เครือบริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติฝรั่งเศสเปิดเกมรุก ช่วยประเทศสู้สถานการณ์ไวรัส Covid-19
บทความ: โจนาธาน โฮ ภาพ: LVMH
ข่าวล่ามาว่า LVMH ออกคำสั่ง ปรับการทำงานของโรงงานน้ำหอมให้ช่วยผลิตเจลล้างมือแบบฆ่าเชื้อแทนเพื่อช่วยต่อสู่กับไวรัสโคโนร่า ถือเป็นการตัดสินใจของภาคธุรกิจในรูปแบบที่เราไม่ได้เห็นกันมานาน ตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาบางรายต้องหันมาช่วยประเทศของตนผลิตอาวุธ
การตัดสินใจในครั้งนี้ของ LVMH เหมือนเป็นการนำเอาปรัชญา Gospel of Wealth ของแอนดรูว์ คาร์เนกีไปปฏิบัติใช้อย่างจริงจัง โดยคำสั่งในการปรับแผนการผลิตดังกล่าวออกมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม 2020 และมีผลกับโรงงานที่ปัจจุบันผลิตน้ำหอมและเครื่องสำอางในเครือ
ลอเรน แชร์แมน บรรณาธิการบริหารแห่ง Business of Fashion เป็นผู้ออกมารายงานถึงข่าวนี้ว่าคำสั่งดังกล่าวส่งตรงมาจากเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ประธานคณะกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ LVMH โดยตรง ส่งผลให้โรงงานในเครือ LVMH จำนวน 16 แห่งที่เดิมผลิตน้ำหอมและเครื่องสำอางของ Christian Dior, Guerlain และ Givenchy ต้องเปลี่ยนมาผลิตเจลล้างมือแบบฆ่าเชื้อแทนตั้งแต่วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม เพื่อนำไปมอบให้กับหน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลในประเทศฝรั่งเศสโดยไม่คิดมูลค่า
ข้อความตอนหนึ่งของประกาศดังกล่าวระบุว่า “LVMH จะใช้สายการผลิตของแบรนด์น้ำหอมและเครื่องสำอางในเครื่องเพื่อผลิตเจลแอลกอฮอลจำนวนมากตั้งแต่วันจันทร์ เจลเหล่านี้จะมอบให้กับหน่วยงานทางด้านสาธารณสุขโดยไม่คิดมูลค่า และ LVMH จะคงมาตรการนี้ไว้นานตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์สุขแห่งงานสาธารณสุขฝรั่งเศส”
ทั้งนี้ เครือ LVMH คาดว่าจะผลิตเจลล้างมือแบบฆ่าเชื้อได้เป็นปริมาณ 12 ตันในสัปดาห์แรก และจะผลิตต่อไปเรื่อยๆ หากประเทศฝรั่งเศสยังมีความจำเป็นในการใช้งานอยู่
ย้อนกลับไปช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกามีส่วนสำคัญในการช่วยให้ฝ่ายพันธมิตรได้รับชัยชนะ เพราะในช่วงต้นปี 1944 นั้น ยอดการผลิตสินค้ารวมของโรงงานต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็มากกว่าประเทศฝ่ายอักษะถึงสองเท่าแล้ว แบรนด์นาฬิกา Hamilton, Bulova และ Waltham ก็ร่วมด้วยโดยปรับรูปแบบการผลิตของตนให้ช่วยเหลือประเทศได้ในสภาวะสงคราม ดังนั้น จิตอาสาของ LVMH ในครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่โลกได้เห็นในช่วงเวลากว่า 70 ปี และน่าจะมีส่วนช่วยให้มนุษย์สามารถเอาชนะโคโรน่าไวรัสได้ด้วยหากสามารถจุดกระแสให้อุตสาหกรรมอื่นๆ ร่วมด้วยช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ หน้ากากอนามัยหรือเวชภัณฑ์อื่นๆ ที่จำเป็น
ขณะเดียวกัน Amazon และมูลนิธิเกตส์ ก็กำลังหารือกันอยู่ว่าองค์กรทั้งสองจะช่วยนำส่งชุดตรวจหาโคโรน่าไวรัสไปยังบ้านเรือนต่างๆ ในเมืองซีแอตเติลได้อย่างไร นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันว่าโลกเราต้องการมากกว่าเงินบริจาค แต่หากสามารถนำศักยภาพในการผลิตและจัดกระจายสินค้ามาช่วยให้เกิดประโยชน์ได้เช่นนี้ก็จะเป็นการดีอย่างยิ่ง
บทความที่เกี่ยวข้อง: Virtual Escapes to Museums of the World
The French conglomerate is leveraging its production and logistics capability in the fight against the coronavirus.
Words: Jonathan Ho Photo: LVMH
LVMH has ordered its parfums facilities to produce hand sanitisers in order to combat the coronavirus, a move which has not been seen since WW2 when watchmakers made arms.
In every continent, today’s philanthropists acknowledge the enduring influence of Andrew Carnegie. But on Sunday 15 March 2020, LVMH Moët Hennessy took Carnegie’s Gospel of Wealth philosophy to the next level. The Louis Vuitton owner ordered that its perfume and cosmetics facilities be re-tooled to manufacture hydroalcoholic gel or hand sanitisers.
Lauren Sherman, Executive Editor of Business of Fashion reported that the directive came straight from LVMH Chairman and Chief Executive Bernard Arnault. Monday 16 saw LVMH facilities that produce fragrances and cosmetics for Christian Dior, Guerlain and Givenchy switching over to hand sanitisers and hand disinfectant gel, which will be given to French health authorities and hospitals free of charge.
“LVMH will use the production lines of its perfume and cosmetic brands to produce large quantities of hydroalcoholic gels from Monday. These gels will be delivered free of charge to the health authorities. LVMH will continue to honour this commitment for as long as necessary, in connection with the French health authorities.” LVMH statement
The group projects that it will make 12 tons of hand sanitiser within its first week and it will continue to do so free of charge as long as France requires.
During World War II, America’s manufacturing might was key to the Allied victory. By the beginning of 1944, the output of American factories was twice that of all the Axis nations as manufacturers, including watchmakers like Hamilton, Bulova and Waltham, shut down normal operations and retooled for wartime; in essence, LVMH’s act of philanthropy in switching from cosmetics to hand sanitiser has not been seen in over 70 years and theirs is an act that would appear to be the key in our own allied victory against the coronavirus if this influences other industries to join them – creating medical diagnostic tools, masks and other vital medical supplies.
Meanwhile, Amazon and Gates Foundation are in discussion to deliver coronavirus test kits to Seattle homes. Further proving that the needs of the world have evolved beyond mere financial aid but in the leveraging of production and logistics capability as demonstrated by the likes of LVMH.
See also: Virtual Escapes to Museums of the World