รวมดีลใหญ่ที่เกิดจากการขยับตัวของค่ายยักษ์ในวงการลักชัวรีช่วงเดือนกรกฎาคมนี้
บทความ: LuxuoTH
เดือนกรกฎาคมนี้มีความเคลื่อนไหวในกลุ่มแบรนด์ระดับลักชัวรีมากมาย เริ่มตั้งแต่การที่ Kering เข้าซื้อกิจการ Lindberg ทั้ง 100% จากครอบครัวผู้เป็นเจ้าของเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง Lindberg เป็นแบรนด์แว่นตาเก่าแก่จากเดนมาร์คที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตเฟรมแว่นตาด้วยวัสดุไทเทเนียม เราเชื่อว่า Lindberg จะเข้ามาเสริมทัพให้กับ Kering Eyewear ได้เป็นอย่างดี แบรนด์แว่นตาในกลุ่มธุรกิจนี้ ได้แก่ Gucci, Cartier, Saint Laurent, Bottega Veneta, Balenciaga, Chloé, Alexander McQueen, Montblanc, Brioni, Dunhill, Boucheron, Pomellato, Alaïa, McQ และ Puma
ข่าวต่อไป คือ การกลับมาของฟีบี้ ไฟโล อดีตครีเอทีฟไดเรคเตอร์ของ Céline ซึ่งอยู่ในตำแหน่งนั้นนานนับทศวรรษตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 แต่ครั้งนี้ที่เธอกลับมาก็ไม่ได้ทำงานให้กับใคร เธอกลับเข้าวงการพร้อมแบรนด์ในชื่อตัวเองเลยนั่นก็คือ Phoebe Philo Studios ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก LVMH ไฟโลให้สัมภาษณ์กับ The Business of Fashion ว่า “ดิฉันดีใจมากที่จะได้กลับมาใกล้ชิดกับคนที่ชอบผลงานของดิฉันและผู้คนทั่วโลก การได้ทำงานแบบมีอิสระ ได้เลือกได้ทดลองสิ่งต่างๆ ตามใจนั้นเป็นเรื่องสำคัญสำหรับดิฉันมากจริงๆ” ขณะนี้เรายังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์ใหม่ของดีไซเนอร์ชาวอังกฤษท่านนี้ แต่เราก็หวังว่าจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมในเร็วๆ นี้
มาดูทางฝั่งอิตาลีกันบ้าง Ermenegildo Zegna ไม่ได้ขายแบรนด์ แต่จะเอาหุ้นของตนเองเข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค รายละเอียดในเอกสารข่าวเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมระบุว่ากระบวนการนี้จะเกิดขึ้นผ่านทางการควบรวมกิจการกับบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อดำเนินธุรกรรมเฉพาะในชื่อ Investindustrial Acquisition Corporation หรือ IIAC เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้นแล้วในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ บุคคลทั่วไปก็จะสามารถเข้าลงทุนในบริษัทระดับตำนานที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีแห่งนี้ได้ ทั้งนี้ ทางบริษัทประเมินมูลค่าแรกเริ่มเอาไว้ที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยครอบครัวเซนญาจะยังคงอำนาจในการบริหารบริษัทที่จะควบรวมใหม่นี้ด้วยการถือหุ้น 62% โดยประมาณ
แบรนด์สัญชาติอิตาเลียนอีกแบรนด์หนึ่งที่กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนแปลงสำคัญก็คือ Etro ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1968 และดำเนินธุรกิจในรูปแบบที่มีครอบครัวบริหารมาโดยตลอด จนถึงเวลานี้จึงวางแผนเติบโตให้ได้ไกลยิ่งกว่าเดิมด้วยการขายหุ้น 60% ให้แก่ L Catterton ซึ่งเป็นบริษัททุนที่ก่อตั้งร่วมกันระหว่าง Catterton, LVMH และ Groupe Arnault เมื่อมีเงินทุนสนับสนุนเช่นนี้แล้ว Etro ก็จะขยายกิจการให้ไปไกลทั่วโลกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียซึ่งยังมีโอกาสเพื่อการเติบโตอีกมากสำหรับบริษัทจากมิลานแห่งนี้ซึ่งจะมีเจโรลาโม เอโทร ผู้ก่อตั้งบริษัท ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทต่อไป ผลิตภัณฑ์ของ Etro ได้แก่ สินค้าแฟชั่นหญิงและชาย แอคเซสซอรี ผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม น้ำหอมและของแต่งบ้าน
ข่าวสุดท้ายและน่าจะเป็นข่าวดังที่สุดในบ้านเรา LVMH และเวอร์จิล อาโบลห์ ทำข้อตกลงครั้งสำคัญในการที่ LVMH จะซื้อหุ้น 60% ในแบรนด์ Off-White ในขณะที่ทางอาโบลห์จะคงหุ้นไว้ 40% และทำหน้าที่ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ของแบรนด์ที่เขาก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2013 ก่อนที่เขาจะมาร่วมงานกับ LVMH ในตำแหน่งอาร์ทิสติกไดเรคเตอร์ของ Louis Vuitton เมื่อปี ค.ศ. 2018 พร้อมกันนี้ LVMH ยังประกาศด้วยว่าจะร่วมกับอาโบลห์ในการ “ทำโปรเจคใหม่ๆ ร่วมกันในหลากหลายแง่มุมของแวดวงลักชัวรี” โดยอาโบลห์ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้ใช้ความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อทำงานทุ่มเทให้กับการสร้างโอกาสสำหรับบุคคลหลากหลายกลุ่มอย่างจริงจัง ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมและเปิดกว้างยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เรามีกิจการอยู่ นี่เป็นแพลทฟอร์มใหม่ที่ยิ่งใหญ่เพื่อการขยายผลดิสรัปชั่นที่เราได้ก่อนให้เกิดขึ้นแล้วให้เติบโตไปได้ไกลยิ่งกว่าเดิม”
