประชุมและพื้นที่โดยรอบ เราให้ความสำคัญกับแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านเข้ามา และใช้ฉากกั้นเป็นกระจก เพื่อให้มั่นใจว่าทุกพื้นที่จะได้รับแสงธรรมชาติ
นอกจากนี้ ปรัชญาการออกแบบของเรายังผสมผสานกับองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของตัวอาคารได้อย่างลงตัว ยกตัวอย่าง Gaysorn Tower ที่มีโครงสร้างโค้งโดดเด่น เราตั้งใจออกแบบสะท้อนความโค้งนี้ภายในพื้นที่ของเรา โดยมีการผสมผสานระหว่างสุนทรียศาสตร์ และฟังก์ชันการทำงานได้อย่างลงตัว ความกลมกลืนทางสถาปัตยกรรมได้ปรากฏชัดในทุกพื้นที่ รวมถึงรูปทรงโค้งมนอันงดงามของห้องรับแขก ช่วยสร้างบรรยากาศการต้อนรับที่อบอุ่น เชิญชวนให้เกิดการทำงานร่วมกันและความคิดสร้างสรรค์
ในส่วนของประโยชน์การใช้งาน ห้องประชุมของเราได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบที่หลากหลาย เช่น ห้อง Atelier ซึ่งออกแบบเป็นกล่องกระจก เหมาะกับการจัดแสดงการนำเสนอ หรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เพราะช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าขณะเดียวกัน สตูดิโอเป็นห้องประชุมสไตล์เวิร์คช็อป ก็จะมีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเซทอัพได้ตามความต้องการ ทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
แน่นอนว่า เราให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและการมีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากการออกแบบเก้าอี้นั่งที่ช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วม และการทำงานร่วมกันตลอดการประชุม รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย เพื่อให้มั่นใจว่าพื้นที่ของเราไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ใช้สอยสูงสุด และเอื้อต่อการเกิดปฏิสัมพันธ์ร่วมกันอีกด้วย
คำว่า “solopreneur” หมายถึงใคร เพราะคำนี้เห็นได้บ่อยบนเว็บไซท์ของคุณ
Solopreneurs หรือเรานิยามว่า “ผู้ประกอบการเดี่ยว” เป็นทั้งเจ้าของและพนักงานในคนเดียวกัน เป็นพลังขับเคลื่อนและอยู่เบื้องหลังธุรกิจของตนเอง พวกเขามีความรับผิดชอบในการจัดระเบียบ จัดการ และบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องด้วยตัวเอง ที่ The Great Room เราเลือกใช้คำว่า “solopreneur” เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการช่วยสนับสนุน สร้างโอกาสให้พวกเขาประสบความสำเร็จและเติบโตในธุรกิจ
เมื่อเจ้าของกิจการคนเดียวเลือกทำงานใน coworking space ของเรา พวกเขาจะได้พบกับชุมชน และเครือข่ายที่ให้การสนับสนุน เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ภายในพื้นที่ของเรา ผู้ประกอบการเดี่ยวมีโอกาสที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทำงานร่วมกับเพื่อนสมาชิก เพื่อส่งเสริมการเติบโตและสร้างนวัตกรรม แม้ว่าจะถูกเรียกว่า “คนเดียว” แต่จะไม่โดดเดี่ยว เพราะทีมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกของเราจะให้การต้อนรับและการสนับสนุนโดยพร้อมจะช่วยเหลือพวกเขาในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งการสนับสนุนด้านการบริหารนี้จะช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ประกอบการเดี่ยว ให้พวกเขาพุ่งเป้าไปข้างหน้า มุ่งเน้นขับเคลื่อนกิจการไปที่งานที่สำคัญได้
และคุณมีบริการที่เรียกว่า Enterprise Experience Pass ด้วย
Enterprise Experience Pass ของเรามอบโอกาสพิเศษให้กับพนักงานบริษัท ในการเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมนอกเหนือจากสำนักงานของตัวเอง โดยมาใช้บริการของโคเวิร์คกิ้งสเปซ เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับ บริษัทที่ต้องการเพิ่มความคล่องตัวด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์ และเพิ่มสวัสดิการความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพนักงาน บริการนี้จะทำให้พนักงานของบริษัทต่างๆ ได้สัมผัสกับการทำงานที่มีความยืดหยุ่นแบบโคเวิร์คกิ้งยุคใหม่ รวมทั้งเพลิดเพลินไปกับสิ่งแวดล้อมของชุมชน และสิทธิประโยชน์จากการต้อนรับระดับพรีเมียมของเรา
คุณเพิ่งเพิ่ม Park Silom เข้ามาในพอร์ตโฟลิโอ คุณมีแผนจะเพิ่มสาขาในกรุงเทพอีกหรือไม่ และจะยกระดับประสบการณ์การทำงานร่วมกันอย่างไร
เรากำลังสำรวจหาโอกาสใหม่ๆ ในกรุงเทพอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายธุรกิจของเรา แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีแผนการที่เป็นรูปธรรม นอกจากนั้น เรายังคงเปิดกว้างรับการพัฒนาที่มีศักยภาพและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราตลอด การเพิ่ม Park Silom เข้าไปในพอร์ตโฟลิโอของเราเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดถึงความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับประสบการณ์โคเวิร์คกิ้ง
