ต่อให้มีปัญหาเรื่องเบร็กซิทและสถานการณ์โรคระบาด แต่ลอนดอนก็ยังคงแซงหน้านิวยอร์คได้ในเรื่องจำนวนประชากรที่เป็นเศรษฐีเงินล้าน (ดอลลาร์)
บทความ: โจเซฟ โลว์ ภาพ: Shutterstock
ชัวร์แล้วอย่างเป็นทางการ! เมื่อที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ Knight Frank เปิดเผยรายงานว่าลอนดอนเป็นเมืองที่มีประชากรระดับเศรษฐีเงินล้าน (ดอลลาร์) อาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดในโลก โดยระบุว่าชาวลอนดอนจำนวนอย่างน้อย 870,000 คนหรือกล่าวคือประชากร 1 ใน 10 มีสินทรัพย์สุทธิคนละกว่า 720,000 ปอนด์หรือราว 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐและทำให้เขาเหล่านี้เข้าขั้นเป็นไฮเน็ทเวิร์ธอินดิวิดวล ซึ่งเดิมทีเมืองที่มีจำนวนประชากรเศรษฐีเงินล้านเช่นนี้มากที่สุดก็คือนิวยอร์ค
เมื่อเจาะลงไปในรายละเอียดจะพบว่าราคาของอสังหาริมทรัพย์ก็ถีบตัวสูงขึ้นด้วย เพราะในเมื่อราคาบ้านโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 514,000 ปอนด์ คนจำนวนมากที่มีบ้านอยู่ในลอนดอนจึงเข้าข่ายไฮเน็ทเวิร์ธโดยปริยาย เลียม เบลีย์ หัวหน้าแผนกวิจัยระดับโลกของ Knight Frank กล่าวว่า “ประเด็นก็คือว่าเกณฑ์การเป็นไฮเน็ทเวิร์ธอินดิวิดวลคือ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเท่ากับ 720,000 ปอนด์ และราคาบ้านในลอนดอนโดยเฉลี่ยคือ 514,000 ดังนั้น หลายครอบครัวจึงเข้าข่ายไฮเน็ทเวิร์ธไปเลย ที่น่าตลกก็คือว่าราคาบ้านในลอนดอนที่อยู่ในระดับสูงนี้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้หลายครอบครัวได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้มีความร่ำรวย”
ลอนดอนเป็นเมืองเป้าหมายหลักของเศรษฐีชาวฮ่องกงจำนวนมาก เพราะว่าเกาะฮ่องกงแต่เดิมเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และรัฐบาลอังกฤษได้ออกระบบใหม่เพื่อช่วยให้ผู้ถือหนังสือเดินทางบริติชโพ้นทะเลและสมาชิกในครอบครัวได้เป็นพลเมืองอังกฤษแบบเต็มขั้นได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ชาวฮ่องกงจำนวนมากเป็นกังวลว่าจีนจะริดรอนเสรีภาพทางด้านการเมืองของประชาชนที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงมากกว่านี้ ดังนั้นจึงตัดสินใจว่าตนควรจะอพยพไปยังประเทศอื่นที่น่าอยู่มากกว่า เศรษฐีเงินล้านเหล่านี้สามารถขอรับวีซ่าระดับทองของอังกฤษได้ด้วยการลงทุนเป็นจำนวนเงินอย่างน้อย 2 ล้านปอนด์ในสหราชอาณาจักร ดังนั้นเราจึงได้เห็นการออกวีซ่าลักษณะนี้เพิ่มขึ้น 68% ตามผลงการวิจัยของสำนักกฎหมาย Bates Wells นั่นเอง
รายงานของ Knight Frank ยังระบุด้วยว่าลอนดอนเป็นเมืองที่มีบ้านพักระดับหรูมากที่สุด โดยเกณฑ์ความหรูที่ใช้ก็คือมูลค่า 2 ล้านปอนด์เป็นพื้นฐาน ยิ่งเมื่อประกอบกับสิ่งอำนวยความสะ ดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารระดับดาวมิชลิน โรงอุปรากรและโรงละคร มหาวิทยาลัยระดับโลกและช้อปปิ้งมอลต่างๆ ลอนดอนจึงเป็นสวรรค์สำหรับคนมีเงินอย่างแท้จริง ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนเงินเหลือจำนวนมากจากต่างประเทศจะแห่กันมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่นี่ เพราะยังได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินปอนด์และผลประโยชน์ด้านภาษีที่เกิดจากเบร็กซิทอีกด้วย ส่งผลให้มีธุรกรรมซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 24.1% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคมของปีที่แล้ว ตามตัวเลขที่เปิดเผยโดยกรมสรรพากรและศุลกากรของอังกฤษ
บทความที่เกี่ยวข้อง: 5 Non-Tesla Electric Vehicle Companies
Despite Brexit and the coronavirus pandemic, London has dominated New York in the number of millionaires in the city.
Words: Joseph Low Photo: Shutterstock
It’s official! London has the world highest concentration of millionaires according to a report conducted by Knight Frank — a property consultancy entity. No less than 870,000 Londoners are considered dollar millionaires with assets worth more than GBP 720,000 which makes them high net worth individuals. In comparison to New York, which used to clinch the top place for the aggregation of millionaires, now one in ten people in London are dollar millionaires.
To expound further, the swell could be attributed to the rise in property prices, and with average housing costing GBP 514,000, a lot of people who owned property in London are tipped into the HNWI category. “The main point is that our HNWI threshold is USD 1 million, so GBP 720,000, and with average house prices in London at GBP 514,000, a lot of households fall into the HNWI category,” says Liam Bailey, the global head of research at Knight Frank. “Ironically the high cost of housing in London is the main driver for categorising so many households as being wealthy.”
London is also a prime location for many rich Hong Kongers, as the island was a former British colony, the British government has launched a new scheme allowing holders of the British national overseas (BNO) passport and their dependents easier pathway to becoming full-fledged British citizens. Many in Hong Kong are worried about China encroaching on the political freedom of the citizens living in the island-city, therefore, choosing to leave for “better pastures” overseas. For these millionaires, investment equivalent to at least GBP 2 million in the UK would secure them the golden visa, as a result, a 68% increase in these visas were issued according to a separate research by the law firm Bates Wells.
The Knight Frank report has further quantified London to possess the largest number of “prime” homes with an estimated value of GBP 2 million as a baseline. Coupled with amenities such as Michelin-starred restaurants, opera houses and theatres, world-class universities, and shopping malls, the city is a rich man’s playground. It is no wonder that many overseas buyers flocked over to size up the properties in the wake of the drop in pound value and tax advantages as a result of the aftermath that is Brexit. Thus, the transaction sales recorded a 24.1% jump compared to last January according to new figures released by HM Revenue and Customs (HMRC).
See also: 5 Non-Tesla Electric Vehicle Companies