บทความที่เกี่ยวข้อง: Have Luxury Goods Lost Their Allure Amidst New Emerging Technologies?
Lindberg and Off-White are among the brands with major changes this month.
Words: LuxuoTH
It could not have been a busier July. Moves were made against the backdrop of concerns over Covid resurgence as several countries battle the Delta variant. On 8 July, Kering made an announcement that they have acquired 100% of shares in Lindberg from the owning family. The Danish luxury eyewear brand is best known for their use of titanium to product frames. We believe the expertise of Lindberg will become a great asset of the Kering Eyewear business unit whose other eyewear brands are
Gucci, Cartier, Saint Laurent, Bottega Veneta, Balenciaga, Chloé, Alexander McQueen, Montblanc, Brioni, Dunhill, Boucheron, Pomellato, Alaïa, McQ and Puma.
Another major announcement involved Phoebe Philo, the former Creative Director of Céline of one decade from 2008, who returns to the fashion scene with a label of her own. Phoebe Philo Studios will be a clothing and accessories label with minority financial backing from LVMH. In her own words to The Business of Fashion, she said, “I am very much looking forward to being back in touch with my audience and people everywhere. To be independent, to govern and experiment on my own terms is hugely significant to me”. Details on of this well-loved British designer are limited at this time but we hope to learn more about it in the near future.
Ermenegildo Zegna is not selling but they are going public with shares to be listed on the New York Stock Exchange. In a press release issued on 19 July, the Italian group made it clear that this will be done through a merger with a special purpose company called Investindustrial Acquisition Corporation (IIAC). Once the process is completed in the last quarter of this year, the public will be able to invest in the historic company with strong fundamentals and growth potential. The initial enterprise value will be USD 3.2 billion and the Zegna family will retain control over the merged entity with approximately 62% stake in it.
Another major news is also from an Italian brand. A family-run fashion house since 1968, Etro is aiming for new heights through the offering of 60% shares to L Catterton – a private equity joint venture between Catterton, LVMH and Groupe Arnault. The partnership will enable Etro to expand their global reach, with a strong focus on opportunities in Asia. The Milan-based company will continue to be led by founder Gerolamo Etro in the capacity as the Chairman. Their diversified product categories include women’s and men’s fashion, accessories, beauty, fragrances and home goods.
Lastly, and perhaps most prominently, LVMH and Virgil Abloh have made a significant agreement where LVMH will acquire 60% stake in Off-White, leaving Abloh with 40% interest and the Creative Director position of the brand he created in 2013 before joining the group as their Artistic Director of Louis Vuitton in 2018. It was also announced at this time that LVMH and Abloh will “jointly pursue new projects across luxury categories”. On this Abloh said, “I’m also honored to use this partnership to deepen my longstanding commitment to expand opportunities for diverse individuals and foster greater equity and inclusion in the industries we serve. This is an incredible new platform to take the disruption we’ve achieved together to a whole new level”.
See also: Have Luxury Goods Lost Their Allure Amidst New Emerging Technologies?