ที่ Park Silom ชั้น 29 เราเรียกว่า ชั้นอำนวยความสะดวก (Amenity Floor) ซึ่งเราออกแบบมาเพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกให้กับผู้เช่าทุกรายในอาคาร Park Silom บริษัทต่างๆสามารถเข้าถึงห้องรับรองพิเศษ ห้องประชุม และพื้นที่จัดกิจกรรมระดับพรีเมียมของ The Great Room ได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างห้องเหล่านั้นภายในสำนักงานของตนเอง พื้นที่ของเราจะช่วยให้บริษัทผู้เช่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพื้นที่ทุกตาราง และตัดปัจจัยนี้ไปเพื่อให้ผู้เช่าพุ่งเป้าไปที่การดำเนินธุรกิจโดยไม่ต้องพะวง
แนวโน้มนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ Park Silom เท่านั้น เนื่องจากเราได้สังเกตเห็นว่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรือเจ้าของอาคารกำลังเพิ่มพื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวกเข้ามาในโครงการใหม่มากขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความรู้สึกเป็นชุมชนในหมู่ผู้เช่าและส่งเสริมการอยู่อาศัยระยะยาว ด้วยการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นภายในอาคารเพื่อลดภาระให้ผู้เช่า และมุ่งเน้นที่การดำเนินงานหลักของพวกเขาได้
บทความที่เกี่ยวข้อง: WOW Privée “Growing in Time” at The Great Room
With two locations in central Bangkok, The Great Room is perfectly positioned for productivity and flexibility.
Words: LuxuoTH Photo: Thanut Treamchanchuchai
The coworking scene has seen quite the transformation since the pandemic hit, with a real boom in memberships and a fresh emphasis on flexibility and adaptability. In this interview, we sit down with Selin Demir, General Manager for Thailand and Hong Kong at The Great Room, to dive into what has changed and what makes this premium coworking space stand out. From its warm, hospitality-inspired approach and partnership model to its strategic choice of high-rise locations, The Great Room is not just a place to work; it is a hub for peak performance, community building, connections that matter and continuous growth.
What is the scene of coworking like after the pandemic? What has changed and what has not?
Following the pandemic, we’ve seen a real surge in coworking space memberships. The pandemic acted as a catalyst for the remote work trend, prompting individuals and companies of all sizes to embrace greater flexibility in their work arrangements. People want spaces that can adapt to their changing needs, especially with all the ongoing global uncertainty. At The Great Room, we’ve definitely felt this shift and have enhanced our offerings to provide even greater flexibility.
Another big change is how people are using the space. It’s not just about having a designated office. Take, for example, a small office for a few people; they’re not confined to that space alone. They have the freedom to roam the entire floor, including our picturesque Drawing Room, which acts as a central hub reminiscent of the welcoming ambiance found in a hotel lobby. It is where ideas flow, collaborations happen, and connections are made. When you step into our Drawing Room, it sets the tone for your experience at The Great Room, whether you’re a first-time visitor or a seasoned member, it is the beating heart of our space.
While the pandemic brought about some big changes, such as the rise of remote work and the need for increased flexibility, our core values at The Great Room have remained unchanged. We continue to be fully committed to fostering a dynamic and supportive community where everyone can flourish, forge meaningful connections and innovate together.
How do you differ from your competitors? What makes The Great Room unique?
At The Great Room, our ethos revolves around infusing hospitality into the coworking experience. We proudly define ourselves as a premium hospitality-inspired coworking space. This designation signifies our unwavering commitment to prioritizing the well-being and comfort of our members. From the meticulous design of our spaces to the attentive service we provide, hospitality lies at the core of everything we do.
As mentioned previously, the Drawing Room serves as the heart of our space, much like a welcoming hotel lobby. Here, we create an atmosphere that fosters connections and collaboration, going beyond the traditional confines of an office. We aspire to transform the very notion of coming to work, ensuring that every visit to The Great Room is an uplifting and enriching experience. Ultimately, we want to go beyond being just a workspace, but provide an environment that encourages peak performance, creates a thriving community, enables meaningful connections, and promotes learning and development.
