เครือธุรกิจลักชัวรี่ LVMH ประกาศผลประกอบการปี 2019 ที่ดีงาม แม้แต่เหตุความวุ่นวายในฮ่องกงก็ไม่อาจฉุดได้
บทความ: LuxuoTH ภาพ: LVMH
LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton หรือ LVMH เป็นเครือบริษัทขนาดยักษ์ที่ประกอบด้วย 75 แบรนด์หรูในหกอุตสาหกรรมสำคัญ ชื่อที่หลายคนคุ้นเคยกันก็ได้แก่ Dom Pérignon, Belvedere, Celine, Loewe, Givenchy, Berluti, Rimowa, Guerlain, Acqua di Parma, Bulgari, TAG Heuer และ Zenith ล่าสุดในปี 2019 ที่เพิ่งจะผ่านไปนั้นก็ยังมีการควบรวมกิจการมาอีกสองแบรนด์สำคัญ นั่นก็คือ Belmond และ Tiffany & Co.
แม้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ ทั่วโลกจะมีความวุ่นวายเป็นระยะในปีที่ผ่านมา แต่ LVMH ก็ยังคงมีรายได้สูงถึง 53,670 ล้านยูโรหรือเพิ่มขึ้น 15% และที่เพิ่มขึ้น 15% เช่นกันก็คือกำไรจากการประกอบการ 11,504 ล้านยูโร และในวันที่ 16 เมษายนนี้ LVMH จะเสนอในที่ประชุมสามัญประจำปีว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลจำนวน 6.80 ยูโรต่อหุ้น (สูงกว่าปีก่อนหน้า 13%) โดยจะมีการจ่ายยอดเงิน 4.60 ยูโรในวันที่ 23 เมษายนเนื่องจากก่อนหน้านี้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 2.20 ยูโรเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2019
การเติบโตของ LVMH ในปี 2019 นั้นเกิดจากทุกตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุโรป สหรัฐอเมริกาและเอเชีย แม้ว่าจะมีเหตุความวุ่นวายในฮ่องกงในช่วงครึ่งหลังของปีก็ตาม
ในธุรกิจแฟชั่นและเครื่องหนังนั้นก็มี Louis Vuitton และ Christian Dior เป็นสองแบรนด์ที่นำมา ตามด้วย Fendi และ Celine ส่วน Loewe นั้นตามข่าวแจ้งว่าเติบโตดีเช่นกัน ในขณะที่ Loro Piana, Rimowa และ Berluti ต่างก็มีพัฒนาการในระดับที่ดี
ทางฝั่งนาฬิกาและเครื่องประดับนั้นเติบโต 3% โดยมี Bulgari ที่มีผลประกอบการดีมากจากคอลเลคชั่น Fiorever ซึ่งเปิดตัวในช่วงปลายปี 2018 และยังผลให้มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และนาฬิกา Serpenti Seduttori ก็ได้รับการตอบรับที่ดีในตลาดเช่นกัน ส่วน Hublot ก็มีการเติบโตที่แข็งแกร่งด้วยนาฬิกาในคอลเลคชั่น Classic Fusion, Big Bang และ Spirit of Big Bang
LVMH มีกิจการค้าปลีกด้วย เช่น Sephora ซึ่งเติบโตอย่างดีและมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียและตะวันออกกลาง ส่วน DFS นั้นก็ได้รับผลกระทบจากการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปฮ่องกงซึ่งเป็นตลาดสำคัญของทางแบรนด์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2019
LVMH มีความมั่นใจในปี 2020 แต่ในขณะเดียวกันก็จะใช้ความระมัดระวังในการพัฒนาแบรนด์ต่างๆ ควบคู่ไปกับการรักษาไว้ซึ่งคุณภาพของผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วโลก
บทความที่เกี่ยวข้อง: Big Firms Driving the French Economy
The luxury product group announced exceedingly good performance, despite the situations in Hong Kong.
Words: LuxuoTH Photo: LVMH
LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton or LVMH bills themselves as the world leader in high-quality products, operating through 75 brands in six sectors including Dom Pérignon, Belvedere, Celine, Loewe, Givenchy, Berluti, Rimowa, Guerlain, Acqua di Parma, Bulgari, TAG Heuer and Zenith. Two of the latest brands joining this umbrella in 2019 are Belmond and Tiffany & Co.
Despite global circumstances in 2019, LVMH recorded a revenue of EUR 53,670 million for the year – a rise of 15%. Also up 15% is the profit from recurring operations of EUR 11,504 million. Later this year, on 16 April, the group will propose at the annual general meeting a dividend of EUR 6.80 per share – an increase of 13%. As a result, a balance of EUR 4.60 will be paid on 23 April as an interim dividend of EUR 2.20 was already paid on 10 December 2019.
This good performance was contributed by all geographic areas, notably Europe, the United States and Asia, despite the situations in Hong Kong in the second half of 2019.
Performance leaders in the fashion and leather goods sector are Louis Vuitton and Christian Dior, followed by Fendi and Celine. Loewe is reported to have delivered a strong growth while “Loro Piana, Rimowa and Berluti experienced good progress”.
Their watches and jewellery business group is trailing with recorded organic revenue growth of 3%. Bulgari continues to perform very well with the late 2018 collection Fiorever contributing significantly to growth, while the Serpenti Seduttori watch is exceptionally well received as well. Hublot enjoyed a strong growth with their Classic Fusion, Big Bang and Spirit of Big Bang watches.
In their selective retailing business group, Sephora is experiencing strong growth and continues to gain market share, particularly in Asia and the Middle East, while DFS faced a slowdown in tourism in Hong Kong – an important market – in the second half of 2019.
LVMH is cautiously confident for 2020 as they further develop their brands while remaining committed to the quality of their products and distribution.
See also: Big Firms Driving the French Economy