For even greater flexibility and convenience, our members have access to over 160 global locations. We have The Great Room coworking space available in Thailand, Singapore, Hong Kong and Australia, and further with Industrious in Europe and the United States.
Most of your locations are in a high-rise building. Is that by design or by accident? Or is there a philosophy behind that?
Our choice of high-rise locations is a deliberate one, guided by a philosophy that aligns with the desires and expectations of our members at The Great Room. We aim to position ourselves where our members naturally gravitate, seeking environments that elevate their work experience. As an established and refined coworking space, we cater to professionals with extensive career experience, who possess discerning tastes and specific requirements, and who are accustomed to premium office environments and expect nothing less.
Let’s talk about the interior design.
At The Great Room, we view interior design as a catalyst for enhancing performance and inspiring creativity. With meticulous attention to detail, every aspect of our space is carefully crafted to optimize functionality and décor. Take, for instance, the design of our meeting rooms and offices; we prioritize the influx of natural light by incorporating glass partitions, ensuring that even inner spaces enjoy the daylight.
Furthermore, our design philosophy seamlessly integrates with the architectural elements of our buildings. Take Gaysorn Tower, for example, with its distinctive curved structure. We deliberately mirror this curvature within our space, ensuring a perfect blend of aesthetics and functionality. This commitment to architectural harmony is evident in every aspect of our environment, including the gracefully curved contours of our Drawing Room, which creates a warm welcoming atmosphere that invites collaboration and creativity.
In terms of functionality, our meeting rooms are thoughtfully designed to cater to diverse needs and preferences. For example, our Atelier Room, with its glass-box design, is ideal for showcasing presentations or product launches, fostering engagement and interaction with clients. Meanwhile, our studios and workshop-style meeting rooms offer flexibility, seamlessly transitioning from informal to formal settings as needed.
Last but not least, we prioritize comfort and engagement, evident in the design of our perched chairs that encourage active participation and collaboration throughout meetings. These small yet significant details reflect our commitment to meeting the varied requirements of different industries, ensuring that our spaces are not only visually pleasing, but also highly functional and conducive to productive interactions.
You use quite often the term “solopreneur” on your website. So what is a solopreneur? Are they like freelancers with more branding or something like that?
Solopreneurs are the driving force behind their businesses, serving as both the owner and workforce. They bear the responsibility of organizing, managing and navigating the risks associated with their enterprise. At The Great Room, we choose to use the term “solopreneurs” to underscore our commitment to helping empower them in their business endeavors.
When solopreneurs choose to work in our coworking spaces, they will find a supportive community that ensures they never feel isolated. Within our shared spaces, they have the opportunity to exchange ideas and collaborate with fellow members, fostering growth and innovation. Despite being labeled as “solo,” solopreneurs benefit from the hospitality and support provided by our concierge team, which assists them in their day-to-day business operations. This administrative support further enhances their experience and allows them to focus on the important tasks to drive their ventures forward.
On the other end of the service spectrum, you have what you call Enterprise Experience Pass.
Our Enterprise Experience Pass offers a unique opportunity for established companies to enjoy extended facilities outside of their office in a coworking space. It offers the perfect introduction for companies who are looking to increase their real estate agility and want to boost employee wellbeing. This powerful pass enables them to experience the freedom and flexibility of modern coworking, while their teams enjoy the benefits of our premium hospitality-inspired environment.
You have recently added the Silom location to your portfolio. Are there more plans to increase locations in Bangkok? Do you have something else in mind to elevate further the coworking experience?
In Bangkok, we are constantly exploring new opportunities to expand our presence. While there are no concrete plans at the moment, we remain open to potential developments that align with our vision. The recent addition of Park Silom to our portfolio exemplifies our commitment to enhancing the coworking experience.
At Park Silom, we partnered with the Landlord to manage what is known as an amenity floor on the 29th level. We’ve designed the space to support and facilitate the needs of all tenants within the building. These companies gain access to our premium lounges, a variety of flexible meeting facilities and event spaces without the need for individual build-outs within their offices. This streamlined approach allows them to optimize their square footage and enhance operational efficiency.
This trend extends beyond Park Silom, as we’ve observed landlords increasingly incorporating amenity floors into new developments. These amenities serve to foster a sense of community among tenants and encourage longer-term occupancy. By providing convenient access to essential services and facilities within the building, tenants can avoid the hassle of external venues and focus on their core operations.
See also: WOW Privée “Growing in Time” at The Great Room
